“บรรหาร” ลั่น! ห้ามตัดงบกรมชลฯ มั่นใจปีนี้ไม่ท่วมปีหน้าไม่แน่-เผยลุยปรองดองหลังพ้นแบน

“บิ๊กเติ้ง” เผยอภิปรายงบฯ ฝ่ายค้านซักไม่ลงลึก เชื่อรอศึกซักฟอก ขอบคุณนายกฯ เร่ง กบอ.ให้งบกรมชลฯ อ้างใช้แก้น้ำท่วม ชี้โครงการใหญ่ใช้ทีโออาร์ไม่เหมาะ มั่นใจปีนี้ไม่ท่วมแต่ปีหน้าไม่แน่ ลั่นไม่ยอมถูกตัดงบ 1.3 หมื่น ล.-รับการเมืองแก้ยาก แนะเดินสายกลาง เผยพ้นโทษแบน พร้อมเดินหน้าปรองดอง

วันนี้ (19 ส.ค.) ที่บ้านพักจรัญสนิทวงศ์ 53 นายบรรหาร ศิลปอาชา ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติไทยพัฒนา ให้สัมภาษณ์เนื่องในวันคล้ายวันเกิดอายุครบ 80 ปีว่า วันนี้เป็นอีกวันหนึ่งคล้ายวันเกิด คงแปลกใจว่าอายุป่านนี้ยังแต่งตัวเหมือนคนหนุ่ม รองเท้าเต้นรำ กางเกงขาว เสื้อฟ้า เครื่องแต่งกายก็จะเป็นสิ่งหนึ่งที่จะทำให้ใจเราเป็นหนุ่มได้ อายุเป็นแค่ตัวเลข แต่ใจไม่เป็นอย่างนั้น บางคนบอกว่าอายุ 80 ปี ร่างกายหนีธรรมชาติไม่พ้น แต่ใจแค่ 30 พอใจแค่ 30 สามารถทำงานเยอะแยะมากมาย แต่ถ้าหากเราทำใจให้แก่ตามกายก็ทำอะไรไม่ได้ ได้แต่นั่งอยู่กับบ้าน

เมื่อถามว่ามองการอภิปรายร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2556 ของฝ่ายค้านอย่างไรบ้าง นายบรรหารกล่าวว่า เท่าที่ดูการอภิปรายงบประมาณที่ผ่านมา 3 วันจับจุดได้ประเด็นหนึ่งว่า บางกรณีที่ถามไม่ลงลึกเพื่อให้กรรมาธิการฯ และรัฐบาลตอบ อาจจะเป็นสิ่งหนึ่งที่จะยึดโยงไปตอนเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ เท่าที่ฟังเรื่องของกระทรวงเกษตรฯ ไม่ได้ลงลึกเลย แค่เบาๆ เผินๆ เท่านั้นเอง ซึ่งอาจจะเป็นยุทธศาสตร์หนึ่งในการเตรียมการอภิปรายไม่ไว้วางใจในอนาคต นี่คือหลักธรรมชาติที่ทำมาตลอด แต่การอภิปรายทั้งรัฐบาลและฝ่ายค้านเขาเก่ง ซึ่งรัฐบาลก็ไม่แพ้มีข้อมูลพอสมควร

