xs
xsm
sm
md
lg

ผบ.ทบ.แย้มเก้าอี้แม่ทัพภาค 1 อาวุโส พบสาย “วงศ์เทวัญ“ มาแรง-“บูรพาพยัคฆ์” ส่อปิ๋ว

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ภาพจากแฟ้ม)
“ประยุทธ์” ลั่นทหารไม่ทะเลาะแย่งตำแหน่ง ยันโผทหารตั้งโดยระบบ ไม่ใช่คนๆ เดียว เผยยังไม่วางทายาท ”ผบ.ทบ.” ขอรอดูผลงานอีก 2 ปี ยันไม่ได้ตั้งเพื่อรักษาเก้าอี้ตัวเอง ท้าใครอยากย้ายก็ย้ายไป แย้ม มทภ.1 คนใหม่เน้นอาวุโส ปลอบใจตำแหน่งผู้ทรงคุณวุฒิไม่ใช่นายพลว่างงาน เผยโผทหาร มทภ.1 “วงศ์เทวัญ”ผงาด ”วลิต” ส่อแห้วเก้าอี้ เหตุ ”ไพบูลย์” อาวุโสกว่า

วันนี้ (21 ส.ค.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าในการจัดทำบัญชีรายชื่อโยกย้ายนายทหารว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการหารือของกระทรวงกลาโหมและกองบัญชาการกองทัพไทยเกี่ยวกับรายชื่อที่ต้องส่งกลับไปกลับมาว่า มียอดบัญชีรายชื่อเท่าไร อย่ากังวล คิดว่า ใครจะเป็นก็เหมือนกัน ตราบใดที่เอาคนดี คนเก่งคนมีความสามารถขึ้นมา ให้เขาอยู่ในระบบของเขา ถ้าคัดสรรขึ้นมากองทัพก็อยู่ได้ ประเทศชาติก็มั่นคง ระบบนี้จะทำให้ทุกอย่างปลอดภัย เช่นถ้าตนจะเกเร ตนก็ต้องเกรงใจเพราะอยู่ในระบบทั้งหมด เพราะไม่ใช่คนๆ เดียวตั้ง เป็นเรื่องของผู้บังคับบัญชาลงความเห็นในการเลือก ถ้าตั้งโดยคนๆ เดียว โดยใช้วิธีการขอมาจะไม่ได้รับการยอมรับนับถือ

ทั้งนี้ ทุกคนสามารถเป็นอะไรก็ได้เพราะจบโรงเรียนนายร้อยมาเหมือนกัน ใครจะเป็นผบ.ทบ.ก็เป็นได้หมด เพียงแต่ว่าต้องได้รับการยอมรับจากผู้บังคับบัญชา ผู้ร่วมงานและผู้ใต้บังคับบัญชา ที่สำคัญเบื้องหลังท่านต้องดีด้วย โดยเฉพาะเรื่องครอบครัว เรื่องเหล่านี้เป็นแต้มต่อ เป็นคะแนน ทุกคนจะเป็นอะไรก็ได้ แต่จะดีและเป็นธรรมหรือไม่ ตนไม่รู้ ถ้าเป็นแล้วไม่รับผิดชอบ กองทัพก็รบไม่ได้ ที่ตนกล้าแสดงความคิดเห็นเพราะคิดว่า แสดงความคิดเห็นในสิ่งที่ถูกต้อง พูดทุกอย่างมีข้อมูลหมด ตนไม่ได้ทำงานด้วยความรู้สึก ไม่เช่นนั้นก็โมโหทุกคน

