xs
xsm
sm
md
lg

“อนุทิน”ผงาดคุม “ภูมิใจไทย” “เนวิน”หนุน“สมศักดิ์”จ่อชิ่ง

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวการเมือง

อนุทิน ชาญวีรกูล
เป็นอันแน่ชัดแล้ว ช่วงปลายปีนี้ ปู่จิ้น- ชวรัตน์ ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยจะส่งต่อเก้าอี้หัวหน้าพรรคให้ลูกหนู-อนุทิน ชาญวีรกูล รับช่วงแทน

หลังจากที่ เนวิน ชิดชอบ หัวหน้าพรรคตัวจริงเรียกประชุมส.ส.ในกลุ่มร่วม 27 คนและกรรมการบริหารพรรคสายเนวินอีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งไม่มีส.ส.กลุ่มสมศักดิ์ เทพสุทินเข้าร่วมด้วย เมื่อ 7 สิงหาคม2555 ที่คฤหาสน์ของอนุทิน ในหมู่บ้านธนาซิตี้ ย่านบางนา -ตราด

ตามข่าวบอกว่า คืนวันนั้น เนวิน บอกกับส.ส.ในพรรคทั้งหมดว่ายังไม่ขอหวนคืนการเมืองช่วงนี้ แต่จะแบ็คอัพพรรคอยู่ข้างหลัง ในลักษณะที่ปรึกษาพรรค ไม่เอาแน่นอนเก้าอี้หัวหน้าพรรคอย่างที่พวกส.ส.เรียกร้องให้มารับตำแหน่ง ขอใช้เวลาทำเรื่องฟุตบอลเป็นหลัก แต่ก็ประกาศกลางวงกินข้าววันดังกล่าวว่า

หนุน อนุทิน น้องรัก ที่แม้จะไม่ได้เป็นส.ส.แต่ก็ไม่น่าจะมีปัญหา ในการดันให้ขึ้นมาเป็นหัวหน้าพรรคอย่างเป็นทางการ

เหล่านี้คือคำสั่งของเนวินที่บอกให้ลูกสมุนในกลุ่มได้รู้ว่า นับแต่นี้ อนุทิน จะเป็นแม่ทัพใหญ่ พรรคภูมิใจไทย

สิ่งที่ต้องติดตามก็คือ พรรคภูมิใจไทยจะเดินการเมืองแบบไหนและอย่างไร จะเล่นบทฝ่ายค้านแบบจับมือกับประชาธิปัตย์ทุกเรื่องหรือจะเล่นแบบแทงกั๊กเพื่อหวังว่าเมื่อเคลียร์กับทักษิณ ชินวัตรแล้ว ฟลุ๊คๆ ภูมิใจไทยได้มีโอกาสร่วมรัฐบาลบ้าง ทุกอย่างขึ้นอยู่กับการเดินของอนุทินเป็นหลัก ว่าเขาจะทำอย่างไร

ทั้งที่ความจริงแล้วที่ผ่านมาหนึ่งปี นับแต่ภูมิใจไทยเป็นฝ่ายค้าน จะว่าไปแล้ว คนที่บริหารจัดการเรื่องภายในพรรคเช่นการเงินการทองของส.ส.ในพรรค รวมถึงแม้แต่การพยายามขอเคลียร์กับแกนนำพรรคเพื่อไทยหลายกลุ่ม ก็มีข่าวมาตลอดว่าอนุทินรับหน้าเสื่อทั้งหมด

ด้วยเหตุนี้ “ทีมข่าวการเมือง”จึงมองว่าการที่อนุทิน จะขึ้นมาเป็นหัวหน้าพรรคภูมิใจไทยอย่างเป็นทางการในช่วงปลายปีนี้หรือจะในเวลานี้ แท้ที่จริงแล้ว ไม่ได้ต่างกันเลย เพราะช่วงที่ผ่านมา อนุทิน ก็เล่นบทผู้จัดการพรรคและตัวเดินให้เนวินในนามพรรคภูมิใจไทยมาตลอด

เพียงแต่เมื่อออกมาแบบนี้ อนุทินรับบทหัวหน้าพรรคเต็มตัวก็จะทำให้การเคลื่อนไหวทุกท่วงท่าของอนุทิน มีน้ำหนักมากยิ่งขึ้น

หากให้”ทีมข่าวการเมือง”ประเมินก็เชื่อว่า ต่อให้อนุทินรับตำแหน่งหัวหน้าพรรคอย่างเป็นทางการแล้วคิดว่าจะทำให้การพยายามขอคืนดีกับทักษิณ ชินวัตร ราบรื่นและเร็วมากขึ้นนั้น

บอกได้ว่า ยาก แม้ต่อให้ ทักษิณ ซึ่งอนุทินเรียกทั้งต่อหน้าและลับหลังมาตลอดว่า”นาย”จะยอมลืมเรื่องที่แล้วมา แต่แรงต้านในเพื่อไทยรุนแรงแน่นอน

