“นายกฯ ปู” ชิ่งเผือกร้อน โยนการแต่งตั้งปลัดกลาโหมให้เป็นเรื่องสภากลาโหมพิจารณา บอกไม่อยากพูดมาก เชื่อคุยกันได้ โบ้ยถาม รมว.กลาโหม หากต้องการรู้เรื่องทั้งหมด รับปีนี้ห่วงทั้งน้ำท่วม ฝนแล้ง สั่งกระทรวงที่เกี่ยวข้องเร่งบูรณาการใกล้ชิด เผย กบอ.บอกปีนี้น้ำน้อยกว่าที่ที่ผ่าน แต่การพยากรณ์อาจไม่แม่นยำ
น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี พล.อ.เสถียร เพิ่มทองอินทร์ ปลัดกระทรวงกลาโหม จะขอเข้าพบเพื่อหารือถึงปัญหาการแต่งตั้งปลัดกระทรวงกลาโหมคนใหม่ที่ไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กระทรวงกลาโหมกำหนดไว้ โดยมีการแทรกแซงจาก รมว.กลาโหมว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องของทางกระทรวงกลาโหม คงต้องให้ทางรัฐมนตรีกลาโหมและสภากลาโหมเป็นผู้พิจาณา
ผู้สื่อข่าวถามว่าข้อเท็จจริงมีการแทรกแซงหรือไม่ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ทุกอย่างทั้งหมดต้องนำไปหารือกัน เพราะว่าไม่สามารถที่จะกำหนดก่อนล่วงหน้าได้อยู่แล้ว ต้องขึ้นอยู่กับคณะที่ประชุมของกลาโหมที่จะประชุมเพื่อหาข้อสรุป
ต่อข้อถามว่ากังวลหรือไม่ว่าการแต่งตั้งโยกย้ายจะทำให้รัฐบาลกับทหารไม่พอใจกัน น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า ไม่มี ทั้งหมดคุยกันได้อยู่แล้ว และเชื่อมั่นว่าจะคุยกันได้ อาจจะเป็นเรื่องที่เข้าใจไม่ตรงกัน ทั้งหมดนี้ไม่สามารถมีคนใดคนหนึ่งเสนอได้ เพราะว่าการตัดสินทั้งหมดจะเป็นในรูปของคณะกรรมการ เมื่อถามต่อว่า รมว.กลาโหมได้มาชี้แจงข้อเท็จจริงอย่างไรหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า “พอแล้ว ไปถาม พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมดีกว่ามั้งคะ”
น.ส.ยิ่งลักษณ์หันมาพูดถึงเรื่องความเป็นห่วงของสถานการณ์น้ำระหว่างน้ำท่วม และน้ำแล้งว่า จริงๆ ในฐานะที่เราดูแลก็มีความเป็นห่วงทั้งสองส่วนทั้ง ซึ่งถ้าเรื่องของน้ำท่วมถ้าเก็บน้ำไว้แล้วเกิดน้ำท่วมจะแก้ปัญหาค่อนข้างที่จะลำบากกว่าจึงต้องมีบางส่วนเซฟตี้ไว้ในระดับหนึ่ง แต่สำหรับภัยแล้งจะเป็นวิธีการแก้เฉพาะจุด และได้สั่งการให้กระทรวงที่เกี่ยวข้องไปดูแลอย่างใกล้ชิด
