“บรรหาร” เปิดบ้านให้เบิร์ธเดย์ 80 ปีสุดคึกคัก! “ชุมพล” ขนขรก.อวยพร “ธีระ” พา “อำมาตย์เต้น” เข้าคาราวะ “เสธ.หนั่น-สุวัจน์-พินิจ-ปรีชา-ชาญชัย” ก็มา “อภิสิทธิ์” ควง “สุเทพ” หอบดอกไม้ร่วม “ยงยุทธ” ตามสมทบ “ทักษิณ - ยิ่งลักษณ์” โฟนอินแฮปปี้ เจ้าตัวอ้างไหลไปอยู่ได้ทั้ง ปชป.-พท.เพราะทุกพรรคเป็นเพื่อนกัน แต่รับต้องทำใจถูกโขกสับ ยันไม่ใช่ปลาไหล ลั่นพ้นโทษแบนคัมแบ็กการเมืองแน่ รับไม่อยากให้เปลี่ยน “ธีระ” พ้น ครม.
วันนี้ (19 ส.ค.) ที่บ้านพักจรัญสนิทวงศ์ เมื่อเวลา 07.00 น. นายบรรหาร ศิลปอาชา ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา จัดงานวันคล้ายวันเกิดครบ 80 ปี โดยมีนักการเมือง สมาชิกพรรคชาติไทยพัฒนา ข้าราชการ และประชาชนชาว จ.สุพรรณบุรี และนักการเมืองจากพรรคต่างๆ เข้าร่วมอวยพรเป็นจำนวนมาก ขณะเดียวกันมีการตั้งซุ้มอาหารไว้บริการผู้ร่วมงาน โดยมีอาหารหลายอย่าง เช่น ผัดไทย หอยทอด ก๋วยเตี๋ยวจาก จ.สุพรรณบุรี เป็นต้น ทั้งนี้ นายบรรหารได้แจกของชำร่วยเป็นถุงผ้าสีฟ้า มีรูปภาพมือเกี่ยวนิ้วก้อย มีข้อความว่า “บรรหาร ศิลปอาชา 19 สิงหาคม 2555” ซึ่งภายในถุงมีการบรรจุแผ่นซีดีคาถาป้องกันภัย 10 ทิศ เหรียญกษาปณ์ที่ระลึก เฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และพระมเหศวร รุ่นตำนานแผ่นดิน (เล่าม่า) วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ จ.สุพรรณบุรี ซึ่งนายบรรหารอธิบายว่า รูปภาพจับมือสองมือนั้นคือให้เกิดความสามัคคี ส่วนเหรียญกษาปณ์ก็เป็นเหรียญที่มีความสำคัญมาก ขณะที่ซีดีธรรมะเมื่อฟังแล้วก็จะชื่นใจ และพระมเหศวรนั้นได้ผ่านพิธีพุทธาภิเษกแล้ว ยิง แทงไม่เข้า แต่ก็อย่าไปลอง และเอาไว้ห้อยได้ โดยแอ๊ด คาราบาว เจริญรุ่งเรืองก็เพราะพระองค์นี้
ทั้งนี้ นายชุมพล ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา ได้เข้าอวยพรนายบรรหารในฐานะน้องชาย พร้อมคณะข้าราชการจากกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดยนายบรรหารกล่าวกับคณะดังกล่าวว่าการที่กีฬาโอลิมปิกครั้งนี้จะไม่ได้เหรียญทองก็ขอให้ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทยลงไปดูในทุกสมาคมกีฬาว่ามีปัญหาอะไรหรือไม่ โดยเฉพาะงบประมาณ เพราะทราบว่านักกีฬาต้องออกเงินไปแข่งขันเอง ดังนั้น อีก 4 ปีข้างหน้าขอให้ได้เหรียญทองและตนก็จะช่วยเข้าไปดูด้วย ส่วนเรื่องการท่องเที่ยวที่นายกรัฐมนตรีตั้งเป้าว่าในปี 2558 จะต้องมีนักท่องเที่ยว 2 ล้านล้านคนก็คิดว่าน่าจะเป็นไปได้ ซึ่งขอเอาใจช่วยทุกคนในการทำหน้าที่ และดูการทำงานของนายกรัฐมนตรีเป็นแบบอย่าง เพราะดูตอนนี้มีความเข้มแข็งขึ้นทุกวัน
