00 เป็นไปตามคาดกับการพิจารณาร่างงบประมาณปี 26 จำนวนประมาณ 2.4 ล้านล้านบาท ในวาระ 2-3 ที่ว่าเป็นไปตามคาดก็คือ นายกฯ “ปูนิ่ม” ไม่เคยให้ความสำคัญเข้าร่วมประชุมอย่างตั้งใจ เพราะตามข่าวบอกว่า เธอทนนั่งฟังอยู่ในสภาเพียงแค่ 10 นาที ก็ลุกออกไป ไม่อยากใช้คำว่า “สะบัดก้น” ออกไป เดี๋ยวพวกบรรดา “องครักษ์” ท่านจะโกรธเอา และขี้เกียจให้พวกนี้โชว์ฝีปาก นำไปเป็นใบเสร็จเบิกจ่ายภายหลัง
00 จะบอกว่าไม่ให้ความสำคัญกับการประชุมสภาก็คงไม่ถูกนัก เพราะโดยปกติ ก็ไม่ค่อยกล้าเฉียดเข้าไปใกล้ ถ้าไม่จำเป็น บังคับจริงๆ ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะจะกลัวว่าต้องชี้แจงในที่ประชุม หรือตอบคำถามแบบสดๆ หรือแม้แต่การอ่านตามโพยก็เถอะ สำหรับเธอนั้นเป็นเรื่องยากพอสมควร หากพิจารณาย้อนกลับไปในเรื่อง เรือดันน้ำ หญ้าแพรก หรือแม้แต่จังหวัดหาดใหญ่ แล้วก็น่าเห็นใจ
00 แต่อีกมุมหนึ่งต้องใจแข็ง เห็นใจหรือยกเว้นกับเรื่องแบบนี้ไม่ได้ เพราะตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เป็นผู้นำประเทศต้องมีความสามารถ และสร้างประโยชน์ให้กับคนส่วนใหญ่ ไม่ใช่ตำแหน่งเฉพาะบุคคลที่สงวนเอาไว้สำหรับ “ลูกหลาน” เจ้าของบริษัทอย่างที่เกิดขึ้นในภาคเอกชน หากยังอ้างว่าการพิจารณางบประมาณเป็นเพียงวาระ 2 ยังไม่ถึงเวลาลงมติในวาระที่ 3 ก็อ้างได้ แต่ฟังไม่ขึ้น เพราะต้องรับฟังข้อท้วงติง จากฝ่ายค้าน เพื่อนำไปปรับปรุงแก้ไขในฐานะฝ่ายบริหาร ที่สำคัญนี่คือ “ประชาธิปไตย” ในระบบรัฐสภาที่มักชอบอ้างกันนักไม่ใช่หรือ
00 ในมุมของฝ่ายค้านบ้าง เที่ยวนี้ ปชป.ให้บทบาทนำกับ “กรณ์ จาติกวณิช” ส่วน อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ถอยไปสรุปปิดท้าย เนื่องจากต้องการเน้นในเรื่องความล้มเหลวในการบริหารเศรษฐกิจ การใช้งบประมาณเอื้อพวกพ้อง และทุจริตอย่างชัดเจนพุ่งเป้าไปที่นโยบายลดภาษีนิติบุคคล โครงการจำนำข้าว รถคันแรก การพักหนี้ดี ความหมายก็คือส่วนใหญ่เป็นการอุ้มคนที่เดินได้ดีอยู่แล้ว แต่คนจน ชาวนา กลับไม่ได้รับถึงมือ
00 เอาเป็นว่า การซักฟอกงบประมาณ ต่อเนื่องไปถึงการอภิปรายผลงานรัฐบาลครบ 1 ปี เป็นการซ้อมใหญ่ ก่อนถึงศึกซักฟอกเชือดชุดใหญ่ พูดถึงเรื่องอภิปรายไม่ไว้วางใจ เชื่อว่าจะสร้างความหนักอกหนักใจกับฝ่ายรัฐบาลแน่นอน โดยเฉพาะกับนายกฯยิ่งลักษณ์ เพราะเป็นการอภิปรายต่อเนื่องมาจากการซักฟอกผลงานรัฐบาลที่แม้ว่าจะไม่มีการลงมติ แต่ก็เป็นการ “นวด” ให้ช้ำ ให้เห็นภาพ ไม่รู้ว่าจะเอาผลงานอะไรมาแถลง เพราะมันล้มเหลวไม่เป็นชิ้นเป็นอันสักเรื่องเดียว และดูตามอาการและแนวโน้มแล้ว เรื่องจำนำข้าว ชายแดนใต้ นี่แหละเป็นเรื่องหลัก ให้ กิตติรัตน์ ณ ระนอง กับ พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง และ พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต เตรียมความพร้อมเสียแต่เนิ่นๆ อย่ามัวแต่เสียเวลาคุ้ยเรื่องหนีทหารอย่างเดียวล่ะ !!
00 จะบอกว่าไม่ให้ความสำคัญกับการประชุมสภาก็คงไม่ถูกนัก เพราะโดยปกติ ก็ไม่ค่อยกล้าเฉียดเข้าไปใกล้ ถ้าไม่จำเป็น บังคับจริงๆ ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะจะกลัวว่าต้องชี้แจงในที่ประชุม หรือตอบคำถามแบบสดๆ หรือแม้แต่การอ่านตามโพยก็เถอะ สำหรับเธอนั้นเป็นเรื่องยากพอสมควร หากพิจารณาย้อนกลับไปในเรื่อง เรือดันน้ำ หญ้าแพรก หรือแม้แต่จังหวัดหาดใหญ่ แล้วก็น่าเห็นใจ
00 แต่อีกมุมหนึ่งต้องใจแข็ง เห็นใจหรือยกเว้นกับเรื่องแบบนี้ไม่ได้ เพราะตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เป็นผู้นำประเทศต้องมีความสามารถ และสร้างประโยชน์ให้กับคนส่วนใหญ่ ไม่ใช่ตำแหน่งเฉพาะบุคคลที่สงวนเอาไว้สำหรับ “ลูกหลาน” เจ้าของบริษัทอย่างที่เกิดขึ้นในภาคเอกชน หากยังอ้างว่าการพิจารณางบประมาณเป็นเพียงวาระ 2 ยังไม่ถึงเวลาลงมติในวาระที่ 3 ก็อ้างได้ แต่ฟังไม่ขึ้น เพราะต้องรับฟังข้อท้วงติง จากฝ่ายค้าน เพื่อนำไปปรับปรุงแก้ไขในฐานะฝ่ายบริหาร ที่สำคัญนี่คือ “ประชาธิปไตย” ในระบบรัฐสภาที่มักชอบอ้างกันนักไม่ใช่หรือ
00 ในมุมของฝ่ายค้านบ้าง เที่ยวนี้ ปชป.ให้บทบาทนำกับ “กรณ์ จาติกวณิช” ส่วน อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ถอยไปสรุปปิดท้าย เนื่องจากต้องการเน้นในเรื่องความล้มเหลวในการบริหารเศรษฐกิจ การใช้งบประมาณเอื้อพวกพ้อง และทุจริตอย่างชัดเจนพุ่งเป้าไปที่นโยบายลดภาษีนิติบุคคล โครงการจำนำข้าว รถคันแรก การพักหนี้ดี ความหมายก็คือส่วนใหญ่เป็นการอุ้มคนที่เดินได้ดีอยู่แล้ว แต่คนจน ชาวนา กลับไม่ได้รับถึงมือ
00 เอาเป็นว่า การซักฟอกงบประมาณ ต่อเนื่องไปถึงการอภิปรายผลงานรัฐบาลครบ 1 ปี เป็นการซ้อมใหญ่ ก่อนถึงศึกซักฟอกเชือดชุดใหญ่ พูดถึงเรื่องอภิปรายไม่ไว้วางใจ เชื่อว่าจะสร้างความหนักอกหนักใจกับฝ่ายรัฐบาลแน่นอน โดยเฉพาะกับนายกฯยิ่งลักษณ์ เพราะเป็นการอภิปรายต่อเนื่องมาจากการซักฟอกผลงานรัฐบาลที่แม้ว่าจะไม่มีการลงมติ แต่ก็เป็นการ “นวด” ให้ช้ำ ให้เห็นภาพ ไม่รู้ว่าจะเอาผลงานอะไรมาแถลง เพราะมันล้มเหลวไม่เป็นชิ้นเป็นอันสักเรื่องเดียว และดูตามอาการและแนวโน้มแล้ว เรื่องจำนำข้าว ชายแดนใต้ นี่แหละเป็นเรื่องหลัก ให้ กิตติรัตน์ ณ ระนอง กับ พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง และ พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต เตรียมความพร้อมเสียแต่เนิ่นๆ อย่ามัวแต่เสียเวลาคุ้ยเรื่องหนีทหารอย่างเดียวล่ะ !!
