xs
xsm
sm
md
lg

แย้มโผทหาร วัดใจดันคนสนิท 4 ตัวเต็งชิงเก้าอี้ปลัดกลาโหม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

 พล.ร.อ.สุรศักดิ์ หรุ่นเริงรมย์ (แฟ้มภาพ)
โผทหาร 55 “ทนงศักดิ์” มาแรงนั่ง “ปลัดกลาโหม” ขณะที่เด็ก “บิ๊กเฟื่อง” ไม่พลาดนั่งเก้าอี้ ผบ.ทอ.คนใหม่ หลัง “บิ๊กโอ๋” ไม่ล้วงลูก ด้าน “ประยุทธ์” ปรับไลน์ 5 เสือ ทบ. ดันเพื่อนรักขึ้น เสธ.ทบ. ขยับ “ผบ.นปอ.-มทภ.1” ขึ้น ผช.ผบ.ทบ. ส่วน “ดาว์พงษ์” ดันไม่ขึ้นอยู่รอง ผบ.ทบ.ตามเดิม ด้าน “บิ๊กหรุ่น” ดัน “บิ๊กห้าว” ขึ้นแทน รอง ผบ.ทร. ขยับ “บิ๊กหนุ่ย” นั่ง เสธ.ทร. ขณะที่ “บิ๊กเฟื่อง” ขยับ “บิ๊กตุ้ย” ขึ้นเป็น รอง ผบ.ทอ. ขยับ “บิ๊กแป๊ะ” นั่ง เสธ.ทอ.แทน

วันที่ 8 ส.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่หอประชุมกองทัพเรือ พล.ร.อ.สุรศักดิ์ หรุ่นเริงรมย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) ให้สัมภาษณ์ถึงการปรับย้ายนายทหารประจำปีของกองทัพเรือ ว่าขณะนี้กำลังดำเนินการอยู่ คาดว่าจะต้องส่งช่วงกลางเดือนสิงหาคมนี้ เพราะอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาที่ยังมีหลักการเหมือนเดิม คือ ดูจากความเหมาะสม ความรู้ ความสามารถหลายอย่างประกอบกัน การเป็นผู้บังคับบัญชาหน่วยต่างที่สำคัญ เราจะวางคนที่เหมาะสมลงในตำแหน่งต่างๆ เพราะแต่ละตำแหน่งมีความสำคัญแตกต่างกัน การพิจารณาต้องทำอย่างรอบคอบ เพื่อนำไปสู่ผลของการปฏิบัติงาน

ผู้สื่อข่าวรายงานต่อว่า ในที่ประชุมสภากลาโหมเมื่อเดือนกรกฎาคม พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รัฐมนตรีว่าการะทรวงกลาโหม ได้ร่วมหารือพร้อมมอบนโยบายต่อ พล.อ.เสถียร เพิ่มทองอินทร์ ปลัดกระทรวงกลาโหม พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร ผู้บัญชาการทหารสูงสุด พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) พล.ร.อ.สุรศักดิ์ หรุ่นเริงรมย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) และ พล.อ.อ.อิทธพร ศุภวงศ์ ผู้บัญชาการทหารอากาศ(ผบ.ทอ.) เพื่อหารือถึงการจัดทำบัญชีโยกย้ายนายทหารประจำปี 2555 พร้อมกำชับให้ ผบ.เหล่าทัพ จัดทำบัญชีรายชื่อและส่งมายังกระทรวงกลาโหมภายในวันที่ 15 สิงหาคมนี้ ทั้งนี้ การจัดทำบัญชีรายชื่อ พล.อ.อ.สุกำพลให้ได้อิสระกับทางกองทัพในการจัดทำครั้งบัญชีรายชื่อ โดยให้คำนึงถึงหลักความอาวุโส และความสามารถเป็นหลัก ซึ่ง พล.อ.อ.สุกำพลได้ยืนยันกับ ผบ.เหล่าทัพว่าจะไม่เข้าไปก้าวก่ายในการจัดทำบัญชีรายชื่อในครั้งนี้ แต่เน้นย้ำให้มีการพิจารณากันอย่างรอบคอบ

