เกาะกระแส
โดย...ก้อนกรวด
00 ถ้าซื้อหวยแม่นแบบนี้ก็ดี เพราะนึกอยู่แล้วเชียวว่าสาเหตุที่ “เหลี่ยมจัด” ทักษิณ ชินวัตรได้วีซ่าเข้าสหรัฐน่าจะมีเรื่องของการแลกเปลี่ยนผลประโยชน์เข้ามาเกี่ยวข้อง และในที่นี้ก็ยังเป็นเรื่องหลักเรื่องเดิมนั่นคือ ปมสงสัยเรื่อง “ธุรกิจพลังงาน” เพราะสื่อท้องถิ่นที่เป็นสื่อรายปักษ์ที่นั่นอย่าง Culture Map Houston ได้รายงานว่าเป็นการเดินทางมาเจรจาเรื่องธุรกิจดังกล่าว และในฐานะที่เป็นพี่ชายของนายกฯไทยคือ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ย่อมมีอิทธิพลต่อการแลกเปลี่ยนผลประโยชน์ของสหรัฐฯทั้งในเรื่องของการคานอำนาจในย่านนี้กับจีน และที่สำคัญมีเรื่องธุรกิจพลังงานทั้งในพม่า และกัมพูชาที่เป็นเขตทับซ้อนและไม่ทับซ้อนกับไทย
00 พิจารณากันด้วยผลประโยชน์ที่ ทักษิณ และสหรัฐได้รับคราวนี้หากมองด้วยสายตาภายนอกก็ต้องบอกว่า “วินวิน” ทั้งสองฝ่ายแรก ก็ย่อมดีใจยินดีปรีดาเพราะเมื่อใดก็ตามที่เขาสามารถเข้าสหรัฐได้แล้วนั่นย่อมนำไปคุยโม้สร้างภาพได้แล้วว่า “นี่ไงสหรัฐฯการันตี”ความถูกต้องให้แล้ว และที่สำคัญสามารถ “ตบหน้าศาลไทย” เข้าจังเบ้อเร่อ ต่อไปนี้ก็เดินทางไปได้ทุกประเทศ ขณะที่สหรัฐหากพิจารณาอย่างเข้าใจและรู้ซึ้งถึง “สันดาน” ก็ต้องบอกว่านี่แหละคือเจ้าตำหรับ “ทุนสามานย์” คืออะไรก็ได้ขอให้ตัวเองได้ประโยชน์ ประชาธิปไตยและสิทธิมนุษยชนเป็นแค่คำพูดและกฎเกณฑ์สกปรกที่ยกมาต่อรองกับบางประเทศเท่านั้น กับกรณีของ ทักษิณ ก็เหมือนกัน เมื่อทุกอย่างลงตัวได้ประโยชน์ในการใช้ไทยเป็นฐานไว้ต่อรองกับจีนและเปิดประตูผลประโยชน์ในประเทศเพื่อนบ้าน ต่างฝ่ายต่างแฮปปี้ มันก็เป็นแบบนี้แหละ
00 แม้ว่าถ้ามองในรายละเอียดอาจจะซับซ้อนบ้าง แต่ถ้าพิจารณาในภาพรวมเราก็จะเห็นการแลกเปลี่ยนต่อรองผลประโยชน์ส่วนตัวกันทำนองนี้แหละ อย่างไรก็ดีคงคาดไม่ถึงว่าจะถูกคนไทยในสหรัฐรวมพลังต่อต้านมากมายถึงเพียงนี้ และที่สำคัญเป็นการ “ประจาน” ออกไปทั่วโลก ซึ่งจะว่าไปแล้วก็ยังรวมไปถึงรัฐบาลสหรัฐอีกด้วยประเภท “มือถือสากปากถือศีล” ว่านี่คือลัทธิประชาธิปไตยเพื่อผลประโยชน์ของแท้
00 ที่สภาก็เป็นไปตามคาด เราก็ได้แค่ยินเสียงยืนยันจาก นายกฯ “ปูนิ่ม” ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ยืนยันว่าไม่โกง ไม่กิน มีวินัยการคลัง ขณะที่อีกด้านหนึ่งในความเป็นจริงที่น่าเจ็บปวดก็คือกลายเป็นว่ารัฐบาลชุดนี้ “ดีแก้กู้” สร้างหนี้สาธารณะ เพียงเพื่อรักษาฐานทางการเมืองถมลงไปในโครงการ “ประชานิยม”เท่านั้น ร่างงบประมาณจำนวน 2.4 ล้านล้านบาทที่นอกจากส่วนใหญ่เป็นรายจ่ายประจำแล้ว ที่เหลือก็แล้วแต่เป็น “งบการเมือง” ทั้งสิ้น สำหรับปชป.เที่ยวนี้มามาดใหม่ให้ กรณ์ จาติกวณิช อภิปรายนำ แล้วให้ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อภิปรายสรุปปิดท้าย ก็ดีเหมือนกันเป็นการดวลกันระหว่าง “สองขุนพล” เศรษฐกิจ ฝ่ายรัฐบาลมี กิตติรัตน์ ณ ระนอง ฝ่ายค้านก็มี กรณ์ นี่แหละ
00 การประชุมพิจารณาร่างงบประมาณทั้งเมื่อวานนี้และวันนี้ (16 ส.ค.) อาจจะเป็นเรื่องของวาระที่สอง-สามยังไม่ถึงช่วงลงมติ แต่ในฐานะผู้นำ ในฐานะนายกฯก็ต้องเข้าใจสถานภาพของตัวเองด้วยว่าต้องให้ความสำคัญมานั่งฟังให้มาก ไม่ใช่นั่งพอเป็นพิธีกลัวถูกซักถาม หรือต้องตอบคำถาม แต่ก็อย่างว่าเราจะเอานิยายอะไรกับคนๆนี้ เพราะเธอนั่งเป็นนายกฯไม่ปล่อยให้เก้าอี้ว่างเท่านั้น นายกฯตัวจริงกำลังหนีม็อบอยู่ที่สหรัฐฯโน่นแน่ะ เวรกรรม !!