รองประธานสภาฯ เผยประชุมชำแหละ พ.ร.บ.งบประมาณ ให้ประธานที่ประชุมคุมอภิปรายนอกประเด็น ส่วนตัวเลข ส.ส.เสนอแปรญัตติรวม 193 คน ด้านพรรคเพื่อไทยกำชับ ส.ส.ห้ามขาดประชุม ยันไม่ประท้วงพร่ำเพรื่อ และไม่ต้องใช้องครักษ์พิทักษ์นายกฯ-รมต. ส่วนพรรคภูมิใจไทยไม่หนุนร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ วาระ 2 และ 3 แน่ เหตุ “เด็กเจ๊แดง” ส่งคนมาคุมเกลี่ยงบฯ ลงพื้นที่ตัวเอง
วันนี้ (14 ส.ค.) ที่รัฐสภา นายเจริญ จรรย์โกมล รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 กล่าวถึงการประชุมสภาผู้แทนราษฎรนัดพิเศษ เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2556 จำนวน 2.4 ล้านล้านบาท ซึ่งกรรมาธิการวิสามัญฯ พิจารณาแล้วเสร็จในวาระที่ 2 ในวันที่ 15 ส.ค.ว่า ขั้นตอนการพิจารณาจะพิจารณาเป็นรายมาตรา ซึ่งจะเปิดโอกาสให้สมาชิกสภาฯ ที่เสนอคำแปรญัตติ ซักถามกรรมาธิการถึงการปรับลด เปลี่ยนแปลงรายละเอียดของร่าง พ.ร.บ.งบฯ 56 และให้กรรมาธิการวิสามัญฯ ชี้แจงถึงเหตุผล
ส่วนประเด็นที่กังวลว่าจะมีการอภิปรายนอกประเด็นนั้น ขณะนี้ได้มีการประสานไปยังประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล และพรรคร่วมฝ่ายค้านไปหารือร่วมกันถึงกระบวนการ ขั้นตอนการพิจารณา ส่วนใครที่มีการอภิปรายนอกประเด็นนั้น ประธานในที่ประชุมจะเป็นผู้ดูแลและกำกับการประชุม ส่วนกรณีที่ได้มีการหารือเพื่อกำหนดกรอบเวลาการอภิปราย คนละ 10 นาทีนั้น ล่าสุดนั้นอาจมีการอภิปรายที่เกินกว่าเวลาจำนวนดังกล่าวได้ ขึ้นอยู่กับเหตุผลการนำเสนอ และอภิปราย ส่วนในวันแรกของการประชุมจะพิจารณาถึงมาตราใดนั้น ยังไม่ได้กำหนด เพราะต้อรอดูบรรยากาศการประชุม
มีรายงานว่า ขณะนี้มีจำนวน ส.ส.เสนอแปรญัตติรวมทั้งสิ้น 193 คน แบ่งเป็น พรรคประชาธิปัตย์ จำนวน 112 คน, พรรคเพื่อไทย 66 คน, พรรคภูมิใจไทย 12 คน, พรรครักประเทศไทย 2คน และ พรรรคชาติไทยพัฒนา 1 คน
ด้านพรรคเพื่อไทย นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะโฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงว่า พรรคเพื่อไทยได้พิจารณาเรื่องการเตรียมความพร้อมร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายปี 2556 ซึ่งที่ประชุมขอให้สมาชิกเตรียมความพร้อมและไปร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียงระหว่างวันที่ 15-17 ส.ค. และขอให้รัฐมนตรีที่เป็น ส.ส.ไปร่วมเป็นองค์ประชุมด้วย แม้ไม่สามารถร่วมลงมติได้ แต่ขอให้ไปนั่งประชุมด้วย เพื่อให้องค์ประชุมครบ หากมีการอภิปรายพาดพิง ก็ไม่จำเป็นต้องมีองครักษ์พิทักษ์นายกรัฐมนตรี หรือรัฐมนตรี เพราะคนชี้แจงตอบคำถาม คือ กรรมาธิการงบประมาณยืนยันจะเปิดโอกาสให้ฝ่ายค้านทำหน้าที่อย่างเต็มที่ แต่ถ้ามีการพาดพิงจนเสียหายก็อาจมีการชี้แจงบ้าง แต่ต้องอยู่ภายใต้ความเหมาะสม ไม่มีการประท้วงพร่ำเพรื่อ
