“ทูตสุรพงษ์” เชื่อ “ทักษิณ” เป็นหนึ่งในนอมินี ที่อเมริกาใช้เป็นเครื่องมือขยายอำนาจในเอเชียแปซิฟิก โดยแลกเปลี่ยนผลประโยชน์ซึ่งกันและกัน หนุนคนไทยประท้วงหน้าสถานทูต แต่ไม่แนะให้เผาธงชาติ
วันที่ 20 ส.ค. นายสุรพงษ์ ชัยนาม อดีตเอกอัครราชทูต 5 ประเทศ ได้ร่วมสนทนาในรายการ “คนเคาะข่าว” ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม ASTV
นายสุรพงษ์กล่าวว่า การที่สหรัฐฯ ให้วีซ่า พ.ต.ท.ทักษิณ มองย้อนไปเมื่อปี 2552 ข้อมูลของวิกิลีกส์เผยว่า นายอีริก จี จอห์น เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย ในขณะนั้น ได้ให้ความเห็นไปยังสหรัฐฯ ว่า พ.ต.ท.ทักษิณอาจอยู่เบื้องหลังความวุ่นวายในประเทศไทย บวกกับตอนนั้นเป็นยุครัฐบาลประชาธิปัตย์ เพื่อไม่ให้กระทบความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ จึงให้ระงับการให้วีซ่าไว้ก่อน จะเห็นได้ว่าตอนนั้นสหรัฐฯ ยังไม่ได้เลือกข้างชัดเจน
สหรัฐฯ คอยเฝ้าดูรัฐบาลประชาธิปัตย์ว่าจะสามารถทำให้ประเทศกลับสู่สภาวะปกติได้หรือไม่ แต่ก็ไม่เป็นไปตามที่คาดไว้ การบังคับใช้กฎหมายไม่ได้เกิดขึ้น แล้วจุดเปลี่ยนที่ทำให้ตัดสินใจเลือกข้าง พ.ต.ท.ทักษิณเต็มที่ คือหลังจากประชาธิปัตย์ยุบสภาแล้วพอเลือกตั้งใหม่เพื่อไทยกลับได้ชัยชนะ
พอมาปัจจุบัน เพื่อไทยมีอำนาจ สหรัฐฯรู้ดีอยู่แล้วว่าให้ พ.ต.ท.ทักษิณเข้าประเทศ รัฐบาลก็ไม่มีทางทำเรื่องขอส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนอยู่ดี จึงใช้ข้ออ้างนี้ได้ว่าทางไทยไม่ได้ขอ
นายสุรพงษ์กล่าวอีกว่า เหตุที่สหรัฐฯ เลือกถือไพ่ พ.ต.ท.ทักษิณ เนื่องจากตั้งแต่หลังสงครามเย็น อำนาจสหรัฐฯ เสื่อมลงเรื่อยๆ บวกกับวิกฤตเศรษฐกิจในสหรัฐฯ และยุโรป ทำให้อำนาจกระจายไปหลายทิศทาง ที่เห็นได้ชัดสุดท้ายอำนาจจะเป็นแบบ 2 ขั้วอีกหรือไม่ ระหว่างทุนนิยมสามานย์ตะวันตก กับทุนนิยมโดยรัฐะของจีน ฉะนั้นสหรัฐฯ จึงต้องการกลับมามีอิทธิพลในภูมิภาคเอเชียอีก เพราะไม่อยากให้เป็นของจีนเท่านั้น แต่ไม่ได้หมายความว่าต้องส่งกองกำลังทหารมายึดครอง เพราะปัจจุบันสามารถสร้างจักรวรรดิผ่านทางนอมินีคนพื้นเมือง อย่าง พ.ต.ท.ทักษิณ ก็สามารถเป็นนอมอนีให้สหรัฐฯ ได้ โดยมีผลประโยชน์ร่วมกัน นี่ก็อาจเป็นที่มาของการออกวีซ่าให้ โดยที่สหรัฐฯคงประเมินแล้วว่า พ.ต.ท.ทักษิณคงกุมสภาพ ถือดุลอำนาจทางการเมืองของประเทศไทยไปอีกนาน
นายสุรพงษ์ยังกล่าวว่า พรุ่งนี้ (21 ส.ค.) ได้ข่าวจะมีคนไปประท้วงที่หน้าสถานทูตสหรัฐฯ ในประเทศไทย ตนไม่แนะนำให้เผาธงชาติ แต่เผาหุ่นสามารถทำได้ และก็ทำกันเป็นเรื่องปกติ ทำเพื่อให้สหรัฐฯ ได้รู้ว่า ยุคนี้สมัยนี้กฎหมายคือจักรวรรดิ ไม่ใช่จักรวรรดิคือกฎหมาย ทุกวันนี้สหรัฐฯ ยังคิดว่ากูใหญ่ ความต้องการของตัวเองคือกฎหมาย ที่สำคัญอย่าเทศน์สอนประเทศอื่นในสิ่งที่ตัวเองก็ไม่ทำ
