“ทูตสุรพงษ์” เตือน ผบ.ทบ.ระวังสายเกินที่จะปกป้องสถาบันกษัตริย์ หลังให้สัมภาษณ์ยังไม่ถึงเวลาเข้าไปยุ่งเกี่ยว ชี้ปัจจุบันรัฐบาลกำลังทำลายประเทศ ไม่ใช่อยู่ในภาวะปกติที่กองทัพต้องตอบสนอง พร้อมแนะให้คิดถ้าประเทศพังสถาบันฯ จะอยู่ได้หรือ
วันที่ 30 มี.ค. เมื่อเวลา 20.30 น. นายสุรพงษ์ ชัยนาม ผู้เขียนหนังสือเรื่อง “กองทัพกับประชาธิปไตย” และอดีตเอกอัครราชทูต 5 ประเทศ กล่าวในรายการ “คนเคาะข่าว” ทางสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม ASTV ถึงกรณีการให้สัมภาษณ์ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก กับคำถามท่าทีของกองทัพต่อการนิรโทษกรรม พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร โดย พล.อ.ประยุทธ์ย้อนถามนักข่าวว่า กฎหมายเขาว่าอย่างไร ไม่ใช่ว่าทหารจะทำอะไรก็ได้ ในกฎหมายมาตารา 77 เขียนไว้ว่าทหารมีหน้าที่อย่างไร และยังมีกฎหมายปลีกย่อยอีกทั้งการเคลื่อนย้ายกำลัง การใช้อาวุธ ทุกครั้งที่ทหารจะทำอะไรต้องทำตามกฎระเบียบข้อบังคับที่มีอยู่ การทำอะไรต่างๆ ถ้าไม่อยู่ในกฎหมาย เช่น การปฏิวัติ 19 ก.ย.49 ก็ไม่อยู่ในกฎหมาย ส่วนจะเกิดอะไรขึ้นตนไม่รู้ เพราะไม่ใช่หัวหน้าคณะปฏิวัติ ต้องไปถามท่านเอง ดังนั้นวันนี้อย่าให้เกิดขึ้นอีก และอย่าไปคิดถึงมันดีกว่า ตนคาดหวังให้สื่อช่วยทำให้สังคมเรียนรู้ กลัวความรุนแรง เพราะตอนนี้สังคมค่อนข้างอ่อนไหว
นายสุรพงษ์กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์พูดถูกว่ากองทัพต้องเคารพกฎหมาย ที่ผ่านมาปัญหาก็เกิดจากการไม่เคารพนิติรัฐ แน่นอนทหารต้องฟังกฎหมาย ถ้าบ้านเมืองอยู่ในภาวะปกติ กองทัพเป็นหน่วยงานของรัฐะ ตอบสนองหน่วยงานของรัฐบาล โดยเฉพาะประเทศประชาธิปไตย ถ้ารัฐบาลทำดีทำถูกต้อง ไม่ละเมิดรัฐธรรมนูญ ไม่คอร์รัปชัน ไม่ผูกขาดอำนาจ แน่นอนกองทัพต้องตอบสนอง แต่ถ้ารัฐบาลละเมิดกฎหมาย ละเมิดความจงรักภักดี คอร์รัปชัน ผูกขาดอำนาจ กองทัพไม่ต้องตอบสนองรัฐบาล เพราะกองทัพมีหน้าที่ปกป้องประเทศให้อยู่ในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
ในภาวะไม่ปกติสิ่งที่กองทัพต้องปกป้องคือ ประเทศ สถาบันต่างๆ ของประเทศ รวมถึงสถาบันสูงสุด รัฐประหาร 18 ครั้งที่เกิดขึ้น ร้อยทั้งร้อยไม่ได้มาจากอุดมการณ์ แต่มาจากความมั่นคงของบุคคลในกองทัพ เพราะถ้ารัฐประหารมาจากอุดมการณ์ โอกาสที่จะทำเพื่อประเทศชาติมีสูงมาก อย่างเช่นที่โปรตุเกส เป็นต้น
นายสุรพงษ์กล่าวต่อว่า ผบ.ทบ.พูดว่า มีหน้าที่ปกป้องสถาบันสูงสุด มาตรา 77 ก็มีอยู่ มองแค่นั้นแคบเกินไป เพราะถ้านักการเมืองฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญ ทำลายนิติรัฐ คอร์รัปชัน ผูกขาดอำนาจ อันนี้ถือว่าฝ่ายการเมืองทำลายประเทศชาติ ทำลายประชาธิปไตย และรัฐธรรมนูญ แล้วถ้าประเทศชาติไม่อยู่ สถาบันจะอยู่ได้หรือไม่
การที่ ผบ.ทบ.บอกว่า ถ้ายังไม่เกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์โดยตรง กองทัพจะไม่พิจารณาอะไร ถือว่าเป็นเรื่องที่ฝ่ายการเมือง ประชาชน ไปแก้กันเอง ตนว่าคิดผิด เพราะถึงตอนนั้นอาจไม่ช่วยให้สถาบันฯ อยู่ได้แล้ว
กองทัพต้องภักดีต่อประเทศชาติ ไม่ใช่ภักดีต่อรัฐบาล ผบ.ทบ.เคยบอกว่าคนในกองทัพต้องหมั่นหาความรู้ ความมั่นคงมันเปลี่ยนไปมาก อันนี้สำคัญมาก สมัยนี้ต้องขยายความเพราะ 90 เปอร์เซ็นต์ของศัตรูประเทศ มาจากภายใน ไม่เหมือนสมัยสงครามเย็น ที่ศัตรูมาจากประเทศอื่นที่เป็นคอมมิวนิสต์ ที่พยายามมาบ่อนทำลายประเทศประชาธิปไตย แต่ปัจจุบันมาจากภายใน ก็คือนักการเมือง พรรคการเมือง ที่ทำลายนิติรัฐ คิดแต่จะเอาตัวเองกับพวก ความยากจน ความไร้การศึกษา ก็เป็นศัตรูภายในเช่นกัน กองทัพต้องแยกให้ได้อะไรคือภาวะปกติ หรือไม่ปกติ