ขณะที่นายธีระ วงศ์สมุทร รมว.เกษตรและสหกรณ์ พร้อมนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.เกษตรฯ พร้อมข้าราชการกระทรวงเกษตรฯ ได้เข้าอวยพรนายบรรหาร ซึ่งนายบรรหารได้ขอให้กระทรวงเกษตรฯ เตรียมการดูแลแก้ไขปัญหาน้ำท่วม และไม่ต้องน้อยใจที่กรมชลประทานได้งบประมาณน้อย เพราะโครงการต่างๆ ต้องใช้ระยะเวลาหลายปีในการดำเนินการ
ต่อมาเวลา 09.00 น. พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ ประธานที่ปรีกษาพรรคชาติไทยพัฒนา ได้เป็นตัวแทนนำอดีตสมาชิกพรรคชาติไทยพัฒนาและอดีตสมาชิกพรรคชาติไทย อวยพรนายบรรหาร ศิลปอาชา โดย พล.ต.สนั่นได้เป็นตัวแทนกล่าวอวยพรว่า ท่านถือเป็นผู้ที่พรรคเคารพนับถือ ยืนหยัดต่อสู้เพื่อพรรคมาโดยตลอด ไม่ว่าจะเป็นวิกฤตที่เกิดขึ้นกับพรรคหรือเกิดขึ้นกับประเทศก็สามารถใช้สติปัญญาแก้ปัญหา นำพาประเทศ และพรรคชาติไทยพัฒนารอดพ้นวิกฤตนั้นมาได้ เนื่องจากท่านมีวิสัยทัศน์ก้าวไกล มีสติปัญญาแก้ปัญหาเฉพาะหน้า แก้วิกฤตของบ้านเมืองให้พ้นจากความทุกข์ยากมาจนถึงวันนี้ เราทุกคนรู้สึกดีใจและรู้สึกเป็นเกียรติ อย่างยิ่งท่านมาเป็นที่ปรึกษาพรรคชาติไทยพัฒนา ท่านได้ให้คำสั่งสอน คำตักเตือน ชี้แนวทางในการทำงานให้สมาชิกพรรคทุกคนให้สามารถแก้ปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นในยามวิกฤต ท่านสามารถแก้ปัญหาได้ภายใน 1 วัน สิ่งเหล่านี้พวกเราสำนึก และที่ท่านประกาศว่าจะนำพาพรรคชาติไทยพัฒนาต่อไปจนสำเร็จ
พล.ต.สนั่นกล่าวต่อว่า วันนี้เป็นวันสำคัญ ท่านครบ 80 ปีท่านยังมีสมอง ความคิดริเริ่ม ท่านอ่านและขีดเส้นใต้อะไรมีอะไรท่านออกมาเตือนพวกเรา สิ่งที่อยากจะบอกกับสื่อมวลชนก็คือ ท่านไม่เคยไปยุ่งไปก้าวก่ายกระทรวง ทบวง กรมต่างๆ ที่พรรคชาติไทยพัฒนารับผิดชอบ ท่านเพียงแต่ให้คำแนะนำ ก็เป็นสิ่งที่เราภาคภูมิใจ พวกเราขอภาวนาจะนำพาพรรคชาติไทยพัฒนาให้เกิดประโยชน์ต่อประเทศชาติและประชาชน
ขณะที่นายบรรหารกล่าวว่า ในวันนี้เนื่องในโอกาสครบ 80 ปี ความจริงไม่อยากกล่าวคำนี้เลย แต่จำเป็นธรรมชาติหลีกเลี่ยงไม่ได้ การที่ตนสามารถยืนหยัดทางการเมืองมา 40 ปีตั้งแต่ปี 2517 เป็นต้นมา ก้าวหน้าบ้าง ถอยหลังบ้าง แต่ก็ยังรักษาพรรคชาติไทยดูแลมาโดยตลอด ซึ่งชีวิตคนเราถ้าได้พูดกันปัญหาก็จะคลี่คลายลง
