วาระ ครม.ชง พ.ร.บ.ข้อมูลส่วนบุคคล-วิทยาลัยชุมชน “ยงยุทธ” ไม่นำโผ มท.เข้า อ้างยังไม่เสร็จ

เผยวาระการประชุม ครม.พรุ่งนี้ เตรียมพิจารณา พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ขณะที่คลังเสนอร่างแก้ไข พ.ร.ก.นิติบุคคลเฉพาะกิจแปลงสินทรัพย์เป็นหลักทรัพย์ ปี 40 ก.ศึกษาฯ ชงร่าง พ.ร.บ.วิทยาลัยชุมชน พณ.เตรียมเสนอระบายมันสำปะหลังออกตลาด สธ.เสนอแผนยุทธศาสตร์ป้องกันโรคติดต่อสายพันธุ์ใหม่ ด้าน “ยงยุทธ” เผยไม่นำโผมหาดไทยเข้า ครม.แน่นอน เพราะยังไม่เสร็จ ชี้ ยังมีเวลาถึงสิ้นเดือน ก.ย.

วันนี้ (27 ส.ค.) รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันที่ 28 ส.ค.นี้ ครม.เตรียมพิจารณาเรื่อง ร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. ... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาได้ตรวจพิจาณาแล้ว ตามที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเสนอ และให้ส่งคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณา ก่อนนำเสนอสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาต่อไป โดยมอบให้สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน หรือ ก.พ.ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย

สำหรับสาระสำคัญของเรื่อง คือ การกำหนดให้มีคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล โดยมีองค์ประกอบ วาระการดำรงตำแหน่ง และอำนาจหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนด และให้สำนักงานคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการมีหน้าที่ปฏิบัติงานวิชาการและธุรการให้แก่คณะกรรมการ กำหนดหลักเกณฑ์การขอความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล กำหนดหน้าที่ของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลกำหนดให้มีการแจ้งวัตถุประสงค์เพื่อขอความยินยอม และจะต้องเก็บ ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลฯ ตามวัตถุประสงค์นั้น เว้นแต่จะได้แจ้งวัตถุประสงค์ใหม่และได้รับความยินยอมแล้วหรือได้รับยกเว้นตามกฎหมาย กำหนดหลักเกณฑ์ และวิธีการรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล เช่น ห้ามเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลที่มีลักษณะเป็นข้อมูลต้องห้าม (ข้อมูลที่เกี่ยวกับพฤติกรรมทางเพศ ข้อมูลที่อาจเป็นผลร้ายทำให้เสียชื่อเสียง) เป็นต้น

ขณะเดียวกัน ครม.เตรียมพิจารณาเรื่องร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมพระราชกำหนดนิติบุคคลเฉพาะกิจเพื่อการแปลงสินทรัพย์เป็นหลักทรัพย์ พ.ศ.2540 พ.ศ. ... ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณา ก่อนเสนอสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาต่อไป

สำหรับสาระสำคัญของร่างพระราชบัญญัติ คือ ยกเลิกการจัดตั้งนิติบุคคลเฉพาะกิจในรูปแบบของกองทุนรวมตามกฎหมายว่าด้วยหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ และเพิ่มการจัดตั้งนิติบุคคลเฉพาะกิจในรูปแบบของทรัสต์ตามกฎหมายว่าด้วยทรัสต์เพื่อธุรกรรมในตลาดทุน กำหนดให้นิติบุคคลเฉพาะกิจรับสินทรัพย์ไว้เป็นหลักประกันเพื่อประโยชน์ในการแปลงสินทรัพย์เป็นหลักทรัพย์ได้ กำหนดการยกเว้นค่าธรรมเนียมสำหรับการโอนและการเปลี่ยนแปลงรายการทางทะเบียนของสินทรัพย์ ทรัพย์สิน หรือหลักประกันของสินทรัพย์ตามโครงการที่ได้รับอนุมัติ

อีกด้านหนึ่ง ครม.เตรียมพิจารณาเรื่อง ร่างพระราชบัญญัติสถาบันวิทยาลัยชุมชน พ.ศ. ... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว ตามที่กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เสนอ และให้ส่งคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณา ก่อนเสนอสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาต่อไป

ต่อมา ครม.เตรียมพิจารณาเรื่อง ขอยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 13 พ.ค. 2552 สำหรับมันสำปะหลัง (เรื่อง การระบายจำหน่ายข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ตามโครงการแทรกแซงตลาดข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ปี 2551/52 และขอทบทวนคณะกรรมการเกี่ยวกับสินค้าข้าวโพดเลี้ยงสัตว์) สำหรับมันสำปะหลังเช่นเดียวกับกรณีของข้าว โดยให้การระบายผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังครอบคลุมถึงผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังตามโครงการแทรกแซงตลาดมันสำปะหลัง ปี 2551/52 ที่คงเหลือ ทั้งนี้ เพื่อให้การดำเนินการสอดคล้องกับอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการนโยบายมันสำปะหลังชุดใหม่ที่ได้รับการเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีแล้ว ตามที่กระทรวงพาณิชย์ (พณ.) เสนอ

