“พร้อมพงศ์” ควง ส.ส.พรรคเพื่อไทย เข้าแจ้งความเอาผิด ส.ว.และ ส.ส.ปชป.หมิ่นประมาท นำภาพลักษณะคล้ายการกดบัตรลงคะแนนเสียงแทนกัน อ้างเป็น ส.ส.เพื่อไทย เผยแพร่ออกสื่อ
วันนี้ (25 เม.ย.) เวลา 15.00 น.ที่ สน.ดุสิต นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส.กทม.และรองโฆษกพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วย นายวิวัฒน์ชัย โหตระไวศยะ ส.ส.จังหวัดศรีสะเกษ พรรคเพื่อไทย เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.พิตตินันท์ อุทธสิงห์ รองผกก.สส.สน.ดุสิต เพื่อยื่นเอกสารร้องทุกข์กล่าวโทษให้เอาผิดกับ น.ส.รสนา โตสิตระกูล ส.ว.กทม.นายสมชาย แสวงการ ส.ว.สรรหา และ นายบุญยอด สุขถิ่นไทย ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์ ในข้อหาหมิ่นประมาท เนื่องจากกรณีนำภาพที่มีลักษณะคล้ายการกดบัตรลงคะแนนเสียงแทนกัน โดยอ้างเป็น ส.ส.พรรคเพื่อไทย ไปเผยแพร่ตามสื่อมวลชนต่างๆ
นายพร้อมพงศ์ เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากวันที่ 24 เม.ย.ที่ประชุมรัฐสภา น.ส.รสนา นายสมชาย และ นายบุญยอด ได้นำภาพการกดบัตรลงคะแนนแทนกันไปเผยแพร่ตามสื่อแขนงต่างๆ และได้มีการแต่งเติมใส่ข้อความว่า เป็น ส.ส.พรรคเพื่อไทย ทั้งนี้ บุคคลทั้ง 3 คน ได้ร่วมแถลงข่าวและแสดงภาพดังกล่าว ซึ่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรโดยทั่วไป ทราบเป็นอย่างดีว่า คือภาพของ นายวิวัฒน์ชัย โหตระไวศยะ ส.ส.จังหวัดศรีสะเกษ พรรคเพื่อไทย โดยการกระทำของบุคคลทั้ง 3 คนนั้น ถือเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326-328 อันเป็นการหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา
นายพร้อมพงศ์ กล่าวอีกว่า ส่วนที่เดินทางมาแจ้งความในวันนี้ เพื่อเป็นกรณีตัวอย่างให้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริงให้ดีก่อนที่จะมาเผยแพร่ภาพออกไป ซึ่งทำให้เกิดความเสียหาย และเพื่อปกป้องศักดิ์ศรีของฝ่ายนิติบัญญัติและชื่อเสียงส่วนตัวของ นายวิวัฒน์ชัย จึงจำเป็นต้องร้องขอความเป็นธรรมในการดำเนินคดีกับบุคคลทั้ง 3 คน โดยเจตนาของทั้ง 3 คนนั้น คิดว่า เพื่อหวังผลทางการเมืองมากกว่า
นายวิวัฒน์ชัย กล่าวว่า ตนยอมรับว่า เป็นบุคคลที่อยู่ในภาพจริง แต่ยืนยันได้ว่า ไม่มีการกดบัตรคะแนนเสียงแทนกัน เนื่องจากมีการตรวจสอบตำแหน่งที่นั่งแถวที่ 5 นั้น ไม่มีไมค์ และเป็นช่องทางเดิน จึงไม่สามารถกดบัตรลงคะแนนแทนกันได้ ส่วนภาพที่เผยแพร่ออกไปเป็นการทำให้เกิดความเข้าใจผิดและตนเหมือนถูกใส่ร้าย
ด้าน นายจิรายุ กล่าวเพิ่มเติมว่า ตนได้ท้ากับ น.ส.รสนา ว่า ภาพที่ปรากฏออกมานั้น หากนายวิวัฒน์ชัย ไม่ได้กระทำจริงอย่างที่ น.ส.รสนา กล่าวอ้าง จะขอให้ น.ส.รสนา ลาออกจากตำแหน่ง ส.ว.ขณะเดียวกัน หากในภาพเป็นการกดบัตรลงคะแนนแทนกันจริง ตนจะเป็นผู้ออกจากตำแหน่งเอง แต่สุดท้าย น.ส.รสนา ก็เบี่ยงประเด็นไปเรื่องอื่น ซึ่งตนหวังว่า ทางรัฐสภาจะมีการตรวจสอบข้อเท็จจริงออกมาอย่างชัดเจน
พ.ต.ท.พิตตินันท์ กล่าวว่า ได้รับเรื่องร้องทุกข์ดังกล่าวไว้ ส่วนพยานหลักฐานทั้งตัวบุคลและวัตถุพยานต่างๆ ฝ่ายผู้ร้องจะจัดส่งให้ในภายหลัง โดยจะนำสำนวนรายงานส่งผู้บังคับบัญชาต่อไป