ทุกกลุ่มก๊วนในเพื่อไทยจะพร้อมใจกันสามัคคี ออกมารุมกระทืบภูมิใจไทยตั้งแต่คิดเริ่มจะขยับเปิดสัมพันธ์ใหม่กับเพื่อไทย โดยเฉพาะสาย “ชินวัตร-ดามาพงศ์”ไม่มีทางผูกไมตรีกับอนุทินและภูมิใจไทยแน่นอน

อย่างไรก็ดี แรงต้านดังกล่าวจะเกิดขึ้นกับเฉพาะภูมิใจไทยสายเนวิน-อนุทินเท่านั้น แต่กับพวกภูมิใจไทยสายมัชฌิมาของสมศักดิ์ เทพสุทินที่มีส.ส.ในก๊วน 7 คนรวมถึงเจ๊วา พรทิวา นาคาสัย เลขาธิการพรรคด้วย สายนี้ไม่มีปัญหา เชื่อได้ว่าสัญญาใจระหว่างทักษิณ-เจ๊แดง เยาวภา วงศ์สวัสดิ์กับกลุ่มสมศักดิ์ในการจับมือร่วมกันทุกอย่างยังคงอยู่

โดยเฉพาะข้อตกลงเคลียร์ทางให้กลุ่มสมศักดิ์กลับเข้าเพื่อไทย

ข้อตกลงนี้น่าจะเห็นชัดอีกครั้งในช่วงการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจของประชาธิปัตย์ ที่ก็ไม่ชัวร์ว่าภูมิใจไทยจะร่วมอภิปรายด้วยหรือไม่ แต่ตอนลงคะแนนเสียงไว้วางใจ-ไม่ไว้วางใจ รับรองได้ว่าเสียงส.ส.ฝ่ายค้านไม่ครบแน่นอน

ครั้นจะถึงขั้นมีส.ส.ในกลุ่มสมศักดิ์ไปกดปุ่มไว้วางใจให้รัฐบาลโดยเฉพาะตัวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีด้วยหรือไม่ บางคนบอกว่าอาจมีให้เห็นหรืออย่างน้อยต้องมีการ “งดออกเสียง”ขึ้นกับฝั่งส.ส.กลุ่มสมศักดิ์แน่นอน เชื่อขนมกินได้

ยิ่งเมื่อมีคนเห็นส.ส.มัชฌิมาฯดังกล่าวหลายคนไปปรากฏตัวในงานเลี้ยงวันเกิดทักษิณ ชินวัตรที่ฮ่องกงเมื่อ 26 กรกฏาคม 2555 ทุกอย่างก็ชัดแล้วว่า แม้ตัวและชื่ออยู่ภูมิใจไทย แต่ใจและเสียงกดปุ่มในห้องประชุมสภาฯอยู่กับทักษิณและเพื่อไทยตลอดเวลา

ต้องดูกันต่อไปว่า ช่วงหลังปิดประชุมสภาฯ ปลายปี เมื่อชวรัตน์ โอนเก้าอี้หัวหน้าพรรคให้อนุทินแล้ว ทิศทางพรรคภูมิใจไทยจะมีอะไรเปลี่ยนแปลงไปหรือไม่

กระนั้นให้ “ทีมข่าวการเมือง”วิเคราะห์ก็เชื่อว่าคงไม่มีอะไรให้ตื่นเต้นมากนัก ความห่อเหี่ยวของภูมิใจไทยในช่วงหนึ่งปีที่ผ่านมา หลังต้องแปรสภาพจากพรรคที่คุมกระทรวงคมนาคม-มหาดไทย-พาณิชย์ ในรัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่แสนจะใหญ่โตมาเป็นพรรคร่วมฝ่ายค้านซึ่งเหี่ยวเฉา ส.ส.อยู่กันแบบเซ็ง ๆ ไร้จุดหมายอยู่กันแบบตายซาก

ส.ส.ภูมิใจไทยหลายคนโดยเฉพาะพวกอดีตรัฐมนตรี รับสภาพการเป็นฝายค้านไม่ได้จากที่เคยเป็นระดับเสนาบดีใหญ่ มีแต่คนล้อมหน้าล้อมหลังมาสองปีแปดเดือนพอเป็นฝ่ายค้านหมดสิ้นทุกอย่าง จนมีข่าวว่าแกนนำพรรคหลายคนแทบไม่เคยเข้าประชุมพรรคเลยเพราะยังทำใจไม่ได้ ก็เชื่อว่าสภาพแบบนี้ของส.ส.และแกนนำพรรคยังคงเป็นอยู่ระยะหนึ่งต่อไปแม้ต่อให้อนุทินเข้ามาเป็นหัวหน้าพรรค

ทว่าระยะยาวก็ต้องดูฝีมือและกลยุทธ์ของอนุทินและเนวินว่าจะทำอย่างไรให้ภูมิใจไทยกลับมาคึกคักอีกรอบหรือจะไม่ทำอะไรเพราะจ้องนับวันรอวันปิดฉากพรรคเพราะรู้ดีว่าภูมิใจไทยหมดอายุการเมืองแล้วเดินต่อไปไม่ไหว

