xs
xsm
sm
md
lg

“เทพไท” ซัดอีเวนต์รัฐละเลงภาษีหาเสียง ชี้แดงป่วน “มาร์ค” เบี่ยงประเด็นพาคนไปตาย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ (ภาพจากแฟ้ม)
ส.ส.เมืองคอน ปชป.เย้ยงานรัฐบาลพบประชาชนไม่ต่างกับเปิดท้ายขายของ ซัดใช้เงินภาษีหาเสียง มีแต่สร้างหนี้ประชาชน ไร้หลักประกันสร้างรายได้ แนะแก้ของแพง-เพิ่มราคาสินค้าเกษตรดีกว่า ส่วนแดงป่วน “มาร์ค” ปากน้ำ จี้ นายกฯ-รมต.ที่เกี่ยวข้องรับผิดชอบ ซัดแกนนำแดงเบี่ยงประเด็นพาคนไปตาย-โยนบาปให้คนอื่น ตีปาก “เด็จพี่” แหกปากเอาสะใจไปวันๆ

วันนี้ (26 ส.ค.) นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการงานรัฐบาลพบประชาชน ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน และในจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศ ที่ผ่านมา ว่า ถ้าดูรูปแบบการจัดงานแล้ว ไม่น่าเป็นการรัฐบาลพบปะประชาชน แต่ควรจะเป็นงานหาเสียงมากกว่า เพราะรูปแบบการจัดงานในสถานที่ต่างๆ ไม่ต่างอะไรกับตลาดนัดเปิดท้ายขายของ เพียงแต่เป็นการยกระดับจากตลาดนัดในหมู่บ้าน มาเป็นตลาดนัดเปิดท้ายขายของในชุมชนเมือง

ทั้งนี้ การใช้ชื่องาน “รัฐบาลพบประชาชน ทุนเพื่อคุณภาพชีวิต” แต่ถ้าจะให้สดคล้องกับเนื้อหาและรูปแบบของงานควรจะใช้ชื่อว่า “รัฐบาลพบประชาชน ทุนเพิ่มหนี้ทุกชีวิต” จะเหมาะสมกว่า เพราะกิจกรรมในงานล้วนเป็นโครงการที่รัฐบาลบริการให้ประชาชนสร้างหนี้มากกว่าการเพิ่มรายได้ เช่นโครงการรถยนต์คันแรก บ้านหลังแรก กองทุนหมู่บ้าน กองทุนสตรี กองทุนเอสเอ็มแอล กองทุนตั้งตัวได้ และไม่มีหลักประกันใดว่าการเพิ่มหนี้ให้กับประชาชนแล้วจะสร้างรายได้ให้กับประชาชนได้

นายเทพไท กล่าวว่า ถ้ารัฐบาลให้หลักคิดของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่บอกว่า ต้องเป็นหนี้ก่อนถึงจะร่ำรวยและประสบความสำเร็จนั้น จะมีใครสักกี่คนที่ทำได้เหมือน พ.ต.ท.ทักษิณ เพราะโอกาสของคนไม่เท่าเทียมกัน มีเพียงแต่ พ.ต.ท.ทักษิณ เท่านั้นที่เป็นหนี้หนีคดีเช็กเด้ง แล้วกลับมาเป็นมหาเศรษฐีได้ เพราะได้โอกาสสัมปทานจากรัฐ มีธุรกิจผูกขาดโดยไม่มีคู่แข่งขัน ถ้ารัฐบาลจะช่วยเหลือประชาชนก็ไม่ควรที่จะส่งเสริมให้เป็นหนี้โดยอ้างถึงการเข้าถึงแหล่งเงินทุน ซึ่งในขณะนี้หนี้ต่อครัวเรือนของคนไทยมีอัตราที่สูงมากเป็นประวัติการณ์ในรัฐบาลชุดนี้อยู่แล้ว