อย่างไรก็ตาม ครม.เตรียมพิจารณาเรื่อง แผนยุทธศาสตร์เตรียมความพร้อม ป้องกัน และแก้ไขปัญหาโรคติดต่ออุบัติใหม่แห่งชาติ (พ.ศ. 2556-2559) โดย ครม.เตรียมพิจารณาแผนยุทธศาสตร์เตรียมความพร้อม ป้องกัน และแก้ไขปัญหาโรคติดต่ออุบัติใหม่แห่งชาติ (พ.ศ. 2556 – 2559) ตามที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เสนอ และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำแผนยุทธศาสตร์ฯ ไปสู่การปฏิบัติต่อไป

สำหรับสาระสำคัญของแผนยุทธศาสตร์เตรียมความพร้อม ป้องกัน และแก้ไขปัญหาโรคติดต่ออุบัติใหม่แห่งชาติ (พ.ศ. 2556-2559) ประกอบด้วย 5 ยุทธศาสตร์ 25 กลยุทธ์ 160 มาตรการ โดยได้มีการปรับปรุงแก้ไขตามข้อคิดเห็นของหน่วยงานต่างๆ ด้วยแล้ว สรุปได้ดังนี้ 1.ยุทธศาสตร์ที่ 1 พัฒนาระบบเฝ้าระวัง ป้องกัน รักษา และควบคุมโรคภายใต้แนวคิดสุขภาพหนึ่งเดียว ประกอบด้วย 5 กลยุทธ์ 42 มาตรการ 2.ยุทธศาสตร์ที่ 2 การจัดการระบบการเลี้ยง และสุขภาพสัตว์ และสัตว์ป่า ให้ปลอดโรค ประกอบด้วย 8 กลยุทธ์ 34 มาตรการ

3.ยุทธศาสตร์ที่ 3 พัฒนาระบบจัดการความรู้ และส่งเสริมการวิจัยพัฒนา ประกอบด้วย 3 กลยุทธ์ 20 มาตรการ 4.ยุทธศาสตร์ที่ 4 พัฒนาระบบบริหารจัดการเชิงบูรณาการและเตรียมความพร้อมตอบโต้ภาวะฉุกเฉิน ประกอบด้วย 4 กลยุทธ์ 36 มาตรการ 5.ยุทธศาสตร์ที่ 5 การสื่อสาร และประชาสัมพันธ์ความเสี่ยงของโรคติดต่ออุบัติใหม่ ประกอบด้วย 5 กลยุทธ์ 28 มาตรการ

นอกจากนี้ ครม.เตรียมพิจารณาเรื่อง ขออนุมัติกำหนดอัตรากำลังข้าราชการเพิ่ม โดย ครม.เตรียมพิจารณากรอบอัตรากำลังข้าราชการเพิ่มใหม่ เพื่อปฏิบัติงานในสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) จำนวน 145 อัตรา จากเดิมจำนวน 227 อัตรา รวมอัตรากำลังข้าราชการทั้งสิ้น 372 อัตรา ตามที่ สำนักงาน ปปง.เสนอ และให้สำนักงบประมาณ (สงป.) จัดสรรเงินงบประมาณ งบบุคลากร เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายด้านบุคลากร ได้แก่ เงินเดือน เงินประจำตำแหน่ง และเงินสิทธิประโยชน์อื่น ตามที่กฎหมายกำหนดสำหรับตำแหน่งตามกรอบอัตรากำลังข้าราชการ จำนวน 145 อัตรา ในคราวเดียวกัน

อีกด้านหนึ่งที่กระทรวงมหาดไทย นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รมว.มหาดไทย เปิดเผยว่า การประชุม ครม.วันที่ 28 ส.ค.นี้ จะยังไม่มีการนำเสนอเรื่องการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการระดับสูงของกระทรวงเข้าที่ประชุม ครม.อย่างแน่นอน เนื่องจากยังจัดทำรายชื่อผู้ที่จะเข้ารับตำแหน่งต่างๆ ไม่เสร็จ ทั้งนี้ ชื่อที่มีการเสนอข่าวยังไม่แน่นอนว่าจะเป็นตัวบุคคลดังกล่าวเหตุที่ยังไม่เสนอเข้า ครม.ก็ถือเป็นเรื่องปกติ เพราะยังเหลือเวลาก่อนที่ข้าราชการจะเกษียณอายุ จนถึงวันที่ 30 ก.ย.

เมื่อถามว่า ตำแหน่งปลัดกระทรวงคนใหม่ ควรเป็นคนนอก หรือคนในกระทรวงมหาดไทย นายยงยุทธกล่าวว่า โดยส่วนตัวอยากให้เป็นคนในมากกว่า เนื่องจากรู้งานภายในกระทรวงดีอยู่แล้ว แต่ก็ไม่ปิดโอกาสคนข้างนอก ทั้งนี้ หากจะนำชื่อเข้าสู่การพิจารณาของครม.ก็จะเสนอพร้อมกันทั้งตำแหน่ง ปลัดกระทรวง รองปลัดกระทรวง และอธิบดี โดยทุกตำแหน่งถือเป็นตำแหน่งที่มีความสำคัญเท่ากันทั้งสิ้น และขอยืนยันว่า จะไม่นำเรื่องของสถาบันการศึกษา หรือสถาบันสิงห์ดำ สิงห์แดง มาพิจารณาว่าจะแต่งตั้งใคร เนื่องจากจะทำให้ขาดความน่าเชื่อถือ และปกครองกันลำบาก โดยเรื่องนี้จะระมัดระวังมากเป็นพิเศษ