เมื่อถามว่า การันตีหรือไม่ว่า รายชื่อ5เสือทบ.ที่จะออกมาจะเป็นที่ยอมรับ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ถ้าเขาขึ้นมาถึงตรงนี้ได้ก็ต้องเป็นที่ยอมรับ อยู่ที่ว่าขึ้นมาแล้วจะทำอะไรต่อไป และทำงานดีหรือไม่ ตอนนี้อย่าคิดว่า เป็นนายพลแล้วไม่มีความหมาย ตอนนี้มีตำแหน่งทุกคน ผู้ทรงคุณวุฒิไม่ใช่ตำแหน่งแขวนลอย ตนใช้งานทุกคน โดยใช้สมองคนเหล่านั้นมาประชุมแสดงความคิดเห็น ไม่ใช่นายพลว่างงาน เมื่อถามว่า ถึงเวลาจะต้องปรับเปลี่ยนแม่ทัพภาคที่ 4 หรือยัง พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า อยู่ที่ว่า จะมีตำแหน่งให้เขาหรือไม่ ถ้ามีก็เปลี่ยนได้ ซึ่งการจะเปลี่ยนแม่ทัพทุกกองทัพภาคในคราวเดียวกันคงเป็นไปไม่ได้ เพราะยังมีผู้บังคับหน่วยที่เทียบเท่าทั้งผบ.นปอ.และผบ.นสศ. โดยทั้ง 6 คนเป็น ผบ.หน่วยหลักคุมกำลังรบ นอกจากนั้นยังมีรอง เสธ.อีก 3คนที่เป็นพลโท และมีผู้ช่วยเสธ.อีก 5 คน ทั้งหมดต้องโตไล่ตามกันขึ้นมา ดังนั้นใน 5 เสือ ทบ.ควรจะมาจากหน่วยกำลังรบส่วนหนึ่ง และมาจากฝ่ายเสนาธิการส่วนหนึ่ง จะมาจากหน่วยกำลังรบทั้งหมดคงไม่ได้ เพราะส่วนฝ่ายเสนาธิการจะบอกว่าไม่เป็นธรรมกับเขา

เมื่อถามว่า ลำบากใจหรือไม่ หากต้องเลือกแคนดิเดตที่เป็นรุ่นน้องเหมือนกันขึ้นมาดำรงตำแหน่ง พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ไม่ลำบากใจ ตนไม่ได้เลือกด้วยความเป็นน้อง แม้กระทั่งน้องชายตนก็ไม่ได้เป็นคนตั้ง กองทัพเป็นคนเสนอขึ้นมา ซึ่งเป็นหน่วยรองที่ตั้งขึ้นมาและตนก็มาพิจารณา ทั้งความอาวุโส ความเป็นรุ่นพี่ จะไปค้านเขาไม่ได้ แม้จะเป็นน้องชายตนก็ตาม ถ้าตนไม่ได้คำนึงถึงจุดนี้ น้องชายตนก็ได้เลื่อนตำแหน่งตั้งแต่ปีที่แล้ว เมื่อถามถึงการปัญหาในการเลือกผู้มาดำรงตำแหน่งแม่ทัพภาคที่ 1 คนใหม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า มีตำแหน่งอยู่แล้ว กองทัพไม่ทะเลาะกันอยู่แล้ว อย่าทำให้เขาทะเลาะกัน ทหารสอนตั้งแต่เรียนโรงเรียนนายร้อยจปร.ว่า คำสั่งผู้บังคับบัญชาคือพรจากสวรรค์ ผู้บังคับบัญชาให้เป็นอะไรก็ต้องเป็น ถ้ายังไม่ได้เป็นก็ทำความดีต่อไป บางคนบอกว่า เขาทำดี เช่นไปทำงานบาดเจ็บกลับมา แต่เขาดันเป็นรุ่นน้อง รุ่นพี่ก็ต้องเป็นก่อน ก็ตอบแทนในเรื่องอื่นไปก่อน ถึงเวลาค่อยเอาเขาขึ้น แต่ไม่ใช่ว่า เพราะบาดเจ็บเพื่อเรา แล้วต้องเอาเขาขึ้น มันไม่ได้ อย่างนี้กองทัพบกเสียหาย ตนพิจารณาละเอียด รายชื่อทุกคนที่ขึ้นมา ตนจะเอารายชื่อมาดูด้วยตัวเองทุกคน ตนเหน็บทำเนียบไว้กับตัวตลอด โดยจะดูผู้บังคับหน่วยลงมาว่า ใครรุ่นพี่รุ่นน้อง ใครอาวุโส ทุกอย่างเป็นไปตามโชคชะตา อย่าไปกังวล ใครเป็นก็เหมือนกัน

