xs
xsm
sm
md
lg

“แม้ว” เริ่มมั่นใจเร่งเกมปรองดอง-ล้างผิดอีกรอบ!!

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ทักษิณ ชินวัตร
ผ่าประเด็นร้อน

ทุกอย่างที่เป็นความเคลื่อนไหวในรัฐบาลนี้ล้วนมาจากการส่งสัญญาณสั่งการจาก ทักษิณ ชินวัตร โดยตรงจริงๆ ซึ่งที่ผ่านมาเชื่อว่าหลายคนก็รับรู้กันอยู่แล้ว แต่เพื่อต้องการแสดงให้เห็นและพิสูจน์กันอีกทีว่า เขานี่แหละตัวการใหญ่ที่ชักใยอยู่ข้างหลังทุกเรื่อง

ที่สำคัญล้วนแล้วแต่เป็นเรื่องผลประโยชน์ส่วนตัวทั้งสิ้น โดยก่อนหน้านี้หากสังเกตให้ดีจะเห็นว่า ทักษิณ ชินวัตร ให้สัมภาษณ์จากต่างประเทศในช่วงที่สหรัฐอเมริการอนุญาตให้เดินทางเข้าประเทศได้จนเกิดความมั่นใจว่าเขาได้รับการยอมรับในวงการระหว่างประเทศเต็มร้อยแล้ว

จากนั้นก็มาแวะที่เกาหลีใต้เน้นย้ำให้เดินหน้าผลักดันร่างพระราชบัญญัติปรองดองแห่งชาติ(กฎหมายลบล้างความผิด) ต่อไป โดยกล่าวหาว่าทั้งฝ่ายประชาธิปัตย์ โดยเฉพาะระบุถึงกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เอ่ยชื่อ สนธิ ลิ้มทองกุล ที่เป็นแกนนำว่า หากยังต่อต้านแบบนี้ก็จะปรองดองยาก

พร้อมกันนี้เขายังบอกว่าอยากกลับประเทศไทยเต็มแก่แล้ว แต่ติดปัญหาในเรื่องถูกขัดขวางดังกล่าวนี่แหละ

ขณะเดียวกัน สังเกตหรือไม่ว่าในช่วงเวลาไล่หลังก็มีการเร่งรัดให้เดินหน้าคดีสลายการชุมนุมคนเสื้อแดงที่มีผู้เสียชีวิต 91 ศพ ทั้งที่อยู่ในความรับผิดชอบของกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ที่นำโดย ธาริต เพ็งดิษฐ์ รวมทั้งในส่วนที่อยู่ในความรับผิดชอบของกองบัญชาการตำรวจนครบาลกรณีคดีมีผู้เสียชีวิตในวัดปทุมวนารามจำนวน 6 ศพ ที่มีการนำคดีขึ้นสู่ศาลมีการไต่สวนกันไปแล้ว

แม้ว่าที่ผ่านมาดูเหมือนว่ามีการพาดพิงไปถึงทหารในกองทัพในฐานะผู้ปฏิบัติหน้าที่ ทำให้มีเสียงฮึดฮัดออกมาอย่างต่อเนื่องจากผู้บัญชาการทหารบก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในทำนองว่า “อย่าล้ำเส้น” เข้ามามากนัก นั่นแหละทำให้ ทั้ง ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรีที่กำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติถึงกับต้องส่ง พล.ต.อ.ภาณุพงศ์ สิงหรา ณ อยุธยา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเข้าไปเคลียร์กับ พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รองผู้บัญชาการทหารบก ในฐานะที่เคยเกี่ยวข้องโดยตรงในเหตุการณ์กระชับพื้นที่ และมีความสนิทสนมกัน เพื่อส่งผ่านไปถึงผู้บัญชาการทหารบกอีกทีหนึ่ง

