xs
xsm
sm
md
lg

“พิเชษฐ” แฉ “ปู” สั่งห้ามตั้งอนุ กมธ.วิฯ งบปี 56 “วรวัจน์” โต้ไม่เคยพูด ยันผุด 4 คณะ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายพิเชษฐ พันธ์วิชาติกุล ส.ส.กระบี่ พรรคประชาธิปัตย์
อภิปรายงบปี 56 วันที่ 2 เริ่ม! ปธ.วิปค้านทวงเอกสารแก้น้ำท่วม-งบกลาง “วรวัจน์” ระบุส่งประธานสภาแล้ว “พิเชษฐ” จี้ “กิตติรัตน์” ฟังไม่ใช่แค่เซ็นชื่อแล้วกลับ หยันไม่เคยทำอะไรสำเร็จ จวกจอมประท้วงอย่าป่วน พร้อมแฉ รมต.สำนักนายกฯ พูด “ยิ่งลักษณ์” สั่งห้ามตั้งอนุ กมธ.วิฯ หวังให้ผ่านเร็ว ขู่เปิดคลิปโชว์ ลั่นบริหารจะล้วงลูกไม่ได้ เจ้าตัวโต้ ท้าสาบาน ลั่นไม่เคยพูด ยันพร้อมให้ตั้ง 4 คณะ

วันนี้ (16 ส.ค.) ที่รัฐสภา เมื่อเวลา 10.20 น. การประชุมสภาผู้แทนราษฎร โดยมีนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานสภาฯ ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม ซึ่งเป็นการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2556 ในวาระที่ 2 ต่อเนื่องมาจากเมื่อวาน (15 ส.ค.) ซึ่งที่ประชุมได้มีมติเห็นชอบตามกรรมาธิการเสียงข้างมากในมาตรา 1 ถึง มาตรา 4 เกี่ยวกับงบรวม 2,400,000,000,000 บาท และงบกลาง 319,207,000,000 บาท

 คลิกที่นี่ เพื่อฟังการโต้ตอบระหว่าง "นายพิเชษฐ์" และ "นายวรวัจน์"  

โดยก่อนเข้าสู่การพิจารณาในมาตรา 5 งบประมาณของสำนักนายกรัฐมนตรี จำนวน 25,381,665,500 บาท นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน)หารือในที่ประชุมว่า เมื่อคืนวันที่ 15 ส.ค.ก่อนจะปิดประชุมได้มีการตกลงกันไว้ว่าทันทีที่เปิดประชุมในวันนี้จะได้เอกสารรายละเอียดการใช้งบ 2 เรื่อง คือ งบแก้ปัญหาน้ำท่วม 1.2 แสนล้านบาทของรัฐบาล และกรณีการใช้จ่ายงบกลางกรณีใช้จ่ายฉุกเฉินหรือที่เรียกว่างบผี จำนวน 6.6 หมื่นล้านบาท ที่ใช้ไปแล้ว 3 หมื่นล้านบาทกว่า 100 โครงการ โดยรัฐมนตรีบอกจะนำเอกสารรายละเอียดในการใช้งบประมาณมาให้ จึงอยากขอความชัดเจนว่าสมาชิกจะได้เอกสารหรือไม่ รวมถึงพาสเวิร์ดเว็บไซต์ของสำนักนายกฯ ที่จะให้รายละเอียดในการใช้จ่ายงบประมาณของสำนักนายกฯ ถ้าไม่มีพาสเวิร์ดเราก็ไม่สามารถเข้าไปตรวจสอบการใช้งบประมาณได้

ด้าน นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล รมต.ประจำสำนักนายกฯ ชี้แจงว่า เอกสารที่ขอไว้ได้นำส่งให้ประธานสภาฯ แล้วคงจะอยู่ในชั้นกระบวนการอยู่ แต่สำนักนายกฯ ได้ให้ข้อมูลมาเป็นกรอบกว้างๆ แต่ก็รู้ว่าฝ่ายค้านต้องการดูในรายละเอียด ซึ่งหากต้องการอะไรเราจะดูแลให้ และจะจัดส่งให้ในภายหลัง ส่วนเรื่องพาสเวิร์ดนั้นเป็นระดับขั้นความลับที่สูงขึ้นไป ในระดับทั่วไปเปิดเข้าได้อยู่แล้ว แต่ตนไม่ทราบว่าท่านจะประสงค์ในชั้นความลับอะไร คงต้องคุยกันในรายละเอียดอีกที