เมื่อถามว่า แคนดิเดตที่เป็นเพื่อนร่วมรุ่นเดียวกัน ท่านจะลงไปเคลียร์ปัญหาความขัดแย้งหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ทำไมต้องเคลียร์ ถ้าให้คนนี้เป็นแล้วอีกคนไม่สบายใจ ก็ย้ายเขาออกไป เขาต้องฟังเพราะระบบกองทัพเขาตั้งมาอย่างนี้ ดังนั้นตนไม่ต้องเคลียร์ เพราะตนเป็นผู้บังคับบัญชา ตนเป็นพลเอกทำไมต้องไปเคลียร์พลโท เมื่อถามว่า ในการโยกย้ายครั้งนี้ได้วางผบ.ทบ.คนต่อไปหรือยัง พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ต้องพิสูจน์อีก 2 ปีไม่ใช่ขึ้นมาแล้วจะได้เป็นเลย และต้องดูย้อนหลังกลับไปด้วย ดูจากการทำงาน ดูจากคุณความดี ดูจากกุศลพลบุญชาาติที่แล้วอีก 3ชาติ ไม่ใช่ดูวันนี้ แล้วตนจะตั้งเพื่อรักษาเก้าอี้ตนคงไม่ใช่ เพราะเก้าอี้อยู่ที่เดิม ไม่มีใครยกไปไหน ใครจะยกเก้าอี้ตนได้ จะย้ายตนได้ก็ย้ายไป ถ้าย้ายก็เลิกทำงาน ทั้งนี้ในอนาคตอยากให้เป็นกองทัพที่ทันสมัย ทำงานอย่างเต็มกำลัง สิ่งที่อยากจะทำคือยากให้กำลังพลมีคุณภาพชีวิตที่ดี ซึ่งเป็นสิ่งที่ตนคิดถึงคนอื่นมากกว่าคิดถึงตัวเอง ตนไม่ใช่คนดี 100 เปอร์เซ็นต์ ถ้าดีก็คงเป็นพระ ก็เปนปุถุชนคนธรรมดา มีโมโห เป็นคนมีเหตุผล ใช้สมองในการตัดสินใจไม่ใช่ความรู้สึก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับแคนดิเดตผู้จะมาดำรงตำแหน่งแม่ทัพภาคที่ 1 คนใหม่แทน พล.ท.อุดมเดช สีตบุตร แม่ทัพภาคที่ 1 ที่คาดว่า จะขึ้นไปเป็นผู้ช่วย ผบ.ทบ. นั้น มีอยู่ 2 คนคือ พล.ต.วลิต โรจนภักดี และ พล.ต.ไพบุลย์ คุ้มฉายา รองแม่ทัพภาคที่ 1 ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมรุ่น ตท.15 ทั้งสองคน โดย พล.ท.อุดมเดช จะเสนอชื่อ พล.ต.ไพบูลย์ที่ถือเป็นนายทหารสายวงศ์เทวัญ ขึ้นมาเป็นแม่ทัพภาคที่ 1 เนื่องจากครองความอาวุโสเหนือกว่า พล.ต.วลิต เพราะขึ้นมาเป็นรองแม่ทัพภาคที่ 1 ก่อน ส่วน พล.ต.วลิต นายทหารสายบูรพาพยัคฆ์ และเป็นอดีต ผบ.พล.ร.2 รอ.ที่ได้รับบาดเจ็บจากการกระชับพื้นที่การชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงเมื่อปี 2553 คาดว่า จะมาดำรงตำแหน่งแม่ทัพน้อยที่ 1 ในอัตราพลโท
กำลังโหลดความคิดเห็น