ขณะที่ความเคลื่อนไหวของเหล่าทัพนั้น ปรากฏว่าขณะนี้ทุกเหล่าทัพอยู่ระหว่างการพิจารณาบุคคลที่เหมาะสมขึ้นมาดำรงตำแหน่งแทนที่จะมาเกษียณอายุราชการในปีนี้ ทั้งนี้ ผบ.เหล่าทัพเปิดโอกาสให้ผู้ใต้บังคับบัญชาตามสายการเป็นผู้เสนอผู้ที่เหมาะสมขึ้นมารับตำแหน่งนี้ ก่อนที่จะมีการพิจารณากันอีกครั้งของแต่ละเหล่าทัพ สำหรับในปีนี้มีผู้ที่เกษียณอายุราชการในตำแหน่งที่สำคัญ ประกอบด้วย พล.อ.เสถียร เพิ่มทองอินทร์ ปลัดกระทรวงกลาโหม พล.อ.อ.อิทธพล ศุภวงศ์ ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.) พล.อ.วิทวัส รชตะนันทน์, พล.ร.อ.รุ่งรัตน์ บุญยรัตพันธุ์, พล.อ.อ.ไมตรี โอสถหงส์ รองปลัดกระทรวงกลาโหม

ส่วนของกองบัญชาการกองทัพไทย คือ พล.อ.อ.มล.สุปรีชา กมลาศน์ ประธานคณะที่ปรึกษากองบัญชาการกองทัพไทย พล.อ.สกนธ์ สัจจานิตย์ รองผู้บัญชาการทหารสูงสุด สำหรับในส่วนของกองทัพบก ประกอบด้วย พล.อ.ยุทธศิลป์ โดยชื่นงาม ประธานคณะที่ปรึกษากองทัพบก พล.อ.โปฏก บุนนาค ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก กองทัพเรือ เช่น พล.ร.อ.วีระพล กิจสมบัติ รองผู้บัญชาการทหารเรือ พล.ร.อ.อภิวัฒน์ ศรีวรรธนะ ประธานคณะที่ปรึกษากองทัพเรือ ส่วนกองทัพอากาศอาทิ พล.อ.อ.ศรีเชาวน์ จันทร์เรือง รองผู้บัญชาการทหารอากาศ และ พล.อ.อ.พิธพร กลิ่นเฟือง ประธานคณะที่ปรึกษากองทัพอากาศ