ด้าน นายสมศักดิ์กล่าวว่า ขณะนี้เอกสารอยู่ที่ตนแล้ว และให้เลขาธิการสภาฯ ไปถ่ายเอกสารอยู่จะนำมาแจกให้สมาชิกต่อไป แต่นายจุรินทร์ ยังคงไม่ยอมเนื่องจากต้องการทราบพาสเวิร์ด เพื่อประโยชน์ในการตรวจสอบเงินแผ่นดิน เราแค่อยากทำหน้าที่อยากได้รับเอกสารแล้วก็ขออนุญาตตรวจสอบรายละเอียดว่าจะเพียงพอต่อการทำหน้าที่ตรวจสอบใช้จ่ายงบประมาณของรัฐบาลหรือไม่ ส่วนพาสเวิร์ดตนไม่ทราบว่ามีชั้นความลับกี่ชั้น แต่สำหรับคนที่เป็น ส.ส.มีหน้าที่ตรวจสอบใช้จ่ายงบแทนประชาชนควรจะรู้ความลับการทำงานของรัฐบาลในชั้นไหน พาสเวิร์ดตัวไหนที่พวกตนจะสามารถตรวจสอบการใช้เงินได้ก็ขอให้พิจารณาด้วย ทั้งนี้ อยากจะขอเอกสารและตรวจสอบรายละเอียดโครงการการใช้งบประมาณ ไม่ใช่กรอบกว้างๆ ซึ่งนายวรวัจน์ชี้แจงว่า ในรายละเอียดจะนำส่งให้อีกครั้งหนึ่ง เพราะข้อมูลต่างๆ มีการปรับเปลี่ยนอยู่ตลอดเวลา ซึ่งตนกำลังให้สำนักงบประมาณตรวจสอบข้อมูล แล้วจะทยอยจัดส่งให้

อย่างไรก็ตาม ก่อนเข้าสู่รายละเอียดในมาตรา 5 นายพิเชษฐ พันธ์วิชาติกุล ส.ส.กระบี่ พรรคประชาธิปัตย์ เรียกร้องให้นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลังมานั่งฟั่งการชี้แจงของตน เพราะที่ผ่านมาตลอดการประชุมของคณะกรรมาธิการ นายกิตติรัตน์ในฐานะประธานรรมาธิการฯ มาเซ็นชื่อแล้วไป มาร่วมนั่งประชุมเพียง 4 ครั้ง ไม่ได้ทำหน้าที่ประธาน ทุกอย่างมีมีบันทึกไว้หมด ตนต้องการให้มานั่งฟังด้วย เพราะเป็นผู้นำพาประเทศฝ่าวิกฤตโลก จะได้รู้ว่าต้องเป่าปี่ หรือจะสีซอ

นายวิชาญประท้วงว่า เป็นการพูดเสียดสี ส่วนนายวรวัจน์ชี้แจงว่ามาตรานี้เป็นเรื่องของสำนักนายกฯ ซึ่งตนมีหน้าที่ชี้แจงอยู่แล้ว

ด้าน นายพิเชษฐกล่าวว่า ตนจำเป็นต้องพูดถึงการประชุมในห้องกรรมาธิการฯ เพราะ มีคนพูดว่า การจัดสรรงบปีนี้เป็นการจัดแบบโม้ๆ โกง หลอกลวง เปรียบเหมือน พ.ร.บ.ข่มขู่ 3.5 แสนล้านบาท (พ.ร.บ.เงินกู้ฯ) ตนเคยเป็นคอลัมนิสต์ใช้ชื่อว่าพระอภัยมณีตีกลอง เพราะมีผีตาโบ๋ เอาปี่ไปเป่า ดังนั้นปี่ไม่เหลือ ในเมื่อตนเป็นพระอภัยมณีไม่มีปี่ ก็อยากจะสีซอให้ฟัง ซึ่งไม่รู้ว่าประธานคณะกรรมาธิการฯไปไหน อยากให้นายกิตติรัตน์อยู่ร่วมรับฟังด้วย ตนจะได้รู้ว่าต้องเป่าปี่หรือสีซอ ตนรู้ดีมีบางคนเคยทำงานในตลาดหลักทรัพย์ เป็นผู้จัดการทีมฟุตบอล แต่ทำอะไรไม่เคยประสบความสำเร็จ ทำให้ ส.ส.พรรคเพื่อไทยหลายคนลุกขึ้นประท้วง จนนายพิเชษฐยอมถอน แต่ยังคงพูดว่าอย่าขัดขวางการทำหน้าที่ตรวจสอบของฝ่ายค้าน และอย่าให้มีคนรับงานมา เข้ามาก่อความวุ่นวายในการประชุมนี้ ไม่เช่นนั้นตนและกรรมาธิการฯ ของพรรคอีก 16 คน ที่ได้สงวนความเห็นไว้จะอภิปรายทุกมาตรา รับรองว่าการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณเสร็จไม่ทันกำหนดแน่ เฉพาะตนคนเดียวก็อภิปรายได้มาตราละอย่างน้อย 2 ชั่วโมงแล้ว งบประมาณปีนี้ใช้เวลาพิจารณาประมาณกว่า 2 เดือน โดยก่อนจะมีการตั้งอนุกรรมาธิการ นายวรวัจน์ ได้เชิญตนไปหารือในห้องรับรองของนายเจริญ จรรย์โกมล รองประธานสภาคนที่1 โดยนายวรวัจน์บอกว่า นายกรัฐมนตรีมีบัญชาว่าห้ามตั้งอนุกรรมาธิการวิสามัญเพื่อให้การพิจารณาเป็นไปอย่างรวดเร็ว เรื่องนี้นายเจริญจะมายืนยันหรือไม่ โดยตนมีหลักฐานบันทึกไว้ในซัมซุง กาแล็คซี่ ด้วย

นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย ประท้วงให้ถอนคำพูดเพราะเอาชื่อนายกฯ มาอ้างเสียหายเพราะไม่รู้เรื่องด้วย เป็นการพูดกันระหว่างนายพิเชษฐกับนายวรวัจน์ แม้จะเอาเทปมาเปิดก็ตาม แต่ต้องเป็นลูกผู้ชายคุยกันส่วนตัว แล้วมาแฉแบบนี้ไม่ใช่ลูกผู้ชาย

ฝ่ายนายพิเชษฐกล่าวว่า ในห้องนี้มีฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้าน แต่เราทำหน้าที่ฝ่ายนิติบัญญัติ นายกฯ จะมีบัญชาใดๆ มาห้องนี้ไม่ได้ นั่นคือการก้าวล่วง จริงเท็จอย่างไร นายวรวัจน์ต้องชี้แจง จะให้เปิดคลิปดูกันก็ได้ และเมื่อตนอาละวาดไม่ยอมก็ผ่อนคลายจากที่มีอยู่ 8 คณะ ปีนี้ตั้ง4 คณะ จากทำงาน 2 เดือน ปีนี้อนุกรรมาธิการทำงานแค่ 1 เดือน มีการพิจารณาอย่างรวบๆ ไม่มีเวลาซักถามในห้องเลย จึงเป็นที่มาของงบโกง งบเหลว งบล้ม งบข่มขู่สารพัด ต้องไม่ปล่อยให้มารับรำไพ่ในห้องนี้ การมาหารำไพ่ในห้องนี้จะต้องไม่เกิดขึ้น

ด้าน นายสมศักดิ์ ได้พยายามตัดบทว่าควรเอาเหตุเอาผลมาคุยกัน และให้นายวรวัจน์ชี้แจงทันที โดยนายวรวัจน์ชี้แจงว่า ยืนยันว่าในวันนั้นมีนายพิษณุ หัตถสงเคราะห์ เป็นคนเชิญนายพิเชษฐ์ มาร่วมประชุม โดยมีตน นายปรีชา เร่งสมบูรณ์สุข และนายพิเชษฐร่วมหารือ ยืนยันว่าวันนั้นได้พูดถึงการตั้งอนุกรรมาธิการ 4 คณะชัดเจน และตนไม่เคยกล่าวว่านายกฯ สั่งการ หรือบัญชาการอย่างใด พร้อมจะให้ตนเดินไปสาบานที่ไหนก็ได้ เพราะมั่นใจว่าไม่เคยนำถ้อยคำดังกล่าวมาพูด โดยนายพิษณุ และนายปรีชา เป็นพยานยืนยันได้ ไม่ทราบว่านายพิเชษฐนำมาพูดแบบนี้เพราะต้องการอะไร

จากนั้นที่ประชุมได้ตัดเข้าสู่การพิจารณามาตรา 5 ทันที
กำลังโหลดความคิดเห็น