โฆษก พท.โวยพันธมิตรฯ คิดคับแคบขวางร่าง พ.ร.บ.ปรองดอง มองเอื้อประโยชน์ “นช.แม้ว” เอามุกเก่าระดมมวลชนต้าน ยันรัฐบาลยังไม่คิดนำร่างฯ เข้าสู่การประชุมสภาฯ เฉ่ง ปชป.เล่นเกมการเมือง เอาปัญหาใต้มาผูกโยง “นายกฯ ปู” จัดงานเลี้ยงพรรคร่วมฯ
นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ประกาศจะออกมุมนุมต่อต้านหากในวันที่ 8 ส.ค. สภาผู้แทนราษฎรมีการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยความปรองดองแห่งชาติว่า การประกาศท่าทีดังกล่าวของพันธมิตรฯ น่าจะเป็นอาการวิตกจริตคิดมากไปเอง เพราะรัฐบาลและพรรคเพื่อไทยได้ประกาศชัดเจนไปแล้วว่าเรื่องของร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยความปรองดองแห่งชาติจะต้องมีการทำความเข้าใจกับประชาชนให้ชัดเจนเสียก่อน ขณะที่สภาผู้แทนราษฎรก็เลื่อนวาระอื่นๆ ขึ้นมาพิจารณาแทนกว่า 10 เรื่อง ดังนั้นในวันที่ 8 ส.ค.จะไม่มีการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยความปรองดองแห่งชาติอย่างแน่นอน
ส่วนตัวคิดว่าพันธมิตรฯ คงจะใช้เรื่องนี้เป็นมุกเดิม เป็นมุกเก่ามุกเดียวที่จะปลุกระดมคนให้มาชุมนุมต่อต้านรัฐบาล เพราะไม่มีเรื่องอื่นใดที่จะมาโจมตีหรือระดมมวลชนได้ จึงอยากให้พันธมิตรฯ เปิดใจกว้างรับฟังการดำเนินการของรัฐบาล และสภาฯ หลังจากนี้ ไม่ใช่เอะอะก็ชุมนุมใช้ม็อบกดดัน คิดคับแคบในมิติเดียวว่าจะมีการเอื้อประโยชน์ให้รัฐบาล หรือ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ความจริงถ้าพันธมิตรฯ ต้องการอย่างไรก็สามารถเสนอกฎหมายในฐานะประชาชนได้ด้วยการเข้าชื่อเสนอมาตามกระบวนการ
นายพร้อมพงศ์ยังกล่าวถึงกรณีที่พรรคประชาธิปัตย์โจมตี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ว่าไปร่วมงานเลี้ยงพรรคร่วมรัฐบาลโดยไม่สนใจปัญหาภาคใต้ว่า การหยิบประเด็น และภาพเหตุการณ์ทั้ง 2 กรณีมาเชื่อมโยงกันถือเป็นเกมการเมือง จ้องลดความน่าเชื่อถือ น.ส.ยิ่งลักษณ์อย่างไม่เป็นธรรม การไปร่วมงานพรรคร่วมรัฐบาลของ น.ส.ยิ่งลักษณ์นับเป็นหน้าที่อย่างหนึ่ง เรื่องปัญหาภาคใต้ก็เป็นหน้าที่อีกอย่างหนึ่ง ซึ่งนายกรัฐมนตรีก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ หรือละเลยต่อปัญหา ได้มีการตั้งทีม และสั่งบูรณาการหน่วยงานที่เยวข้องไปดูแลแก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วนแล้ว
“อยากให้พรรคประชาธิปัตย์ลองมองเรื่องนี้ด้วยใจเป็นธรรมบ้าง พรรคประชาธิปัตย์เองมี ส.ส.ในภาคใต้มาต่อเนื่องยาวนาน ยังแก้ปัญหาเหล่านี้ได้ไม่สำเร็จลุล่วง เราอยากเห็นภาพความร่วมมือระหว่างรัฐบาลกับฝ่ายค้านมากกว่าการมานั่งจ้องจับผิด โจมตีกันแบบนี้เพราะไม่เกิดประโยชน์อะไรเลยกับพี่น้องประชาชน”