“มีคำถามที่ถามผมว่า ทำไมผมไปอยู่ฝ่ายนายกฯ ทักษิณ เดี๋ยวไปอยู่ฝ่ายพรรคประชาธิปัตย์ ผมอยากจะบอกว่าเรื่องการเมืองก็การเมือง เรื่องส่วนตัวก็เรื่องส่วนตัว ผมถือว่าทุกพรรคเป็นเพื่อนกันหมด สามารพูดจากันได้ สมัยนายกฯ ทักษิณมีการจัดรัฐบาล 2-3 รอบ เมื่อตัวเลขไม่พอมาขอความร่วมมือพรรคชาติไทย และพรรคชาติไทยพัฒนา เพราะอีกฝ่ายไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ แม้แต่พรรคประชาธิปัตย์เอง พล.ต.สนั่นมาหาผมเองที่พรรคชาติไทย ทั้งที่ผมก็มีข้อขัดข้องหมองใจมาตลอด ภาษาชาวบ้านตีกันตายแล้ว ตีกันตายแล้ว แต่ผมก็ยินดีให้อภัย ถ้าไม่มีพรรคชาติไทยจัดตั้งรัฐบาลไม่ได้ แต่คือหลักการที่วางไว้" นายบรรหารกล่าว
นายบรรหารกล่าวต่อว่า “ทุกครั้งอย่างคราวนี้ที่ไปร่วมพรรคเพื่อไทยที่ได้ 250 เสียงก็ต้องอาศัยพรรคชาติไทยพัฒนา อาศัยพรรคร่วมรัฐบาลเพื่อให้รัฐบาลอยู่ได้ พรรคประชาธิปัตย์ก็เป็นเพื่อนกัน ตราบใดใครที่มีคะแนนได้มากก็มาดูกัน แต่ทั้งหมดนี้อุดมการณ์ หลักการต้องยืนหยัดเพื่อส่วนรวม เพื่อประชาชน เพราะฉะนั้นผมไม่มีศัตรู มีแต่เพื่อน ทั้งหมดมีแต่เพื่อนเพราะคำว่าเพื่อนมีความหมายสำคัญอย่างยิ่ง เพื่อนแท้ เพื่อนปลอม เพื่อนจริง แต่ผมอยากให้ทุกคนเป็นเพื่อนแท้ทั้งหมด เราขอร้องอะไรไปก็ยินดีให้ความร่วมมือ”
“โดยเฉพาะพรรคชาติไทยพัฒนาผมไม่ทิ้งหรอก เหลือเวลาอีก 1 ปี 3 เดือน นับไปเรื่อย จนกว่าจะครบวันที่ 2 ธันวาคม 2556 ผมจะปลดโซ่ตรวนที่ผูกขาเอาไว้ให้ไม่สามารถเดินได้ ถึงวันนั้นผมจะเต้นแร้งเต้นกาลงสู่สนามเลือกตั้งได้ ผมจะพาพรรคชาติไทยสู่ความก้าวหน้าอย่างแน่นอน เสียดายที่ผ่านมาเรามีตัวเลขที่ต้องได้ถึง 30 เสียง แต่บังเอิญไม่สามารถช่วยหาเสียงได้ แต่คราวหน้าโอเค จะเข้าไปช่วยหาเสียงทุกจังหวัด ผมไม่สามารถให้พรรคชาติไทยพัฒนาไปรวมกับใครได้ ไปรวมไม่ได้ เราต้องเป็นตัวของเราเอง แต่ถ้าพรรคไหนจัดตั้งรัฐบาลไม่ได้มาหาถ้าหลักการที่ถูกต้อง เข้าพรรคไหนก็ได้ เข้า พ.ต.ท.ทักษิณก็ได้ พรรคประชาธิปัตย์ก็ได้ แต่มันยากการทำอย่างนี้ต้องทำใจ บางทีถูกโขกสับแทบแย่ เจอมาแล้ว เจอทั้งฟ้าทั้งฝน พายุ เจอมาหมดแล้ว แต่การเจอแบบนี้ทำให้อายุยืนมา 80 ปี ให้คำสัญญาผมอยู่ข้างหลังคอยช่วยเหลือเต็มที่ มีอะไรก็มาบอกกัน” นายบรรหารกล่าว