กระนั้น “ทีมข่าวการเมือง”เชื่อว่าการเมืองอย่าด้านเดียว ทุกอย่างมีอะไรพลิกผันเปลี่ยนแปลงได้ ไม่แน่ ความเฉาของภูมิใจไทยยามนี้วันข้างหน้าอาจมีเหตุอะไรเข้ามาทำให้ภูมิใจไทยกลับมาคึกคักอีกครั้งก็ได้

การบ้านของภูมิใจไทย ทั้งเนวิน-อนุทินที่ต้องคิดหนักตอนนี้ มันต้องคิดแล้วว่า ยามเมื่ออนาคตยังไม่รู้ว่าการเมืองจะมีอะไรเกิดขึ้น สิ่งที่ภูมิใจไทยต้องทำเฉพาะหน้าตอนนี้ก็คือ แก้ปัญหาเรื่องความไร้ประสิทธิภาพของส.ส.ในพรรคซึ่งมีจริงๆ ในกลุ่มประมาณ 27 คนให้ดีขึ้นก่อนจะดีกว่า

เหตุเพราะตอนนี้ทุกคนเห็นเหมือนกันหมดว่า ส.ส.ภูมิใจไทย 30 กว่าคน มีคนที่พอจะเป็นตัวหลักในสภาฯ ทำหน้าที่อภิปรายกฎหมายสำคัญหรือเสนอความเห็นในห้องประชุมสภาฯให้คนพอยังจดจำชื่อภูมิใจไทยได้ ก็พบว่ามีแต่ศุกชัย ใจสมุทร โฆษกพรรคคนเดียวที่พอทำหน้าที่นี้ได้ นอกนั้นแทบไม่เคยมีใครในพรรคทำหน้าที่ส.ส.ในสภาฯ ได้เลย

จะทำพรรคต่อหรือเลิก ค่อยไปคิดในอนาคต แต่ทำให้พรรคดูมีศักดิ์ศรีมากกว่านี้หน่อยได้ไหม ยังไงก็พรรคอันดับ 3 อย่าให้เสียราคาพรรค แล้วค่อยคิดไกลไปอีกว่าจะกลับมามีอำนาจรัฐได้เมื่อไหร่

เว้นแต่ถ้าคิดกันเองว่า พรรคไม่มีราคาอะไรอยู่แล้ว เพราะเป็นพรรคเฉพาะกิจ ตั้งขึ้นมาเพื่อเซ็งลี้นักเลือกตั้งให้มาอยู่ในคอกไว้เอาตัวเลขส.ส.ในกำมือไปเร่ขอเก้าอี้รัฐมนตรี ถ้าเนวิน-อนุทิน คิดและทำเช่นนี้ ก็ไม่ต้องพูดกัน เป็นอันเข้าใจ

ส่วนที่บางฝ่ายสงสัยกันว่า ใจจริงแล้ว อนุทินอยากเป็นหัวหน้าพรรคภูมิใจไทยหรือไม่ หรือยังแหยงๆ หากต้องนั่งเป็นกรรมการบริหารพรรค เพราะเพิ่งจะพ้นโทษแบนคดียุบพรรคไทยรักไทยมาเมื่อช่วงเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาเอง

ประเด็นนี้ไม่มีปัญหา อนุทิน ไม่มีลังเล เอาแน่ อย่าลืมว่ายังไง ภูมิใจไทยก็พรรคการเมืองที่มีส.ส.มากเป็นอันดับสามของสภาผู้แทนราษฎร เป็นรองจากเพื่อไทยและประชาธิปัตย์

ต้องรู้กันไว้ว่า นักการเมือง การได้เป็นหัวหน้าพรรคสักครั้งในชีวิต ถือเป็นเครดิตที่ใครก็อยากมีไว้

ไม่งั้น อนุทิน จะเดินปรี่เปิดตัวเข้าร่วมประชุมส.ส.และกรรมการบริหารพรรคอย่างเป็นทางการเมื่อ 14 สิงหาคม 55 พร้อมกับแสดงตนต่อที่ประชุมว่าจะเข้ามาทำงานกับพรรคเต็มตัวแล้ว จนส.ส.ภูมิใจไทยสายเนวินทั้งหมดชักกระปรี้กระเปร่าขึ้นมาหน่อยหรอกหรือ ส่วนส.ส.กลุ่มสมศักดิ์ประมาณ 7 คนที่ไม่เข้าประชุมวันดังกล่าว ก็ถือว่าชัดแล้วว่า

ภูมิใจไทย หนึ่งพรรค แต่เดินสองขา

ขาหนึ่งกระสันอยากเป็นรัฐบาลและอยากกลับเพื่อไทยเต็มแก่ ส่วนอีกขา ใจจริงก็อยากเหมือนกัน แต่ยังไม่สบโอกาส
 เนวิน ชิดชอบ
สมศักดิ์ เทพสุทิน
กำลังโหลดความคิดเห็น