“เต้น” รับปากฟังศาล เชื่อมีเมตตา เผยไต่สวนครบเหลือแค่ “เจ๋ง” มั่นใจศาลไม่ติดใจ เตรียมแนบคลิปขอโทษที่บอกเบอร์ครอบครัวตุลาการ รับเป็นบทเรียน ท้า “อภิสิทธิ์-เทพเทือก” ขึ้นศาลแจงสลายชุมนุมแดง
วันนี้ (21 ส.ค.) นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะแกนนำ นปช.ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ศาลอาญานัดฟังคำพิจารณาเพิกถอนการประกันตัวแกนนำ นปช.ในวันที่ 22 ส.ค.นี้ว่า แกนนำได้มีการทำความเข้าใจกับมวลชนที่จะเดินทางมาให้กำลังใจว่า หลักเกณฑ์แนวทางปฏิบัติที่ศาลได้ระบุไว้ครั้งที่ผ่านมาก็ยังเป็นอย่างนั้น ก็ขอให้ผู้มาให้กำลังใจยึดแนวทางปฏิบัติเดิมอย่างเคร่งครัด สำหรับแกนนำที่เป็น ส.ส.ที่เลื่อนฟังคำตัดสินไปเป็นวันที่ 29 พ.ย.นั้น บางส่วนก็อาจจะเดินทางมาให้กำลังใจเพื่อนแกนนำ ส่วนคนที่นัดฟังคำพิจารณาในวันที่ 22 ส.ค.ทั้ง 19 คนนั้นทราบว่า 18 คนศาลไต่สวนเสร็จแล้ว มีเพียงนายยศวริศ ชูกล่อม หรือเจ๋ง ดอกจิก ที่จะต้องส่งหลักฐานเพิ่ม จากนั้นศาลคงจะนัดอ่านคำวินิจฉัยพร้อมกันในช่วงบ่าย
“ผมยังมั่นใจว่าศาลจะเมตตาให้โอกาสทุกคนได้มีอิสรภาพ ซึ่งอาจจะมีเงื่อนไข หรือหลักปฏิบัติเพิ่มเติมหรือไม่ อันนี้คงต้องรอฟัง จะเป็นบวกหรือลบพวกผมก็น้อมรับคำวินิจฉัยของศาล เคารพและจะปฏิบัติตาม ส่วนกรณีนายเจ๋งก็ได้มีการคุยกันตลอด ซึ่งศาลอาจจะติดใจเรื่องที่ขึ้นเวทีแล้วไปประกาศหมายเลขโทรศัพท์ศาล และครอบครัว โดยนายเจ๋งได้เตรียมคลิปที่ได้ประกาศขอโทษบนเวทีและห้ามปรามไม่ให้ประชาชนไปคุกคาม ซึ่งที่ผ่านมาโฆษกศาลก็แถลงแล้วว่าไม่ได้ติดใจ และไม่มีกลุ่มบุคคลไปคุกคามครอบครัวตุลาการด้วยกรณีดังกล่าวด้วย” นายณัฐวุฒิกล่าว
เมื่อถามว่าจะเป็นบทเรียนให้แกนนำในการขึ้นเวทีต้องมีความระมัดระวังมากขึ้นหรือไม่ นายณัฐวุฒิกล่าวว่า แน่นอนว่าความรอบคอบเป็นเรื่องที่เราต้องตระหนักอยู่ตลอดเวลาอยู่แล้ว เพราะสถานการณ์ทางการเมืองยังอยู่ในช่วงของความขัดแย้ง โดยเฉพาะพวกตนก็อยู่ในฐานะผู้ที่ถูกดำเนินคดีอยู่ระหว่างขั้นตอนการพิจารณา ดังนั้น สิ่งใดก็ตามที่ละเอียดอ่อนต่อกรณีดังกล่าวเราก็ต้องรอบคอบระมัดระวัง แต่ตนเห็นว่ามันค่อนข้างแตกต่างจากกรณีเดียวกันที่เกิดขึ้นกับฝ่ายตรงข้าม เพราะนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ส.ส.สุราษฎร์ธานี ก็ถูกกล่าวหาบงการสั่งฆ่าประชาชน แต่จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่มีพันธะทางคดีใดๆ แม้ว่าล่าสุดศาลจะมีหมายเรียกไปเบิกความในฐานะพยานไต่สวนการเสียชีวิตของ ประชาชนหลายราย
“นายสุเทพและนายอภิสิทธิ์พูดมาตลอด 2 ปีกว่าๆ ว่าพร้อมและบริสุทธิ์ใจ ก็ยังขอเลื่อนไปอีก 2 สัปดาห์ค่อยขึ้นให้การ โดยอ้างว่าต้องเตรียมข้อมูล ดูประเด็นรายละเอียดก่อน ผมก็ประหลาดใจ เพราะนายสุเทพ นายอภิสิทธิ์ พูดทุกวันพูดทุกเวที พูดจนขึ้นใจ พูดจนอ้าปากคนก็เห็นลิ้นไก่ว่าจะพูดอะไรเกี่ยวกับกรณีนี้ แต่พอถึงเวลาที่ศาลเรียกให้ไปเป็นพยานเท่านั้น ยังไม่มีสถานะอื่นก็กลับออกอาการ หน่วงเหนี่ยวดึงเวลา ผมจึงอยากจะเรียกร้องให้มีความกล้าหาญเหมือนที่ปากกล้า และเดินไปพูดความจริงในศาล ไม่ใช่เฉพาะคนไทย คนทั้งโลกอยากได้ยินเสียงนายอภิสิทธิ์ นายสุเทพหน้าบัลลังก์ศาลว่าจะอธิบายอย่างไรเกี่ยวกับกรณี” แกนนำ นปช.กล่าว