ผบ.ทอ.เผยกองทัพอากาศเตรียมส่ง ดีเอ-42 บินลาดตระเวนเพิ่มเติม พร้อมติดตั้งกล้องถ่ายภาพภาคพื้นดินเสริมปฏิบัติการทหารในพื้นที่ภาคใต้ ส่วนการโยกย้ายทหารนัดส่งโผ 15 ส.ค. มั่นใจ ผบ.ทอ.คนใหม่สานภารกิจเดิมได้ เชื่อเดาได้ว่าเป็นใคร
วันนี้ (9 ส.ค.) พล.อ.อ.อิทธพร ศุภวงศ์ ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.) กล่าวถึงกรณีที่กองทัพอากาศใช้เครื่องบินเอยู-23 ปฏิบัติภารกิจบินลาดตระเวนเสริมกำลังทหารในพื้นที่ภาคใต้ ว่าในส่วนของกองทัพอากาศมีการจัดตั้งกองกำลังทางอากาศเฉพาะกิจที่ 9 (กกล.ทอ.ฉก.9) เพื่อสนับสนุนภารกิจการบินในพื้นที่ภาคใต้หลายภารกิจ เช่น เครื่องบินซี 130 ใช้ในการขนย้ายกองกำลังต่างๆ สำหรับการลาดตระเวนนั้นจะมีเครื่องบิน เอยู-23 ประจำการอยู่ที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ใช้ในภารกิจลาดตระเวนอยู่แล้ว โดยกองทัพอากาศได้ดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้กองทัพอากาศจะส่งเครื่องบิน ดีเอ-42 ไปปฏิบัติภารกิจลาดตระเวนตรวจการณ์เพิ่มเติม เนื่องจากมีการติดตั้งอุปกรณ์ลาดตระเวน เช่น กล้องถ่ายภาพที่สามารถส่งภาพต่างๆ ให้แก่หน่วยภาคพื้นดินที่ร้องขอมาได้ รวมถึงปฏิบัติภารกิจได้ทั้งช่วงกลางวันและกลางคืนในเส้นทางต่างๆ ทั้งพื้นที่ป่าเขา และพื้นที่หมู่บ้านด้วย เพื่อสนับสนุนภารกิจให้ได้มากที่สุด
ผู้สื่อข่าวถามว่า ได้มีการเสนอแผนการปฏิบัติงานดังกล่าวไปยัง พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.กลาโหม แล้วหรือไม่ พล.อ.อ.อิทธพรกล่าวว่า รมว.กลาโหมได้รับทราบเรื่องนี้ดี เพราะว่าในการปฏิบัติภารกิจนั้น ทางกองทัพได้ปฏิบัติภารกิจร่วมกับกองอำนวยการรักษาความมั่นคงในราชอาณาจักร ภาค 4 (กอ.รมน.ภาค 4) เพราะฉะนั้นเรื่องรายละเอียดต่างๆ ทางหน่วยปฏิบัติได้วางแผนร่วมกับหน่วยภาคพื้นดิน
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของกำลังพลของกองทัพอากาศนั้นส่วนใหญ่มีภารกิจในการดูแลสนามบินบ่อทอง จ.ปัตตานี และกำลังพลบางส่วนที่ออกไปร่วมกับภาคพื้นดิน ซึ่งกำลังพลเหล่านี้ต้องได้รับการฝึกและมีความพร้อมที่จะออกไปปฏิบัติภารกิจร่วมกับกองกำลังภาคพื้นดิน
ทั้งนี้ กองทัพอากาศได้จัดหาเครื่องบิน DA42-MPP หรือ Diamond เข้ามาประจำการในปี 2553 โดยส่วนหนึ่งนำไปใช้เป็นเครื่องบินฝึกประจำการที่กองบิน 604 ส่วนที่จะส่งไปเพิ่มเติมในภารกิจสนับสนุนการดูแลความสงบในพื้นที่ชายแดนภาคใต้นั้น คือส่วนที่นำไปติดกล้องถ่ายภาพทางอากาศ และใช้ในภารกิจลาดตระเวน
พล.อ.อ.อิทธพรยังกล่าวถึงความคืบหน้าในการจัดทำบัญชีโยกย้ายนายทหารประจำปี 2555ว่า รมว.กลาโหม ได้กำหนดให้ส่งในวันที่ 15 ส.ค.นี้ ที่ทุกเหล่าทัพจะต้องส่งให้กระทรวงกลาโหม ในส่วนของคุณสมบัติคนที่จะมาเป็น ผบ.ทอ.คนใหม่นั้นก็คงจะเดากันได้อยู่แล้ว เพราะต้องเป็นคนที่มีความพร้อมที่จะก้าวขึ้นมาสานต่อภารกิจของกองทัพอากาศ เมื่อถามย้ำว่าไม่ความเป็นห่วงว่าหลังจากเกเกษียณแล้ว ผบ.ทอ.คนใหม่จะสามารถสานภารกิจได้เป็นอย่างดี พล.อ.อ.อิทธพรกล่าวสั้นๆ ว่า “ มั่นใจ”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ พล.อ.อ.อิทธพร ศุภวงศ์ ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.)ได้เป็นประธานในพิธีประดับเครื่องหมายความสามารถในการบินกองทัพอากาศและมอบประกาศนียบัตรนักบินประจำกองแก่ศิษย์การบินนายทหารสัญญาบัตรรุ่น 129 ที่สำเร็จการฝึกอบรมตามหลักสูตรการฝึกศิษย์การบินกองทัพอากาศ จำนวน 27 นายที่เข้ารับการฝึกตั้งแต่วันที่ 7 เม.ย.ที่ผ่านมา
โดย พล.อ.อ.อิทธพรกล่าวให้โอวาทใจความตอนหนึ่งว่า ทุกคนได้ก้าวเข้าสู่การเป็นนักบินของกองทัพอากาศแล้ว ขอให้ตระหนักว่าทุกคนคือทรัพยากรที่มีคุณค่าของกองทัพ ขอให้ปกป้องรักษาอธิปไตยของประเทศชาติ รวมทั้งนำความรู้ความสามารถมาปฏิบัติหน้าที่และปฏิบัติหน้าที่ด้วยความรอบคอบ มุ่งมั่น พัฒนาทักษะการบินและการรับราชการ รับผิดชอบหน้าที่ของตนเองและรักษาทรัพย์สินของทางราชการ ขอให้ปฏิบัติอย่างเต็มความสามารถให้สมกับเป็นนักบินและเป็นบุคลากรที่ทรงคุณค่าของกองทัพต่อไป
