“นายกฯ ยิ่งลักษณ์” รับยังไม่มีแผนรองรับคำวินิจฉัยศาล รธน.คดีล้มล้างการปกครอง รอคำตัดสินก่อน หวังจะได้รับความเป็นธรรม พร้อมวิงวอนทุกภาคส่วน รวมทั้งก๊กแดงที่สนับสนุนรัฐบาล เคลื่อนไหวแสดงความคิดเห็นในขอบเขตกฎหมาย เพื่อให้เกิดความสงบ เพราะต้องรับมือกับเรื่องในประเทศ และปัญหาเศรษฐกิจโลก
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง "น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ให้สัมภาษณ์"
วันนี้(2 ก.ค.) น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขหรือไม่ในสัปดาห์นี้ว่า คงต้องแล้วแต่ดุลพินิจของศาลรัฐธรรมนูญ แต่เจตนารมณ์ของรัฐบาลเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นหนึ่งในนโยบายของรัฐบาลที่มีการชี้แจงต่อรัฐสภาอยู่แล้ว และทั้งหมดนี้ได้ผ่านขั้นตอนไปสู่รัฐสภา ดังนั้นขอให้รอผลจะดีกว่า
ผู้สื่อข่าวถามว่ารัฐบาลมีแผนสำรองเพื่อแก้ไขปัญหาหรือไม่หากมีปัญหา นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ยังต้องรอฟังผลคำวินิจฉัยออกมาก่อน เราไม่อยากไม่อยากก้าวล่วง เมื่อถามว่าบางคนห่วงว่ารัฐบาลจะไม่ได้รับความเป็นธรรมในเรื่องนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า หวังและเชื่อมั่นว่าผู้ตัดสินคงจะให้ความเป็นธรรมและพิจารณาจากข้อเท็จจริง
ต่อข้อถามว่า เป็นห่วงหรือไม่ว่าสถานการณ์การเมืองจะกลับมาร้อนแรงอีก เพราะเวลานี้มีกลุ่มต่างๆ ออกมาเคลื่อนไหวบนท้องถนน มีทั้งผู้สนับสนุนและคัดค้านรัฐบาล นายกฯ กล่าวว่า วันนี้อยากขอวิงวอนทุกภาคส่วน ข้อคิดเห็นที่แตกต่างสามารถทำได้ ภายใต้ขอบเขตสิทธิเสรีภาพและข้อกฎหมาย อย่างไรก็ตาม อยากให้แสดงออกทางความคิดเห็นให้เกิดความสงบและเกิดความเชื่อมั่น เพราะวันนี้ประเทศไทยไม่ใช่แค่จะต้องมาแก้ปัญหาในประเทศอย่างเดียว ต้องคอยรองรับปัญหาต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นกับเศรษฐกิจโลกด้วย ถ้าเราร่วมกันในการสร้างความเชื่อมั่นในการแสดงออกให้ประเทศชาติก้าวพ้นไปได้ อันนี้จะทำให้ประเทศของเราสามารถเดินต่อไปได้
ผู้สื่อข่าวถามว่า พรรคเพื่อไทยจะดูแลคนเสื้อแดง กลุ่มสนับสนุนของพรรคอย่างไรเพื่อไม่ให้ก่อความวุ่นวาย น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวย้ำว่า ต้องขอความร่วมมือจากทุกภาคส่วน การที่แสดงความคิดเห็นเราเคารพสิทธิ และความคิดเห็นทุกท่านถือเป็นสิ่งที่มีประโยชน์ที่เราจะได้รับฟัง แต่อย่างไรก็ตามขอให้อยู่ภายใต้กรอบของกฎหมายและการชุมนุมอะไรต่างๆ ขอให้เป็นไปโดยสงบ
ส่วนในฐานะที่เป็นนายกรัฐมนตรีจะวิงวอนฝ่ายการเมืองที่อยู่ในสภาทั้งหมดอย่างไรว่าอย่าขึ้นเวทีในช่วงนี้ เพราะเหมือนเป็นการปลุกระดม ทั้งเรื่องดีและไม่ดี และอาจทำให้เกิดความวุ่นวายได้ น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า ถ้าเป็นภายใต้ของการแสดงออกซึ่งความคิดเห็น ตามสิทธิเสรีภาพก็พึงกระทำได้ แต่ขอให้อยู่ภายใต้กรอบกฎหมาย ต้องเรียกว่าขอความร่วมมือกันมากกว่า และจริงๆ แล้วเชื่อว่าประชาชนอยากเห็นการชี้แจงในสิ่งที่จะทำอะไรให้เป็นประโยชน์ต่อประชาชนและสิ่งไหนที่เป็นทางออกให้แก่ประเทศ อันนี้น่าจะเป็นประโยชน์มากกว่าการที่จะมาโต้ปัญหากันในเรื่องความขัดแย้ง
ผู้สื่อข่าวถามว่า เวลานี้นายกฯห่วงและหนักใจเรื่องอะไร นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า เรื่องความเข้าใจมากกว่า ซึ่งเราต้องช่วยกัน และต้องได้รับความร่วมมือจากทุกๆ โดยมีการคุยกัน ชี้แจงกันในเรื่องประโยชน์ต่าง ๆ และทางออกของประเทศ ถ้าเราคุยกันแต่ปัญหาความขัดแย้ง สุดท้ายประเทศจะไม่มีทางออก ต้องให้ทุกอย่างก้าวผ่านไปให้ได้ วันนี้ทุกภาคส่วนต้องอดทนและช่วยกันประคับประคองบรรยากาศต่างๆ ให้เป็นบรรยากาศที่เป็นไปอย่างสงบ เพื่อให้ประเทศเดินหน้า เพราะวันนี้เราเดือดร้อนมาเยอะ ประชาชนเดือดร้อนมาเยอะ คงอยากจะร่วมกันทำอย่างไรให้ประเทศนั้นมีความสงบสุขร่วมกันพัฒนาคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน