ปธ.วิป รบ.ฉะฝ่ายค้านแผนสูงยื้อวาระแก้ รธน. รอจังหวะให้องค์ประชุมล่ม เชื่อชาวบ้านเบื่อฟังแล้ว วอนเลิกเล่นเกม แขวะต้องถูกใจทุกอย่างถึงปล่อยผ่าน ทีมโฆษก พท.ได้ทีเฉ่ง “รสนา” แถไปเรื่อย หลังโดดให้ข้อมูลเสียบบัตรแทนแนะให้ออกมาขอโทษดีกว่า
วันนี้ (30 เม.ย.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอุดมเดช รัตนเสถียร ประธานวิปรัฐบาล กล่าวภายหลังการประชุมวิปรัฐบาลว่า ที่ประชุมวิปรัฐบาลได้มีการเชิญตัวแทนจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เข้ามาหารือถึงขั้นตอนการทำประชามติว่ามีความกังวลหรือห่วงใยในเรื่องอะไรหรือไม่ และได้พิจารณาถึงร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญในวาระ 2 ที่มีการอภิปรายกันมาอย่างยาวนาน แต่ก็ถือว่าเป็นสิทธิของฝ่ายค้านที่ละเมิดไม่ได้ ฉะนั้น อยากฝากขอให้ประธานในที่ประชุมได้กำชับ ให้พูดอยู่ในประเด็นอย่ายืดเยื้อ และอย่าปล่อยให้อภปรายเหมือนอยู่ในวาระ 1 โดยวันนี้ ส.ส.และ ส.ว.มองตรงกันว่า ที่ผ่านมาถือว่าใช้เวลาฟุ่มเฟือยเกินไป อีกทั้งเชื่อว่าประชาชนเลิกสนใจติดตามรับฟังไปแล้ว ดังนั้นก็จะนำเรื่องนี้ไปหารือกับประธานวิปฝ่ายค้านในวันที่ 1 พ.ค.นี้ โดยจะคุยเรื่องกรอบระยะเวลาอีกครั้งโดยวิปทั้ง 3 ฝ่าย
“สัปดาห์นี้จะมีการอภิปรายกันต่อไปอีก 3 วัน โดยไม่รู้ว่าจะเสร็จหรือไม่ เรื่องนี้ต้องถามฝ่ายค้าน ที่ไม่รู้ว่ามีเจตนาอะไรกันแน่ ซึ่งจะเป็นไปได้หรือไม่ว่า มีเจตนาที่จะทำให้ ส.ว.เหนื่อยล้า และหาจังหวะตอนองค์ประชุมไม่ครบ โดยความจริงน่าจะเห็นใจสมาชิกกันบ้าง เพราะหลายคนเขาก็ต้องลงพื้นที่ และต้องเดินทาง แต่ก็ต้องมานั่งอยู่โยงในสภา ถ้าหากฝ่ายค้านมีเจตนาอะไรบ้างอย่าง ก็ขอให้หยุดเถิด เพราะวันนี้เราใช้เวลาการถ่ายทอดสดไปมากแล้ว พูดกันเยอะฟุ่มเฟือยไปก็มาก มันเหมือนกับการไม่ให้เกียรติประชาชน ซึ่งฝ่ายค้านต้องได้ทุกอย่างตามที่ต้องการอย่างนั้นหรือถึงจะหยุดได้” นายอุดมเดชกล่าว
ด้าน นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส.กทม.พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่ น.ส.รสนา โตสิตระกูล ส.ว.กทม. ปฏิเสธการเดินทางมาให้ข้อมูลต่อคณะกรรมการตรวจสอบการกดบัตรแทนกัน ที่รัฐสภาตั้งขึ้นในวันนี้ (30 เม.ย.) ว่า การที่ น.ส.รสนาอ้างว่าตนเป็นผู้มีส่วนได้ส่วนเสียนั้นจึงไม่อยากมาให้ข้อมูล ตนไม่เข้าใจว่าตนมีส่วนได้ส่วนเสียอย่างไรกับเรื่องนี้ ซึ่งนายบุญยอด สุขถิ่นไทย ส.ส.กทม.ต่างหากที่มีส่วนได้ส่วนเสียและนั่งเป็นกรรมการอยู่ด้วย อย่างไรก็ตาม ถ้ามันทำให้สบายใจ ตนก็ยินดีลาออกจากคณะกรรมการสอบชุดนี้ ไม่มีปัญหา แต่ขอให้กระบวนการสอบสวนเดินหน้าต่อไป
“เรื่องนี้เป็นเพียงการแถมากกว่า เมื่อสอบไปสอบมาพบว่าไม่เป็นไปตามที่ น.ส.รสนากล่าวหา ก็แถไปเรื่อย ถ้ารู้ตัวว่าผิดก็ออกมาขอโทษดีกว่า” นายจิรายุกล่าว