ส.ส.บัญชีรายชื่อประชาธิปัตย์ สวน “ธาริต” กินยาผิดซอง ยกคำพูดในที่ประชุม กมธ.งบฯ ชัดเป็นเครื่องมือของรัฐบาล ท้าไปแจ้งความหากคิดว่าใส่ร้าย ชู พ.ร.บ.ขรก.พลเรือน ระบุต้องวางตัวเป็นกลาง ลั่นกระชากหน้ากากให้สังคมรู้ เหน็บพ่อไม่เคยสอนให้ขอโทษคนผิด ไล่ไปขอโทษดีเอสไอที่ทำให้มัวหมอง
วันนี้ (21 ส.ค.) นายวัชระ เพชรทอง ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายธาริต ดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ เรียกร้องให้ตนขอโทษจากกรณีที่กล่าวพาดพิงในสภาผู้แทนราษฎรว่า ตนสงสัยว่าคงกินยาผิดซอง เพราะนายธาริตเคยกล่าวในที่ประชุมกรรมาธิการงบประมาณปี 56 เมื่อวันที่ 19 ก.ค. 55 ว่า “ผมกราบเรียนด้วยความเคารพว่า ดีเอสไอเป็นเครื่องมือของฝ่ายรัฐบาลอย่างแน่นอน” และตนได้นำเรื่องดังกล่าวมาอภิปรายในสภาผู้แทนราษฎรระหว่างการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ ทั้งนี้ คำสารภาพของนายธาริตสอดคล้องกับคำอภิปรายในสภาของ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ที่เคยระบุว่าดีเอสไอสั่งได้ ดังนั้น เมื่อนายธาริตยอมรับว่าเป็นเครื่องมือของฝ่ายรัฐบาล ตนก็ขอบคุณนายธาริตที่พูดความจริงให้กรรมาธิการฯ ได้รับทราบ และนำความจริงดังกล่าวบอกประชาชนทั้งประเทศ ตนไม่ได้บิดเบือนใส่ร้ายนายธาริตแต่ประการใด และขอท้าให้นายธาริตไปแจ้งความดำเนินคดีถ้าหากคิดว่าตนใส่ร้ายหรือบิดเบือนให้ได้รับความเสียหาย
นายวัชระกล่าวว่า ส่วนกรณีที่นายธาริตระบุว่าไม่มีกฎหมายฉบับใดกำหนดให้ข้าราชการวางตัวเป็นกลางนั้นไม่เป็นความจริง เพราะ พ.ร.บ.ข้าราชการพลเรือนปี 51 บัญญัติชัดเจนว่าต้องวางตนเป็นกลางในการปฏิบัติหน้าที่ราชการ และปฏิบัติการอื่นที่เกี่ยวข้องกับประชาชน และประมวลจริยธรรมข้าราชการพลเรือนข้อ 8 ก็ระบุให้ต้องวางตัวเป็นกลาง จึงไม่เข้าใจว่าเหตุใดอธิบดีดีเอสไอจึงไม่ทราบว่ามีทั้งกฎหมายและประมวลจริยธรรมบัญญัติให้วางตัวเป็นกลาง ซึ่งตนไม่เคยเหยียบย่ำข้าราชการประจำ แต่ต้องการเปิดหน้ากากข้าราชการระดับสูงให้สังคมได้รับรู้ว่านายธาริตไม่มีความเป็นกลางทางการเมือง การที่ให้ตนขอโทษผ่านสื่อ ตนยืนยันว่าพ่อไม่เคยสอนให้ขอโทษคนผิด และเมื่อตนพูดความจริงจากรายงานการประชุมของกรรมาธิการงบฯ จึงไม่ต้องขอโทษนายธาริต แต่นายธาริตต้องกล่าวคำขอโทษต่อข้าราชการดีเอสไอที่ทำให้ดีเอสไอมัวหมอง และขอโทษประชาชนทั้งประเทศที่ทำให้กรมสอบสวนคดีพิเศษไม่ได้รับความเชื่อถือจากประชาชนอีกต่อไป
“ผมไม่เกรงกลัวอธิบดีดีเอสไอ เพราะมีพฤติกรรมที่ไม่เป็นกลาง พูดกลับไปกลับมามาโดยตลอด และพร้อมที่จะต่อสู้คดีกับอธิบดีดีเอสไอคนนี้ สื่อมวลชนต้องถามว่าอธิบดีคนไหนที่ถูกกรรมาธิการถามว่าเป็นอธิบดีกรมจิ้งจก เพราะเปลี่ยนสีตลอดเวลา และในที่ประชุมกรรมาธิการงบฯ เรียกผมว่าท่าน และอาจารย์ จนต้องกล่าวตัดบทว่าไม่ต้องเรียกว่าอาจารย์ เพราะผมไม่ใช่อาจารย์ที่ชวาลา จะอภิปรายทุกวันในสภาเกี่ยวกับนายธาริตถึงสิ่งที่รับปากกรรมาธิการฯ แต่ไม่ประพฤติปฏิบัติ โยนความรับผิดชอบให้ทหารเรื่องผังล้มเจ้า”