ส่วนที่ จ.อุตรดิตถ์ที่มีน้ำท่วมค่อนข้างหนักนั้น นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า การแก้ปัญหาเรื่องน้ำ เนื่องจากเรายังไม่ได้ทำในเรื่องของการบูรณาการ มีแหล่งน้ำรองรับอย่างยั่งยืนก็จะมีปัญหาดังกล่าวในบางพื้นที่ เช่น บางพื้นที่เมื่อมีฝนตกฉับพลันอาจจะมีน้ำท่วม หรือบางพื้นที่ไม่สามารถกักเก็บน้ำได้ก็จะเจอปัญหาภัยแล้ง ซึ่งปัญหาก็จะเป็นในรายพื้นที่ และปีนี้เชื่อว่าปัญหาเหล่านี้ยังคงมีอยู่ ซึ่งเราต้องเร่งในการปรับปรุงเรื่องของการพัฒนาแหล่งน้ำให้กับพื้นที่ในจังหวัดที่ประสบภัยแล้ง ส่วนจังหวัดที่มีปัญหาเรื่องน้ำท่วมก็ต้องช่วยกันในเรื่องของการทำพนังกั้นน้ำไปก่อน แต่ในระยะยาวต้องให้เขื่อนแต่ละเขื่อนจัดทำระบบการระบายน้ำและการรองรับให้เกิดประสิทธิภาพ
ผู้สื่อข่าวถามว่าปีนี้เราสามารถประเมินปริมาณน้ำได้หรือยัง นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า เท่าที่ดูปริมาณน้ำจากทาง คณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย (กบอ.) ที่แจ้งมาคือปริมาณน้ำจะน้อยกว่าปีที่แล้ว อย่างไรก็ตาม ช่วงเสาร์-อาทิตย์คงจะมีชี้แจงให้ทราบทั้งหมด เมื่อถามต่อว่านโยบายน้ำจะออกมาในรูปแบบใด น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า เดี่ยวยังไม่บอกก่อนดีกว่า ขอให้ไปดูเพราะจริงๆ แล้วเรามีข้อมูลทั้งหมด และรวมถึงในเว็บไซต์ที่ประชาชนจะสามารถติดตามได้ ต้องเรียนว่าเราจะนำข้อมูลจากสถานการณ์จริงให้กับประชาชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อจะได้ทราบและติดตามความเคลื่อนไหว เพราะจากปีที่ผ่านมาใช้วิธีการประมวลแล้วแจ้งอาจจะทำให้เกิดการสับสน เพราะข้อมูลต่างๆ จะเกิดการตีความที่ไม่ตรงกัน ดังนั้นตนเชื่อว่า สิ่งที่ดีที่สุดคือเอาข้อเท็จจริงให้เห็น เช่น เขื่อนให้ดูปริมาณน้ำในเขื่อนมีปริมาณเท่าไหร่แล้ว ก็จะทำให้เห็นภาพ
ต่อข้อถามว่าการแก้ไขปัญหาน้ำ รัฐบาลได้แก้มาทั้งปี แต่ผลโพลล์ที่ออกมายังไม่เป็นที่น่าพอใจของประชาชนเท่าไหร่ น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า ต้องขอความเห็นใจจากประชาชนเพราะปัญหาเรื่องน้ำเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นมานานแล้ว และระยะเวลาที่มีอยู่ค่อนข้องจำกัด สิ่งที่เราพยายามทำก็จะทำอย่างเต็มที่ ส่วนสิ่งที่ประชาชนต้องการการชี้แจงเราเองต้องเรียนตรงๆ ว่าเราชี้แจงได้เต็มที่คือในลักษณะของการป้องกันและเตรียมพร้อม แต่การพยากรณ์ในวันข้างหน้าจะให้แม่นยำอย่างไร ถือว่าเป็นเรื่องที่ยากลำบากจริงๆ เช่น เรื่องของพายุ ตอนแรกที่บอกว่าจะมา 3 ลูก แต่ตอนนี้มาเหลือเพียงลูกเดียว ซึ่งสิ่งเหล่านี้มีองค์ปกระกอบทางด้านของสภาพภูมิอากาศต่างๆ ที่เข้ามา ต้องเรียนว่ายากทีเดียวที่จะบอกเป็นรายพื้นที่ แต่สิ่งที่เราจะบอกได้ภาพรวมคือปริมาณน้ำที่มาในปีนี้น่าจะน้อยกว่าปีที่ผ่านมา