นายบรรหารกล่าวด้วยว่า เนื่องในโอกาสครบ 80 ปี ขอให้ทุกคนสมปรารถนา บริหารงานกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาให้เด่นให้ดัง สามารถนำคนเข้ามาได้ปี 58 จำนวน 2 ล้านๆ คนตามที่นายกฯ ยิ่งลักษณ์พูดไว้ และขอให้นายธีระ วงศ์สมุทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พยายามดูอย่าให้น้ำท่วม
หลังจากนั้นคณะแกนนำพรรคชาติพัฒนา นำโดยนายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ นายพินิจ จารุสมบัติ นายปรีชา เลาหพงศ์ชนะ และนายชาญชัย ชัยรุ่งเรือง ได้เข้าอวยพร โดยนายสุวัจน์กล่าวว่า ตน นายพินิจ นายปรีชา และนายชาญชัย ขอให้อำนาจสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายดลบันดาลให้ท่านมีสุขภาพแข็งแรง มีความปรารถนาสิ่งใดขอให้ได้สิ่งนั้น ในฐานะที่เป็นอดีตนายกรัฐมนตรี เป็นผู้อาวุโสทางการเมือง ตอนนี้บ้านเมืองยังมีปัญหาหลายอย่างที่ต้องร่วมมือกันแก้ไขปัญหา ขอให้ท่านเป็นผู้ใหญ่ทางการเมืองให้ประเทศ เป็นหลักให้ประเทศและทางการเมือง ก็ขอให้ช่วยกันสร้างสรรค์ความเข้าใจทางการเมือง ความรักความสามัคคี ถ้อยทีถ้อยอาศัยเพื่อให้เกิดความเรียบร้อยเป็นพื้นฐานในการพัฒนาประเทศและเศรษฐกิจ และสร้างความสุขให้คนไทยต่อไป
ขณะที่นายบรรหารได้พูดคุยและอวยพรทั้ง 4 คนว่า ขณะนี้มีคำถามว่าทำไมเราต้องไปอยู่กับพรรคเพื่อไทย บางเวลาทำไมต้องอยู่กับพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งมีเหตุมีผล ถ้าฝ่ายไหนจัดรัฐบาลเราก็ไปกับเขา ไม่ใช่เป็นปลาไหล ฝ่ายไหนจัดไม่ได้ก็เป็นเพื่อนกัน เป็นสิ่งที่พยายามประนีประนอม ซึ่งรู้สึกเหนื่อย บางครั้งก็ท้อ จะลาก็ลาไม่ได้ หนักนิดเบาหน่อยก็ช่วยกันตลอด และขอให้มีความเข้มแข็ง เพราะพรรคชาติพัฒนามีบุคลากรที่มีความสามารถ เห็นได้จากการที่ได้อยู่ในหลายรัฐบาล ทำให้เป็นการยืนยันได้ว่าคุณสุวัจน์จะนำพาพรรคชาติพัฒนาได้ต่อไปอย่างยิ่งใหญ่และเกรียงไกร ทั้งนี้ตนอายุ 80 ปีแก่แล้ว แต่พวกท่านอายุประมาณ 60 ปีก็ขอให้เป็นหลักในทางการเมือง ซึ่งตนแก่แล้วแต่ก็ไม่ท้อ ต่อให้อายุ 90 ปีก็ไม่ทิ้งการเมือง มีอะไรก็ขอให้มาคุยกันให้บ้านเมืองเดินหน้าต่อไป
จากนั้นเวลา 10.15 น. คณะของพรรคประชาธิปัตย์ นำโดยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรค นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ส.ส.สุราษฎร์ธานี นายวิรัตน์ กัลยาศิริ ส.ส.สงขลา และนายชุมพล จุลใส ส.ส.