ต่อมาในส่วนที่มีประเด็น “สไนเปอร์” ที่ตอนแรกทำท่าส่องเข้ามาในกองทัพ แต่เมื่อเห็นท่าทางถมึงทึงของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ทำให้ทั้ง ธาริต เพ็งดิษฐ์ และ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุงต้องสั่งเบรกการแถลงความคืบหน้าคดีผ่านสื่อรายวัน แล้วรีบเผยไต๋ออกมาให้เห็นว่าทหารเป็นแค่ “เป้าหลอก” เท่านั้น ส่วนเป้าจริงต้องการพุ่งไปที่ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ในฐานะที่เป็นอดีตนายกรัฐมนตรี และสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกฯและผู้อำนวยการศูนย์แก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) ในขณะนั้นมากกว่า ซึ่ง ร.ต.อ.เฉลิม สำทับว่า ทหารไม่มีความผิดเพราะมีกฎหมายรองรับ แต่จะเอาผิดเฉพาะผู้สั่งการเท่านั้น

ขณะเดียวกัน ที่น่าจับตามองก็คือ เมื่อสไนเปอร์ทำท่าส่องมาที่กองทัพดังกล่าวก็เป็นที่น่าสังเกตว่า พล.อ.ประยุทธ์ ก็สั่งให้นายทหารพระธรรมนูญไปแจ้งความดำเนินคดีกับ ทนายความนักล็อบบี้ยิสต์ระหว่างประเทศ โรเบิร์ต อัมสเตอร์ดัม ที่ก่อนหน้าที่เป็นทนายและนักวิ่งเต้นให้กับ ทักษิณ ชินวัตร โทษฐานดูหมิ่นกองทัพ ระหว่างการให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม ที่มีเนื้อหาโดยสรุปทำนองว่า กองทัพใช้สไนเปอร์ที่ได้รับการฝึกจากสหรัฐฯ เข้ามาจัดการกับคนเสื้อแดง

น่าแปลกก็คือ โรเบิร์ต อัมสเตอร์ดัม คนนี้พูดจาให้ร้ายมาตั้งแต่ 3 เดือนที่แล้ว ทำไมถึงเพิ่งมาโกรธเอาตอนนี้ ทำไมเพิ่งมาโกรธเอาตอนที่ดีเอสไอออกข่าวว่าต้องการเรียกตัวมือสไนเปอร์ไปสอบปากคำ

อย่างไรก็ดี นั่นเป็นเรื่องของคดีที่ต้องว่ากันไป แต่ถ้าในมุมการเมืองดังที่ได้บอกเอาไว้ตั้งแต่ตอนต้นว่า นี่คือเกมใหม่ที่ ทักษิณ ชินวัตร เป็นคนกำหนดขึ้นมาอีกรอบ นั่นคือการส่งสัญญาณเร่งทั้งในและนอกสภา ในสภาก็ให้ผลักดันพิจารณาร่างพระราชบัญญัติปรองดองแห่งชาติที่ยังค้างอยู่ในวาระการประชุมสภาให้เดินหน้าให้สำเร็จเต็มกำลัง ขณะเดียวกัน นอกสภาทั้งมวลชน โดยเฉพาะในเรื่องคดีความที่ต้องเร่งรัดกันอย่างเต็มที่ ถ้าหากพิจารณากันหลายแง่มุมก็เหมือนกับว่าต้องการลากให้ทุกฝ่ายมีคดีติดตัวมี “ชนักปักหลัง” ให้ถ้วนทั่ว เพื่อสร้างความชอบธรรม อธิบายกับสังคมให้เห็นว่าถึงเวลาที่ต้องปรองดอง เพื่อเดินไปข้างหน้า ทั้งที่เป้าหมายสำคัญที่สุดที่ซ่อนอยู่ก็ยังเหมือนเดิมก็คือต้องการให้ เขาได้พ้นผิด ได้เงินคืน และได้กลับมามีอำนาจอีกรอบนั่นแหละ

เป้าหมายของทักษิณ ชินวัตร มีอยู่แค่นี้จริงๆ!!
ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง
ธาริต เพ็งดิษฐ์
กำลังโหลดความคิดเห็น