สำหรับบุคคลที่จะมาดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวงกลาโหมแทน พล.อ.เสถียร เพิ่มทองอินทร์ มีแคนดิเดตหลายคน อาทิ พล.อ.ชาตรี ทัตติ (ตท.14) รองปลัดกระทรวงกลาโหม ซึ่งถือว่าเป็นลูกหม้อของกระทรวงกลาโหม ที่สำคัญน้องรักของ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี แต่อาจถูกสกัดเนื่องจากมีอายุราชการอีก 3 ปี แม้ว่า พล.อ.ชาตรี จะครองอัตราจอมพลแล้วก็ตาม แต่ระดับความอาวุโสถือว่ายังน้อยเมื่อเทียบกับ ผบ.เหล่าทัพที่ขณะนี้อยู่ลำดับท้ายๆ นอกจากนี้ยังมีชื่อของ พล.อ.ทนงศักดิ์ อภิรักษ์โยธิน (ตท.11) ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก ที่เป็นเพื่อนร่วมรุ่นของ พล.อ.เสถียร ที่มีอยู่ราชการอีก 1 ปี และที่สำคัญมีสายสัมพันธ์ที่ดีกับฝ่ายการเมือง ดังนั้นหาก พล.อ.เสถียร ผลักดันเพื่อนร่วมรุ่นคนนี้ขึ้นไปโอกาสที่จะหลุดนั่งเก้าอี้คงยาก แม้ว่าตอนนี้จะไม่ครองอัตราจอมพลก็ตาม แต่ในอดีตที่ผ่านมาก็เคยมีพลเอกที่ไม่ได้ครองยศอัตราจอมพลก็เคยมาดำรงตำแหน่งนี้เช่นกัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นอกจากนี้ยังมี พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ (ตท.12) รองผู้บัญชาการทหารบก ซึ่งมีดีกรีเป็นถึงเพื่อนรักของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก จะส่งชื่อเข้าชิงในตำแหน่งดังกล่าวด้วย แต่ก็จะต้องวัดใจรัฐบาลอีกครั้งหนึ่งว่าจะยอมให้ชื่อนี้มาดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวงกลาโหมหรือไม่ เพราะอดีตที่ผ่านมาถือว่า พล.อ.ดาว์พงษ์มีส่วนสำคัญในการวางแผนสลายการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงในปี 2553 และคนสุดท้ายที่มีชื่อคือ พล.อ.อ.บุญยฤทธิ์ เกิดสุข (ตท.11) รองผู้บัญชาการทหารสูงสุด ซึ่งถือเป็นม้ามืดเข้าชิงผู้บัญชาการทหารอากาศ แต่หากพลาดก็อาจจะมาอยู่ในตำแหน่งปลัดกระทรวงกลาโหมได้เช่นกัน

สำหรับตำแหน่งสำคัญในส่วนของกองบัญชาการกองทัพไทย ซึ่งตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ได้พยายามผลักเพื่อนร่วมรุ่น คือ พล.อ.วรพงษ์ สง่าเนตร (ตท.12) เสนาธิกาทหาร เข้าชิงในตำแหน่งปลัดกระทรวงกลาโหม แต่คงเกิดขึ้นยาก เนื่องจากรัฐบาล โดยเฉพาะพรรคเพื่อไทยคงไม่ยอมให้ ตท.12 ขึ้นมาอยู่ในไลน์เดียวกันในตำแหน่ง ผบ.เหล่าทัพ ดังนั้น พล.อ.วรพงษ์ อาจจะขยับขึ้นมาดำรงตำแหน่งรองผู้บัญชาการทหารสูงสุดที่ว่างลง ขณะเดียวกันยังมีข่าวว่า พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จะส่ง พล.อ.นิพัทธ ทองเล็ก (ตท.14) ผู้อำนวยการสำนักนโยบายและแผนกระทรวงกลาโหม โดดข้ามห้วยมานั่งในตำแหน่งเสนาธิการทหาร เพื่อรอจ่อคิวขึ้นเป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุด หลังจากที่ พล.อ.ธนะศักดิ์เกษียณอายุราชการในปี 2557 และให้ พล.อ.เผด็จการ จันทร์เสวก (ตท.12) ผบ.สถาบันวิชาการป้องกันประเทศ ขึ้นเป็น ประธานคณะที่ปรึกษากองบัญชาการกองทัพไทย

ส่วนกองทัพบก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก ได้มีการขยับไลน์ 5 เสือ ทบ.ใหม่ เนื่องจากตำแหน่งวางลง 2 ตำแหน่ง โดยคาดว่า พล.อ.ประยุทธ์จะขยับ พล.อ.ศิริชัย ดิษฐกุล (ตท.14) เสนาธิการทหารบก ขึ้นเป็นตำแหน่งประธานคณะที่ปรึกษากองทัพบก แลพจะขยับเพื่อนร่วมรุ่น พล.ท.ฉัตรชัย สาริกัลยะ (ตท.12) รองเสนาธิการทหารบก ขึ้นเป็นเสนาธิการทหารบก ส่วนตำแหน่งผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก ที่ว่างลง 1 ตำแหน่งอาจจะขยับ พล.ท.อุดมเดช สีตบุตร (ทต.14) แม่ทัพภาคที่ 1 ขึ้นมาดำรงตำแหน่งนี้ ทั้งนี้ หากตำแหน่งรองผู้บัญชาการทหารบก และผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก มีการขยับ พล.อ.ประยุทธ์ จะดันเพื่อนร่วมรุ่น คือ พล.ท.ยอดยุทธ บุญญาธิการ (ตท.12.) ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการป้องกันภัยทหารอากาศ กองทัพบก (ผบ.นปอ.) ขึ้นนั่งเก้าอี้ดังกล่าวแทน