ชุมพร ได้เข้าอวยพรนายบรรหาร ซึ่งนายบรรหาร กล่าวว่าที่ผ่านมาพรรคชาติไทยพัฒนาได้รับความกรุณาและความช่วยเหลือจากพรรคประชาธิปัตย์มากพอสมคววร โดยเฉพาะสมัยรัฐบาลของนายอภิสิทธิ์ ได้ทำให้งานในกระทรวงที่พรรคชาติไทยพัฒนารับผิดชอบมีความก้าวหน้าไปอย่างไม่หยุดยั้ง ซึ่งเป็นเรื่องที่พวกเราประทับใจตลอดเวลา แต่วิถีทางทางการเมืองก็ต้องว่ากันอีกเรื่องหนึ่ง อยากเห็นว่าการเมืองต้องเป็นการเมือง เพื่อนต้องเป็นเพื่อน และเพื่อนสำคัญกว่าการเมืองเพราะเพื่อนสามารถพูดกันรู้เรื่อง
หลังจากนั้นคณะของพรรคเพื่อไทย นำโดยนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรค นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รมว.คมนาคม ในฐานะเลขาธิการพรรคเพื่อไทย และนายอุดมเดช รัตนเสถียร ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) ได้นำกระเช้าดอกไม้เข้าอวยพร พร้อมนำกระเช้าของนายกรัฐมนตรีมาด้วย ทั้งนี้ ระหว่างที่คณะของพรรคเพื่อไทยกำลังอวยพรนายบรรหารนั้น นายจารุพงศ์ได้โทรศัพท์ไปหา พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พร้อมยื่นให้นายบรรหารได้พูดคุย ซึ่งการพูดคุยกันนั้นเป็นไปด้วยบรรยากาศยิ้มแย้ม จากนั้นนายบรรหารเปิดเผยว่า พ.ต.ท.ทักษิณได้โทรศัพท์มาจากเกาหลีเพื่ออวยพรวันเกิดตนขอให้มีสุขภาพแข็งแรง ซึ่ง พ.ต.ท.ทักษิณยังทวงสัญญาว่า “พี่อายุ 80 ปีเมื่อไหร่น้องจะกลับมาเป็นหัวหน้าพรรค ซึ่งพี่เพิ่งอายุ 30 กว่า ฉะนั้นก็ยังไม่สาย” และตนบอกด้วยว่าหากจะมาฮ่องกงเมื่อไหร่ก็ขอให้บอก ขณะที่นายกรัฐมนตรี ได้โทรศัพท์เข้ามาอวยพรนายบรรหารด้วย ซึ่งนายบรรหารได้พูดคุยว่าท่านทำงานเก่ง ตนเป็นผู้ชายอกสามศอกยังสู้ท่านไม่ได้เลย และขอให้ทำงานแข็งแกร่งอย่างนี้ต่อไป มีความเจริญก้าวหน้าในการทำงาน ขอเอาใจช่วย มีอะไรก็ขอให้บอก หากพูดอะไรไม่ดีก็ต้องขอโทษ และขอฝากนายธีระกับนายชุมพลเอาไว้ด้วย โดยเฉพาะนายธีระ มีความสำคัญมากอยากให้อยู่ต่อ จากนั้นนายบรรหารได้เปิดเผยภายหลังการพูดคุยโทรศัพท์กับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ว่าบังเอิญท่านมีภารกิจที่ จ.เชียงใหม่ ก็ขอให้นายยงยุทธมาแทน ซึ่งท่านก็อวยพรในฐานะเป็นผู้ใหญ่ มีความสำคัญทางการเมือง ขอให้สุขภาพแข็งแรงและร่วมทำงานในรัฐบาลต่อไป มีอะไรก็จะหารือกัน และในช่วงเวลาที่ผ่านมาหากมีอะไรที่พูดไม่ดีก็ต้องขออภัย ส่วนที่บอกว่าฝากนายธีระนั้น ไม่เกี่ยวกับการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) เอาเป็นว่าตนไม่อยากเปลี่ยนตัวนายธีระ แม้จะมีปัญหาสุขภาพ แต่ใจจริงตนอยากให้ทำงานต่อไป รวมทั้งนายชุมพลด้วย
