xs
xsm
sm
md
lg

“รสนา” แย้มชง ป.ป.ช.ฟันคลิปกดบัตร - “บุญยอด” ชี้ของ “ชูวิทย์” ไม่ใช่ลงมติแก้ รธน.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

น.ส.รสนา โตสิตระกูล ส.ว.กรุงเทพมหานนคร แสดงภาพ ส.ส.เสียบบัตรแทนกัน ระหว่างแถลงข่าวเมื่อวันที่ 24 เม.ย.ที่ผ่านมา
“รสนา” ชูคลิปกดบัตรแทนเกิดมาแล้วหลายครั้ง จี้ประธานสภาสอบ แย้มชง ป.ป.ช.ฟันเองหาก “ค้อนปลอม” เฉย ยันเป็นสิ่งไม่ควรทำ โยนศาลรัฐธรรมนูญดูแก้กฎหมายมิชอบ ด้าน “วันชัย” แนะส่งผู้ตรวจการฯ ชงตุลาการสอบ ส่วน “บุญยอด” มาแปลก บอกเช็กแล้วคลิป “ชูวิทย์” ไม่ใช่ลงมติแก้ ม.291 วอนแฉให้หมดแก้ครหาต่อรองการเมือง

วันนี้ (25 เม.ย.) ที่รัฐสภา น.ส.รสนา โตสิตระกูล ส.ว.กทม. ให้สัมภาษณ์ว่า การกดบัตรแทนกัน เกิดขึ้นมาแล้วหลายครั้ง และมักเกิดบ่อยช่วงการประชุมช่วงค่ำๆ ที่เหลือ ส.ส.อยู่ในห้องประชุมกันน้อย เมื่อประธานที่ประชุมจะให้มีการลงมติเรื่องใดเรื่องหนึ่งก็จะมีการกดบัตรแทนกันเกิดขึ้น เพียงแต่ที่ผ่านมาไม่มีหลักฐานยืนยัน ผิดจากครั้งนี้ที่มีภาพถ่ายยืนยันที่ตนบันทึกได้ในการประชุมสภาฯ ช่วงค่ำวันที่ 20 เม.ย.

เมื่อถามว่า นายวิวัฒนชัย โหตระไวศยะ ส.ส.ศรีสะเกษ พรรคเพื่อไทย ชี้แจงว่าเป็นคนในภาพจริง แต่ไม่ได้กดบัตรแทนเพื่อน ส.ส. น.ส.รสนากล่าวว่า สิ่งที่ตนพูดในสภาฯ ไม่ได้ระบุว่าเป็นใครจากพรรคการเมืองใด แม้มุมที่ถ่ายจะเป็นเป็นมุมที่ ส.ส.บางพรรคชอบนั่งก็ตาม ดังนั้นจึงอยากให้ประธานสภาฯ ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบข้อเท็จจริงว่าเป็นอย่างไร หากประธานสภาฯ ไม่ตั้งกรรมการขึ้นมาสอบ ก็อาจจะรวบรวมข้อมูลไปยื่นต่อ ป.ป.ช.เอง เพราะถือว่าเรื่องนี้เป็นการทำผิดตามตำแหน่งหน้าที่ เป็นความผิดทางอาญา ซึ่งอาจทำให้ถูกถอดถอนได้ การกดบัตรแทนกันไม่ว่าจะเป็นฝ่ายรัฐบาล ฝ่ายค้าน หรือ ส.ว. ก็ไม่ควรทำทั้งนั้น โดยรัฐธรรมนูญมาตรา 126 ก็ระบุชัดว่า ให้สมาชิกคนหนึ่งยอมมีเสียงหนึ่งในการออกเสียงลงคะแนน ถ้ามีคะแนนเสียงเท่ากัน ให้ประธานในที่ประชุมออกเสียงเพิ่มขึ้นอีกเสียงหนึ่งเป็นสิ่งชี้ขาด

น.ส.รสนากล่าวอีกว่า ส่วนที่มีการตั้งข้อสังเกตว่า เมื่อกระบวนการพิจารณารัฐธรรมนูญไม่ชอบ แล้วผลสุดท้ายรัฐธรรมนูญที่ออกมาอาจจะมิชอบด้วยกฎหมายตามไปด้วยนั้น ตนไม่สามารถวินิจฉัยได้ คงต้องให้นักกฎหมาย หรือศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย แต่ถ้ามองตามสามัญสำนึก เมื่อกระบวนการพิจารณามันผิดขั้นตอน เป้าหมายก็อาจผิดด้วย แต่ไม่ว่าอย่างไรสิ่งที่เกิดขึ้นเปรียบเหมือนการก่ออาชญากรรมในรัฐสภาอย่างร้ายแรง เพื่อจงใจประหารรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ

ด้าน นายวันชัย สอนศิริ ส.ว.สรรหา กล่าวว่า เรื่องนี้ประธานรัฐสภาต้องตั้งคณะกรรมการพิสูจน์ความจริงก่อน ตามหลักการทางกฎหมายแล้วในการใช้สิทธิลงคะแนนนั้น สมาชิกรัฐสภามีสิทธิลงคะแนนได้เพียงคนละ 1 สิทธิเท่านั้น เมื่อผู้ไม่มีสิทธิได้ใช้สิทธิที่ไม่ใช่ของตัวเองจึงเท่ากับเกิดการใช้สิทธิที่ไม่ชอบ โดยเปรียบได้กับการแสดงความเท็จ และหากเป็นการพิจารณาในประเด็นทั่วไปกรณีเข้าข่ายเป็นคดีอาญา กล่าวคือเป็นการเข้าข่ายกระบวนการได้มาโดยมิชอบ ส่งผลให้ผลลัพธ์ในกระบวนการดังกล่าวไม่มีผลบังคับใดๆ ตามกฎหมาย และในประเด็นการได้มาซึ่งรัฐธรรมนูญซึ่งเป็นกฎหมายสูงสุดของประเทศก็ไม่ต่างกัน เพราะเมื่อกระบวนการใช้สิทธิมีปัญหา ผลลัพธ์ก็ย่อมถูกตั้งคำถาม และเป็นสิทธิที่ผู้ร้องจะสามารถคัดค้านได้

นายวันชัยกล่าวว่า เชื่อว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้จะถูกร้องคัดค้านอยู่แล้ว เพราะมีหลายฝ่ายมองว่าในมาตรา 291 ไม่ได้เขียนเพื่อให้มีการใช้สิทธิล้มล้างรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับ โดยขั้นตอน คือ ผู้ร้องสามารถยื่นต่อสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินเพื่อส่งต่อไปให้ศาลรัฐธรรมนูญเป็นผู้พิจารณา

ขณะที่ นายบุญยอด สุขถิ่นไทย กรรมาธิการกิจการสภาฯ กล่าวถึงคลิป ส.ส.กดบัตรแทนกันที่นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรครักประเทศไทยนำมาเปิดเผย และระบุว่าเป็นการลงมติในวาระแรกของการแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า จากการตรวจสอบคลิปดังกล่าว เบื้องต้นเห็นว่าไม่น่าจะเป็นการพิจารณาร่างแก้รัฐธรรมนูญ เนื่องจากเสียงของนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานสภาซึ่งทำหน้าที่ประธานในที่ประชุมขณะนั้นได้มีการขานจำนวนผู้ร่วมประชุมว่ามีทั้งหมด 514 คน โดยจากการตรวจสอบบันทึกการประชุมพบว่า มีการประชุมร่วมรัฐสภาที่มีองค์ประชุม 514 คน 3 ครั้ง คือ ในวันที่ 27 มี.ค. 55 เวลา 16.32 น. ลงมติกรอบการเจรจาอนุสัญญาหรือความตกลงเพื่อยกเว้นการเก็บภาษีซ้อน เวลา 16.41 น. อนุสัญญาไทย-เคนยา และเวา 16.42 น. อนุสัญญาไทย-ไอร์แลนด์ นอกจากนี้ การลงมติในวาระแรกของการแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้นจะต้องเป็นการเรียกชื่อและลงคะแนนโดยเปิดเผย ไม่ใช่วิธีการเสียบบัตรลงคะแนน

“ผมคิดว่านายชูวิทย์ควรจะชี้แจงให้ชัดเจนเพื่อไม่ให้เกิดความสับสน และหากนายชูวิทย์มีความบริสุทธิ์ใจในการเปิดเผยเรื่องนี้ และมีคลิปอื่นที่เป็นการลงมติร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญควรนำมาเปิดเผยต่อสาธารณะ ไม่เช่นนั้นอาจถูกมองได้ว่าเก็บเอาไว้เพื่อต่อรองกับใครอย่างไรหรือไม่ ทั้งนี้ ผมยังเชื่อว่านายชูวิทย์มีเจตนาดีที่ต้องการตรวจสอบ ส.ส.ไม่ให้กระทำผิดกฎหมาย แต่อาจเกิกความสับสนเพราะมีหลายคลิป จึงอยากให้เปิดเผยให้หมดเพื่อช่วยกันรักษาผลประโยชน์ของประเทศ เพราะแม้ว่าคลิปที่นำมาเผยแพร่จะไม่ใช่การลงมติแก้ไขรัฐธรรมนูญ แต่ก็เป็นการยืนยันว่ามี ส.ส.กดบัตรแทนกัน ซึ่งต้องดำเนินการตรวจสอบว่า ส.ส.ในภาพเป็นใครและสภาต้องมีบทลงโทษที่ชัดเจน ส่วนคลิปการกดบัตรแทนกันในการลงมติแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้นถือเป็นเรื่องสำคัญที่จะเป็นหลักฐานทำให้กระบวนการพิจารณาแก้ไขรัฐธรรมนูญไม่ชอบด้วยกฎหมาย” นายบุญยอดกล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น