ส่วนกองทัพเรือ พล.ร.อ.สุรศักดิ์ หรุ่นเริงรมย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ ได้มีการขยับไลน์ 5 ฉลาม ทร.ใหม่ เนื่องจากตำแหน่งวางลง 2 ตำแหน่ง คือ พล.ร.อ.ชัยวัฒน์ เอี่ยมสมุทร (ตท.12) หัวหน้าคณะนายทหารฝ่ายเสนาธิการประจำผู้บังคับบัญชา ขึ้นเป็นประธานคณะที่ปรึกษากองทัพเรือ และขยับเพื่อนร่วมรุ่น คือ พล.ร.อ.ดำรงศักดิ์ ห้าวเจริญ (ตท.13) เสนาธิการทหารเรือ ขึ้นเป็น รองผู้บัญชาการทหารเรือ ขณะที่ พล.ร.อ.พลวัตน์ สิโรดม (ตท.13) ที่ปรึกษาพิเศษกองทัพเรือ ขยับมาเป็น เสนาธิการทหารเรือ คาดว่าโยก พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย ที่ปรึกษาพิเศษกองทัพเรือ ข้ามมาเป็นรองปลัดกระทรวงกลาโหมที่ว่างลง

ขณะที่กองทัพอากาศมีตำแหน่งที่ว่างลง 3 ตำแหน่ง โดยทาง พล.อ.อ.อิทธพร ศุภวงศ์ ผู้บัญชาการทหารอากาศที่เกษียณ อายุราชการ 30 ก.ย.นี้จะเสนอชื่อ พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง (ตท.13) ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารอากาศ น้องรักขึ้นเป็นผู้บัญชาการทหารอากาศคนใหม่ หากไม่โดนฝ่ายการเมืองสกัดกั้นก็จะสมหวังแบบไร้ปัญหา โดยมีแคนดิเดตที่ถูกจับตา คือ พล.อ.อ.บุญยฤทธิ์ เกิดสุข (ตท.11) รองผู้บัญชาการทหารสูงสุด รอลุ้นอยู่เช่นกัน ขณะที่ พล.อ.อ.เพิ่มเกียรติ ลวณะมาลย์ (ตท.13) เสนาธิการทหารอากาศ ขยับเป็น รองผู้บัญชาการทหารอากาศ พล.อ.อ.ดิเรก พรหมประยูร ที่ปรึกษาพิเศษกองทัพอากาศ ขึ้นเป็นคณะประธานที่ปรึกษากองทัพอากาศ และโยก พล.อ.อ.วินัย เปล่งวิทยา (ตท.12) ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารอากาศ มานั่งเก้าอี้รองปลัดกระทรวงกลาโหมที่ว่างลง เปิดทางให้ พล.อ.ท.ทรงธรรม โชคคณาพิทักษ์ (ตท.14) ผบ.กรมควบคุมการปฏิบัติทางอากาศ ขยับเป็นผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารอากาศ รวมถึง พล.อ.อ.ชนะ อยู่สถาพร (ตท.13) ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษกองทัพอากาศ ขึ้นเป็นผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารอากาศ ขณะที่ พล.อ.ท.อารยะ งามประมวญ (ตท.13) รองเสนาธิการทหารอากาศ ขึ้นเป็นเสนาธิการทหารอากาศ
กำลังโหลดความคิดเห็น