เมื่อถามว่าฝ่ายค้านอภิปรายเรื่องงบกลางเรื่องการจัดสรรแก้ไขปัญหาน้ำท่วมมีหลายจุดไม่มีความเหมาะสม นายบรรหารกล่าวว่า งบกลางจำนวน 1.2 แสนล้านบาทเท่าที่ฟังตอนนี้หมดแล้วในหลายกระทรวงที่แก้ปัญหาน้ำท่วม ซึ่งงบของกรมชลประทานที่ขอไปตั้งแต่ 3-4 เดือนก็ยังไม่ได้ ซึ่งล้วนเป็นจุดที่อันตรายทั้งสิ้นในการป้องกันน้ำท่วม เรื่องไปกองที่ไหนก็ไม่รู้ ซึ่งนายกฯ ก็จะดูแลและเร่งรัดให้ ก็ต้องขอบคุณช่วยเร่งให้เถอะ ซึ่งไม่ใช่งบของกรมชลประทานแต่เป็นการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมทั้งหมด เช่นคันกั้นน้ำที่บางกรวย คลองเชียงราก ซึ่งสำคัญมากน้ำจะไม่ท่วมที่นวนครเลย บางโฉมศรีงบ 200 กว่าล้านบาท ความจริงต้องอยู่ในงบประมาณ แต่กลับไปอยู่ในเงินกู้ 3.5 แสนล้านบาท แต่ทั้งหมดไปอยู่ที่ กบอ.ซึ่งก็อยู่ที่นายปลอดประสพ สุรัสวดี รมว.วิทยาศาสตร์ฯ ในฐานะประธาน กบอ.จะเร่งรัดให้ ซึ่งนายกฯ ก็จะเร่งรัดให้ และมีสิ่งที่สำคัญกว่านั้น บางโครงการต้องใช้เวลาทำ 4-5 ปี เช่นเขื่อนแม่กวง จ.เชียงใหม่ เขื่อนแม่วงก์ จ.นครสวรรค์ แต่ได้ข่าวว่าจะเอาไปอยู่ในระบบทีโออาร์ทั้งหมด ตนว่าอีก 5 ปีก็ไม่ได้ทำ เพราะฉะนั้นอย่าโยนไปที่ทีโออาร์ ควรให้กรมชลฯ ดำเนินการ ซึ่งทั้งหมดมี 7 รายการ

“ผมคิดว่าในปีนี้น้ำไม่ท่วมแน่นอน แต่ปีหน้าตอบไม่ได้ เพราะฉะนั้นโครงการที่ขอไปเป็นการป้องกันน้ำท่วมไปถึงปีหน้า แต่ถ้าระบบน้ำทั่วประเทศอีกนาน ต้องทำทีโออาร์ ตรงนี้ก็ต้องขอบคุณที่รับปากว่าจะเร่งรัดให้ เพราะงบปี 55 ตั้งงบให้กรมชลฯ 4.5 หมื่นล้าน ปี 56 ต้อง 4.8 หมื่นล้าน แต่กลับเหลือ 3 หมื่นล้านบาทหายไป 1.3 หมื่นล้านบาท ผู้ใหญ่ในรัฐบาลบางคนก็บอกว่าอยู่ในเงินกู้เกรงว่าไม่มีใครเสนอไป กลายเป็นไปรวมกับระบบน้ำทั่วประเทศ กลัวว่าพวกนี้จะหายไป ถ้าหายไปผมไม่ยอมจะบอกให้ เพราะไปตัดออกจากงบประมาณ อยู่ที่ กบอ.ก็ต้องเร่งให้เป็นเรื่องสำคัญก่อนหลัง” นายบรรหารกล่าว

นายบรรหารกล่าวว่า การเมืองขณะนี้ไม่ใช่แก้กันง่ายๆ ไม่เหมือนที่ผ่านมา ในตำราพิชัยสงครามก็ไม่ได้เขียนว่าจะแก้อย่างไร อะไรก็แล้วแต่ตนว่าหากเราสามารถพูดจาคุยกันได้ เดินทางสายกลางหาข้อยุติได้ก็ยอมกันเสียบ้าง อย่าไปเข่นฆ่าให้อีกฝ่ายหนึ่งได้อาสัญมันถึงจะเดินหน้าไปได้ แต่ตอบไม่ถูกว่าอนาคตการเมืองจะเป็นอย่างไร แต่คิดว่าการเมืองน่าจะดีขึ้น ตนอยากให้จับมือกันทุกฝ่าย ซึ่งจะเกิดขึ้นได้หรือไม่ก็เป็นไปได้และไม่ได้

เมื่อถามว่าในฐานะผู้อาวุโสทางการเมืองจะเป็นโซ่ข้อกลางหรือไม่ นายบรรหารกล่าวว่า ให้ตนพ้น 5 ปีก่อน ตนเดินแน่ ตนบอกแล้วอายุเป็นแค่นามธรรม เมื่อถามว่าจะเป็นนายกฯ อีกรอบหรือไม่ นายบรรหารส่ายหน้าและกล่าวว่า ไม่เอาแล้ว เมื่อถามว่าพรรคขนาดกลาง ขนาดเล็กจะเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลได้หรือไม่ นายบรรหารกล่าวว่า เป็นไปไม่ได้ หลังเลือกตั้งพรรคที่ได้คะแนนอันดับหนึ่ง พรรคอันดับสองตั้งรัฐบาลก่อน