“เฉลิม” เผยกรมสอบสวนคดีพิเศษจ่อเรียกคนในคลิปปราบแดงวัดปทุมฯ แย้มเป็นคนที่พ้นราชการแล้ว มีสิทธิ์เรียกสอบได้ อ้างไม่ยุ่งสอบสวน ยันสร้างเรื่องคนผิดไม่ได้ ลั่นคนทำผิดต้องชดใช้กรรม ย้ำคนสั่งต้องรับผิดชอบ โอ่เคยปรามแล้วอย่าบ้าอำนาจ
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง"ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง"ให้สัมภาษณ์
วันนี้ (15 ส.ค.) ที่รัฐสภา เมื่อเวลา 11.00 น. ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณีที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ เตรียมจะเรียกมือสไนเปอร์มาสอบสวนเหตุยิงคนเสื้อแดงที่วัดปทุมวนารามเมื่อเหตุการณ์สลายการชุมนุมที่สี่แยกราชประสงค์ว่า ดีเอสไอรายงานข้อมูลมากว้างๆ ว่ามีคนมาร้องทุกข์และได้ดำเนินการสอบสวน ซึ่งดีเอสไอจะเรียกคนที่อยู่ในคลิปมาสอบปากคำว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร สิ่งสำคัญที่สุดคือบุคคลคนนั้นขณะนี้ได้พ้นราชการไปแล้ว ไม่จำเป็นต้องขอตัว สามารถดำเนินการได้เลย อีกทั้งศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) ขณะนั้นเป็นผู้รับผิดชอบ โดยมีผู้รับผิดชอบโดยตรงคือนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตี และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยศอฉ. ทั้งนี้ ข้อเท็จจริงจะต้องพิจารณาต่อไป โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นเจ้าพนักงานตามประมวลกฎหมายอาญา ส่วนทหารเป็นผู้ช่วยเจ้าพนักงาน ซึ่งต้องประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ส่วนเรื่องการสั่งการนายอภิสิทธิ์ และนายสุเทพ ต้องสั่งการตำรวจโดยตรง โดยมีทหารเข้ามาเป็นผู้ช่วยเจ้าพนักงาน จะสั่งทหารโดยตรงไม่ได้ ตรงนี้ต้องดูผลการสอบสวนของดีเอสไอ
“ผมไม่เข้าไปเกี่ยวข้องเรื่องการสอบสวน พยานหลักฐานข้อกฎหมายข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร ต้องเป็นไปตามนั้น คนทำผิดต้องได้รับโทษ ถ้าใครไม่ผิดผมไปสร้างเรื่องไม่ได้ เพราะเมื่อพ้นหน้าที่ผมก็ติดคุกได้เหมือนกัน” ร.ต.อ.เฉลิมกล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า ไม่ได้เป็นการเช็กบิลใช่หรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิมตอบว่า ถ้าไม่ได้ทำอะไรผิดจะไปเช็คบิลได้อย่างไร ตนอภิปรายรัฐบาลประชาธิปัตย์จัดหนักจัดเต็มทุกครั้ง ไม่เห็นมาเช็กบิลอะไรตน เพราะตนไม่ได้ทำอะไรผิด ถ้าใครทำผิดไว้ก็ต้องเห็นใจญาติคนตาย ตัวคนตาย และครอบครัว มันต้องมีการชดใช้กรรม ส่วนเจ้าพนักงานที่พ้นราชการแล้วทางดีเอสไอจะเรียกตัวมาสอบสวน จะเอาผิดได้หรือไม่ ตนไม่ทราบรายละเอียดว่าเป็นอย่างไร เมื่อถามว่า คนรับผิดชอบคือใคร ร.ต.อ.เฉลิมตอบว่า คนสั่งจะต้องรับผิดชอบ เจ้าหน้าที่จะได้รับการคุ้มครอง จากประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 62 และมาตรา 70 แต่คนสั่งถ้าฟังได้ว่าและมีหลักฐานได้ว่าทำผิดก็ลำบากและอันตราย ส่วนเจ้าหน้าที่ปลอดภัย ขณะนี้ดีเอสไอมีหลักฐานในการออกคำสั่งแล้ว
“ผมเคยบอกไว้ว่า เวลามีอำนาจอย่าบ้าอำนาจ ถ้าใครมีอำนาจแล้วบ้าอำนาจเวลาหมดอำนาจก็เข้าคุก และผมไม่ได้มั่นใจเรื่องหลักฐาน แต่พูดได้ในหลักการสืบสวนสอบสวน เพราะผมเป็นพนักงานสืบสวนมากก่อน ข้อเท็จจริงผมไม่ยุ่งและไม่ได้ใส่ใจว่าดีเอสไอจะทำอย่างไร เพราะดีเอสไอต้องรับผิดชอบ และเรื่องนี้อย่าไปมองดีเอสไอด้านลบ เพราะมีพนักงานอัยการร่วมสอบด้วย เขาประชุมกันละเอียดถี่ถ้วน ผมบอกให้ทำตรงไปตรงมาอย่าเกรงอิทธิพล ถ้ามีพยานหลักฐานชัดเจนว่าใครผิดแล้วไม่จับ ถือว่าละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ตามระมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 ถ้าไม่ดำเนินการก็ติดคุกเอง” รองนายกฯ ระบุ
รองนายกฯ กล่าวอีกว่า ส่วนระยะเวลาในการดำเนินการนั้น ตนไม่ทราบ และไม่ได้เร่งรัดอะไร แต่การดำเนินการต้องมีพยานแวดล้อม พยานบุคคล คลิปก็ชัดเจน ดีเอสไอมีหมด เรื่องแบบนี้ไม่มีใครอยากเอามือซุกหีบ เวลานี้คดีไต่สวนชันสูตรพลิกศพก้าวหน้าเยอะไม่นานคงรู้ตัวว่าใครผิด
