ส.ส.กระบี่ ประชาธิปัตย์ อภิปรายงบสำนักนายกฯ แฉจัดลงแพร่ถึง 1.3 พันล้าน แถมใช้แผนลับซ้อนลับ “วรวัจน์” แจงรัฐเห็นเป็นจังหวัดต้นน้ำ ต้องขุดคลองให้ลึกตามสภาพ ยันซื้อเครื่องจักรเป็นประโยชน์ระยะยาว ชี้แถบลุ่มน้ำยมก็ได้เพียบไม่เกี่ยวกับคนในตระกูล
วันนี้ (16 ส.ค.) ที่รัฐสภา การพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2556 ในมาตรา 5 ในส่วนงบประมาณของสำนักนายกรัฐมนตรีจำนวน 2.5 หมื่นล้านบาท โดย ส.ส.ฝ่ายค้านได้พุ่งเป้าไปที่การจัดสรรงบประมาณลงพื้นที่ของนายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ใน จ.แพร่มากผิดปกติ
นายพิเชษฐ พันธุ์วิชาติกุล ส.ส.กระบี่ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า จากการตรวจสอบใน กมธ.พบว่ามีการจัดงบประมาณลง จ.แพร่ ถึง 1.3 พันล้านบาท โดยเป็นงบลงทุนทั้งหมด และเอกสารสำนักงานงบประมาณระบุว่ามีโครงการลงไปยังองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) แพร่ 306 ล้านบาท เป็นรายการเครื่องจักรกลขุดดินและยานพาหนะ ซึ่งเป็นงบประมาณที่มากผิดปกติ และยังมีหลายจังหวัดจัดงบป้องกันน้ำท่วม การตั้งงบประมาณลักษณะนี้ถ้าเกิดคอมมิชชัน 20 เปอร์เซ็นต์ จะเป็นเงินหลายร้อยล้านบาท โดยงบประมาณลักษณะนี้สามารถตั้งในจังหวัดไหนก็ตามกระบวนการของร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ แต่มีการเอาไปหลบไว้ที่งบกลางซึ่งเป็นอำนาจของนายกรัฐมนตรีในการเบิกใช้
“ยังมีการใส่ปกแดงประทับตราว่าลับที่สุด ใส่ปกน้ำเงินประทับว่าลับมาก ปกเขียวประทับว่าลับ กลายเป็นการทำลับซ้อนลับ เพื่อไม่ให้รู้ว่างบประมาณของประเทศไทยเป็นอย่างไร” นายพิเชษฐกล่าว
ด้าน นายวรวัจน์ชี้แจงว่า งบประมาณจำนวนดังกล่าวสืบเนื่องมาจาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ไปตรวจราชการในภาคเหนือและมีจังหวัดต่างๆ ไปขอรับการพิจารณา ซึ่งในส่วนของงบประมาณเครื่องจักรที่ลงไป จ.แพร่ เพราะรัฐบาลเห็นว่าเป็นจังหวัดต้นน้ำ และ ลักษณะการทำงานขุดลอกต้องทำให้ได้ลึกตามสภาพพื้นที่ โดยพื้นที่แพร่ส่วนใหญ่เป็นภูเขาจึงจำเป็นต้องได้เครื่องจักรเป็นเครื่องมือบริหารจัดการน้ำในแม่น้ำยม การใช้เครื่องจักรในระยะยาวเป็นประโยชน์มากกว่าจะตั้งงบประมาณเป็นรายโครงการ ไม่ใช่การซื้องบประมาณมาแจกตามที่กล่าวหา ทุกจังหวัดต้องการมีเครื่องจักรเพื่อป้องกันน้ำท่วมให้กับตัวเอง จ.แพร่มีน้ำท่วมถึง 5 ครั้งหนักกว่าทุกจังหวัด ถ้าบริหารจัดการน้ำในแพร่ในฐานะที่เป็นพื้นที่ต้นน้ำไม่ได้ปัญหาน้ำท่วมจะหนักแน่นอน
นายวรวัจน์กล่าวว่า จังหวัดในลุ่มแม่น้ำยมไม่ได้มีเพียง จ.แพร่ ได้งบประมาณเพียงจังหวัดเดียว เช่น สุโขทัย 1.1 พันล้านบาท, พิษณุโลก 1.6 พันล้านบาท, พิจิตร 2.8 พันล้านบาท, กำแพงเพชร 1.8 พันล้านบาท เป็นต้น หรือแม้แต่ กทม.ก็ได้ 1.4 หมื่นล้านบาท, ขอนแก่น 1.8 พันล้านบาท, ฉะเชิงเทรา 1.5 พันล้านบาท, ชัยนาท 1.2 พันล้านบาท, เชียงใหม่ 1.5 พันล้านบาท, ตาก 1.2 พันล้านบาท, นครปฐม 3.8 พันล้านบาท, นครสวรรค์ 5.1 พันล้านบาท, นนทบุรี 4.3 พันล้านบาท, ปทุมธานี 8.7 พันล้านบาท, พระนครศรีอยุธยา 1.1 หมื่นล้านบาท, ลพบุรี 3.2 พันล้านบาท โดยงบประมาณทั้งหมดมาจากการขอโดยส่วนราชการแทบทั้งสิ้น และอบจ.แพร่ ไม่ใช่เป็นของคนนามสกุลเอื้ออภิญญกุลแต่อย่างใด
