ภท.ยันพรรคยังไม่แตก โยน “เนวิน-อนุทิน-สมศักดิ์” ถกหาหัวหน้าใหม่

“ศุภชัย” ยันก๊วนเนวิน-สมศักดิ์ยังไม่แตกหัก เผยผู้ใหญ่ภูมิใจไทยคุยกันตลอด รับเสียงสภาไม่เป็นเอกภาพเหตุขาดประชุมร่วม จ่อนัดถกเพิ่มสร้างความเข้าใจกัน อ้าง “ห้อย” ติดถวายเทียนพรรษาทำเลิกประชุมพรุ่งนี้ พร้อมคุยดันแก๊ง 111 คืนสังเวียน โยน 3 ผู้นำปรึกษาหาข้อสรุป หน.ใหม่ ป้อง “ลูกปู่ชัย” บอกเวลาเปลี่ยนอาจคืนคำกลับเล่นการเมือง - หนุนทำประชามติแก้รัฐธรรมนูญ จี้ถอนปรองดองออกสภา

วันนี้ (30 ก.ค.) ที่รัฐสภา นายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ โฆษกพรรคภูมิใจไทย แถลงถึงกระแสข่าวความขัดแย้งของ ส.ส.ในพรรคระหว่างกลุ่มเพื่อนเนวิน 27 คน และกลุ่มมัชฌิมาจำนวน 7 คนว่า ยอมรับว่าตั้งแต่มีการก่อตั้งพรรคเป็นต้นมาก็มีการแบ่งเป็น 2 กลุ่มกันจริงภายหลังศาลรัฐธรรมนูญสั่งวินิจฉัยยุบพรรคพลังประชาชน และพรรคมัชฌิมาธิปไตย จนกระทั่งมารวมกันเป็นพรรคภูมิใจไทย โดยหลังการเลือกตั้งวันที่ 3 ก.ค. 54 ลักษณะของความเป็นกลุ่มก็ยังคงอยู่ แต่ยืนยันว่าความเป็นกลุ่มดังกล่าวไม่ได้ก่อให้เกิดความขัดแย้งถึงขั้นแตกหัก เพราะผู้ใหญ่ในพรรคได้มีการพูดคุยกันตลอด

นายศุภชัยกล่าวถึงปัญหาการลงมติในสภาที่ไม่เป็นเอกภาพว่า ที่ผ่านมายอมรับว่าการลงคะแนนไม่ตรงกันเพราะเกิดจากการขาดประชุมร่วมกันของพรรคประกอบกับสถานการณ์การเมืองมีความคลุมเครือ ตนยืนยันว่าหลังจากนี้จะมีการประชุมร่วมกันให้มากขึ้นเพื่อสร้างความเข้าใจร่วมกันที่ดีได้ ส่วนสาเหตุของการยกเลิกประชุมพรรคในวันที่ 31 ก.ค.ออกไปก่อนไม่ได้เกิดจากความขัดแย้ง แต่เป็นเพราะผู้ใหญ่ในพรรคอย่างนายเนวิน ชิดชอบ ติดภารกิจถวายเทียนพรรษาที่ จ.บุรีรัมย์ เช่นเดียวกับ ส.ส.จำนวนมากที่ติดภารกิจในวันอาสาฬหบูชาและวันเข้าพรรษาเช่นกัน

เมื่อถามว่า ถึงเวลาสมาชิกบ้านเลขที่ 111 จะต้องกลับมารับตำแหน่งในพรรคแล้วหรือยัง นายศุภชัยกล่าวว่า เป็นวาระที่ต้องมาคุยกันแล้วเพราะสมาชิกบ้านเลขที่ 111 ของพรรคมีจำนวน 10 คน ดังนั้น การขับเคลื่อนพรรคในทิศทางใดต้องมีความชัดเจน และนายชวรัตน์ ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคก็ได้มีดำริแล้วว่าอยากจะทำหน้าที่เฉพาะที่ปรึกษาและ ส.ส.ในสภามากกว่าการเป็นหัวหน้าพรรค ส่วนจะต้องมีการเปลี่ยนหัวหน้าพรรคหรือไม่นั้น นายชวรัตน์แสดงเจตนารมณ์ว่าต้องการถอนตัว จึงเป็นหน้าที่ของนายเนวิน นายอนุทิน ชาญวีรกูล และนายสมศักดิ์ เทพสุทิน ต้องมาหารือให้ได้ข้อยุติและทำงานร่วมกันเพื่อให้พรรคเกิดความเข้มแข็ง

เมื่อถามต่อว่า ก่อนหน้านี้นายเนวินเคยประกาศแล้วว่าจะไม่เล่นการเมือง นายศุภชัยกล่าวว่า เงื่อนไขและเงื่อนเวลาเป็นปัจจัยสำคัญที่เปลี่ยนแปลงว่าจะเล่นหรือไม่เล่นการเมือง ซึ่งในวันนี้สังคมคาดหวังว่านายเนวินซึ่งมีบทบาทสำคัญทางการเมืองเมื่อบอกว่าจะวางมือทางการเมืองก็ทำให้เราเสียบุคคลากรที่มีคุณค่า ดังนั้น เมื่อเงื่อนเวลาเปลี่ยนแปลงไปก็ต้องกลับมาคิดใหม่ว่าจะยอมกลับมาทำงานเพื่อบ้านเมืองหรือไม่

โฆษกพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ยังแถลงถึงท่าทีของพรรคในการแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า เมื่อศาลรัฐธรรมนูญได้มีคำวินิจฉัยออกมาแล้วถ้าต้องการให้บ้านเมืองเดินไปได้ก็ไม่ควรแก้ไขรัฐธรรมนูญในขณะนี้เนื่องจากปัญหาบ้านเมืองสำคัญกว่าไม่ว่าจะเป็นปัญหาราคาสินค้า ปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ อย่างไรก็ตาม พรรคไม่ได้ขัดขวางการแก้ไขรัฐธรรมนูญแต่อยากเห็นการทำประชามติจากประชาชนก่อนโดยการแก้ไขจะต้องไม่แตะต้องหมวดพระมหากษัตริย์ และไปกระทบต่ออำนาจของตุลาการศาล และองค์กรอิสระ

นายศุภชัยกล่าวต่อว่า สำหรับร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยความปรองดองแห่งชาติ เห็นว่าควรถอนร่างกฎหมายออกไปก่อนเพราะสถานการณ์บ้านเมืองวันนี้ไม่เหมาะสมที่จะเดินหน้าต่อไป ซึ่งเห็นด้วยกับท่าทีของนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานสภาผู้แทนราษฎรให้ชะลอร่างกฎหมายออกไปก่อน แต่ทางที่ดีสุด คือ สภาฯควรถอนร่างกฎหมายออกจากสภาฯ ไปทั้ง 4 ฉบับ