“ถ้าจะช่วยเหลือจริงๆ ทำสองอย่างก็เพียงพอ คือ แก้ปัญหาราคาของแพงทั้งแผ่นดินให้ถูกลง และเพิ่มราคาสินค้าการเกษตรให้สูงขึ้น ก็จะแก้ปัญหาพื้นฐานของประชาชนในเบื้องต้นได้ การจัดงานหาเสียงครั้งนี้รัฐบาลได้ประโยชน์โดยตรง เพราะใช้เงินภาษีของประชาชนในการจัดงานสูงนับร้อยล้านบาท ซึ่งไม่คุ้มค่ากับเม็ดเงินที่ลงทุนไป” นายเทพไท กล่าว

ส่วนการที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี บอกว่า พึงพอใจในผลงานของตัวเอง และยังไม่ท้อต่อการทำงานนั้น อยากจะเรียนว่า นายกฯ ไม่ควรที่จะตัดสินผลงานด้วยตนเอง ควรให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสินจะดีกว่า เพราะประชาชนที่สัมผัสผลงานรัฐบาลโดยตรงย่อมรู้ดีกว่านโยบายที่แถลงไว้ตอนหาเสียงล้มเหลวไปกี่เรื่อง การแก้ปัญหาเฉพาะหน้าล้มเหลวมากน้อยแค่ไหน เพราะฉะนั้น นายกฯ ก็เหมือนกับนักเรียนที่ทำข้อสอบ ไม่ควรให้คะแนนตัวเอง ควรให้ครูผู้สอนคือประชาชนให้คะแนนจะดีกว่า

นายเทพไท ยังกล่าวถึงเหตุการณ์ที่กลุ่มคนเสื้อแดงออกมาก่อกวนการทำกิจกรรมทางการเมืองของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ที่ จ.สมุทรปราการ ว่า จนถึงบัดนี้ยังไม่มีท่าทีการแสดงความรับผิดชอบใดๆ จากรัฐบาล พรรคเพื่อไทย และแกนนำ นปช.คงมีแต่ นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย ที่ออกมาให้สัมภาษณ์ลักษณะให้ท้าย ยั่วยุ ไม่มีการห้ามปรามการฝ่าฝืนกฎหมายและละเมิดสิทธิของผู้อื่น กลับไปกล่าวอ้างถึงเหตุการณ์การสลายการชุมนุมในยุครัฐบาลนายอภิสิทธิ์ ว่า เป็นความโกรธแค้นของญาติพี่น้อง ผู้ชุมนุมมีสิทธิ์ที่จะแสดงออกในการขับไล่นายอภิสิทธิ์ได้ ซึ่งเรื่องนี้ไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าใครผิดถูก เพราะทุกอย่างกำลังเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม แต่เป็นความพยายามของแกนนำเสื้อแดงที่เบี่ยงเบนประเด็นและปฏิเสธความรับผิดชอบ เพราะแกนนำเหล่านี้ คือ ต้นเหตุของการสร้างสถานการณ์และความรุนแรง และพามวลชนตัวเองไปตาย แต่กำลังบิดเบือนและโยนความผิดให้รัฐบาลในขณะนั้น

“การพยายามทำดำให้เป็นขาวของกลุ่มคนเหล่านี้ ไม่สามารถประสบความสำเร็จได้ เพียงแต่ขณะนี้กระบวนการยุติธรรม ยังไม่ได้ข้อยุติ จึงไม่อยากให้เสื้อแดงเลิกหลงงมงายกับการปลุกระดมมวลชนของคนเสื้อแดงบางกลุ่ม และเรียกร้องให้นายกฯ และรัฐมนตรีที่รับผิดชอบด้านความมั่นคง และ ผู้รับผิดชอบรักษากฏหมายออกมาแสดงท่าทีเรื่องนี้ให้ชัดเจน ไม่ใช่ปล่อยให้คนที่ไม่มีหน้าที่รับผิดชอบ หรือไม่มีราคาอย่างนายพร้อมพงศ์ ออกมาแหกปากพูดเพื่อความสะใจไปเพียงวันๆ” นายเทพไท กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น