xs
xsm
sm
md
lg

“ปู” คิกออฟปราบโกงรอบสอง ดึงเอกชน ปชช.ร่วมมือลุยคอร์รัปชัน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


นายกฯ คิกออฟปราบทุจริตรอบสอง ดึงภาคเอกชน ประชาชนร่วมมือรัฐบาล ระบุต้องรวมพลังเรียกความเชื่อมั่นให้ประเทศไทยยืนได้อย่างสมศักดิ์ศรี เผยผลสำรวจปีนี้คะแนนคอร์รัปชันขึ้นขึ้นกว่าปี 54

ที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ วันนี้ (18 ส.ค.) น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในงานประกาศแนวทางการดำเนินการในระยะต่อไปของรัฐบาลในการต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชัน โดยมีคณะรัฐมนตรี (ครม.) ข้าราชการ ภาคเอกชน และประชาชน เข้าร่วมจำนวนมาก เช่น นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รองนายกรัฐมนตรี นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รมว.คมนาคม

น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวเปิดงานในตอนหนึ่งว่า จากการรายงานผลสำรวจประจำปีการคอร์รัปชันใน 14 เขตเศรษฐกิจทั่วเอเชีย ของ บริษัทที่ปรึกษาความเสี่ยงทางเศรษฐกิจและการเมือง หรือ PERC ได้ให้คะแนนประเทศไทย 6.57 ในปีนี้ ซึ่งดีกว่าปี 2554 ที่ไทยได้คะแนน 7.55 จึงถือได้ว่าแนวโน้มปัญหาทุจริตคอรัปชั่นในประเทศไทยดีขึ้น อย่างไรก็ตาม เราจำเป็นต้องร่วมมือและรวมพลังกันต่อไป เพราะปัญหาคอร์รัปชันถือเป็นปัญหาของทั้งประเทศ ไม่ใช่ของคนใดคนหนึ่ง หากหยุดยั้งปัญหานี้ได้ ก็จะสร้างความเชื่อมั่น และช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดีให้กับประเทศ และนักลงทุนต่างชาติที่ตัดสินใจจะเข้ามาลงทุนก็จะมีความเชื่อมั่นมากขึ้น

นายกรัฐมนตรีกล่าวอีกว่า รัฐบาลจึงได้ให้ความสำคัญและดำเนินการอย่างจริงจังกับนโยบายการปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชัน ให้เป็น 1 ใน 16 นโยบายเร่งด่วนที่ได้แถลงไว้ต่อรัฐสภา ซึ่งเมื่อวันที่ 18 พ.ค.ที่ผ่านมา ได้ดำเนินการไปแล้วในส่วนของภาครัฐในหลายโครงการ ซึ่งมีความคืบหน้าไปอย่างมาก เช่น โครงการ 1 กรม 1 ป้องกันโกง หรือการเปิดสายด่วน 1206 ให้แจ้งเบาะแสได้ตลอด 24 ชั่วโมง ลำดับถัดไปก็จะต้องเชื่อมต่อขยายความร่วมมือไปยังภาคเอกชน และภาคประชาชนให้มากขึ้น โดยการติดตั้งตู้รับเรื่องร้องเรียนทุจริตตามสถานที่สำคัญต่างๆ ที่ประชาชนสามารถเข้าถึงได้ง่ายทั้งใน กทม. และ 76 จังหวัดทั่วประเทศ เช่น ทำเนียบรัฐบาล ศาลากลางจังหวัด สถานีขนส่ง ท่าอากาศยาน ธนาคารกรุงไทย บริษัทแอดวานซ์อินโฟร์เซอร์วิส และห้างสรรพสินค้าในเครือเซ็นทรัล รวมทั้งเปิดเว็บซต์ www.stopcorruption.go.th และเปิดสื่อสังคมออนไลน์ ทั้งเครือข่ายเฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ โปรแกรมไลน์ เพื่อเป็นกลไกสำคัญในการป้องกันและปราบปรามทุจริตคอรัปชั่นแบบบูรณาการ

“รัฐบาลอยากเห็นภาคธุรกิจและภาคประชาชนลุกขึ้นมาทำงานร่วมกัน เพราะภาครัฐฝ่ายเดียวคงทำไม่สำเร็จ เราต้องช่วยกันทำเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้ประเทศชาติ สร้างภาพลักษณ์ที่ดีในระยะยาว เพื่อให้ประเทศมีความเชื่อมืน และยืนอยู่ได้อย่างสมศักดิ์ศรี” น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าว จากนั้นนายกรัฐมนตรี และ ครม.ได้ร่วมแปรอักษรคำว่า stop corruption ก่อนเขียนคำปฏิญาณลงบนกำแพงสีขาวว่าสร้างความเชื่อมั่นและภาพลักษณ์ที่ดีให้กับประเทศไทย ร่วมกันหยุดคอร์รัปชัน










กำลังโหลดความคิดเห็น