ทั้งนี้ หากฝ่ายค้านนำเรื่องการทุจริตมาพูดในเวทีอภิปรายงบประมาณ ฝ่ายบริหารก็พร้อมจะชี้แจง เพราะที่ผ่านมารัฐบาลทำงานมา 1 ปี ไม่มีเรื่องทุจริต มีแต่การกล่าวหาลอยๆ อย่างไรก็ตาม อยากให้นำเรื่องการทุจริตไปพูดในเวทีการอภิปรายไม่ไว้วางใจมากกว่า ส่วนการชี้แจงผลงานรัฐบาลครบ 1 ปีนั้น จะมีการแถลงในเดือน ก.ย. แต่ในวันที่ 25-26 ส.ค. พรรคเพื่อไทยจะเรียกประชุม ส.ส.เพื่อซักซ้อมทำความเข้าใจเรื่องผลงานรัฐบาล และให้ ส.ส.นำผลงานไปแจ้งต่อประชาชน
ส่วนพรรคภูมิใจไทย นายศุภชัย ใจสมุทร โฆษกพรรคภูมิใจไทย แถลงภายหลังการประชุมพรรคประจำสัปดาห์ว่า ที่ประชุมมีมติไม่สนับสนุนร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ ในวาระ 2 และ 3 เนื่องจากทางพรรคเห็นว่าการฝ่ายรัฐบาลทำหน้าที่พิจารณาในชั้นกรรมาธิการงบประมาณเป็นไปอย่างความหละหลวม มีการชี้นำและครอบงำโดยรัฐมนตรีกระทรวงหนึ่ง ซึ่งใกล้ชิดแกนนำพรรคเพื่อไทยที่อยู่ทางภาคเหนือ พยายามผันเงินงบประมาณไปลงในกระทรวงและพื้นที่ของตัวเอง
นายศุภชัยกล่าวต่อว่า ขณะที่นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง ซึ่งเป็นประธาน กมธ.โดยตำแหน่ง ก็ไม่มีบทบาทเข้ามาบริหาร และจัดสรรงบประมาณให้เป็นประโยชน์อย่างเต็มที่ อีกทั้งในรายหน่วยงานมีการปรับลดงบที่ไม่เหมาะสม ขณะที่คณะอนุฯ กมธ.ที่ตั้งขึ้นก็ทำงานไม่เต็มที่ ตรงนี้ถือเป็นเหตุผลที่พรรคภูมิใจไทยไม่รับร่างดังกล่าว แม้วันนี้ 7 ส.ส.กลุ่มมัชฌิมาจะไม่เข้าร่วมประชุมแต่มติดังกล่าวถือเป็นมติพรรค ที่ ส.ส.ทั้ง 34 คนต้องปฏิบัติตาม
ผู้สื่อข่าวถามว่าหาก ส.ส.มัชฌิมา 7 คน ไม่ปฏิบัติตามมติพรรค จะมีบทลงโทษอะไรหรือไม่ นายศุภชัยกล่าวว่า ยังระบุไม่ได้ เพราะยังไม่ถึงเวลา แต่เพื่อเป็นการรักษาพรรคก็ควรลงมติเหมือนกัน อย่างไรก็ตาม หากพบว่ามีใครไม่ทำตามมติพรรคก็ต้องมีการไปพูดคุยกันในระดับผู้ใหญ่
รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับรัฐมนตรีที่เข้าไปครองงำ กมธ.งบประมาณปี 2556 คือ นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รมว.พาณิชย์ ซึ่งเป็นคนใกล้ชิดกับ นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ น้องสาว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี
