ศึกชิงเก้าอี้ประธานวุฒิสภายังไม่นิ่ง กกต.เปิดสมัคร ส.ว.สรรหาพรุ่งนี้

ศึก ส.ว.สรรหา-ส.ว.เลือกตั้ง ชิงเก้าอี้ประธานวุฒิสภา ยังไม่นิ่ง “นิคม” ลาออกจากรองประธานฯ อาจเปิดช่องให้ ส.ว.สรรหา กินรวบทุกตำแหน่ง ด้าน กกต.เชิญผู้สนใจสมัครเป็น ส.ว.สรรหาภาคอื่น เริ่มพรุ่งนี้

รายงานข่าวจากวุฒิสมาชิกแจ้งว่า การหาตัวผู้ที่จะเข้าดำรงตำแหน่งประธานวุฒิสภา แทน พล.อ.ธีรเดช มีเพียร อดีตประธานวุฒิสภา ในการหารือวานนี้ (30 ก.ค.) มีความเป็นไปได้ทั้ง ส.ว.เลือกตั้ง และ ส.ว.สรรหา จะได้รับการโหวตเป็นประธานวุฒิสภา เพราะมี 76 ต่อ 71 เสียงไม่ต่างกันมาก แต่ถ้า ส.ว.สายเลือกตั้งจากภาคใต้ ได้รับใบสั่งจากพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งเป็นฐานเสียง ส.ว.ส่วนใหญ่ก็อาจจะมาหนุน ส.ว.สายสรรหา จนได้รับเลือกขึ้นมาเป็นประมุขวุฒิสภา นอกจากนี้ การที่นายนิคม ไวยรัชพานิช รองประธานวุฒิสภา ลาออกเพื่อชิงตำแหน่งประธานวุฒิสภา อาจเป็นช่องให้ ส.ว.สายสรรหากินรวมทุกตำแหน่ง

อย่างไรก็ตาม อาจมีการเจรจาเปิดทางให้ ส.ว.สายเลือกตั้งเข้ามาเป็นประธานวุฒิสภา เนื่องจากยังมีเผือกร้อนร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ และร่าง พ.ร.บ.ปรองดอง ที่รัฐบาลยังเดินหน้าไม่ได้ ประกอบกับตำแหน่งประธานวุฒิสภา ยังเหลือเวลาอีกแค่ปีเศษ ประกอบกับ ส.ว.สรรหายังมีปัญหาการเสนอชื่อตัวบุคคลไม่ลงตัว อาจมีการยอมให้สายเลือกตั้งเข้ามากุมบังเหียน แต่ขอโควตาสายสรรหาเป็นรองประธานวุฒิสภา

ส่วนความคืบหน้าในการสรรหา ส.ว.แทนตำแหน่งที่ว่าล่าสุด นายภุชงค์ นุตราวงศ์ เลขาธิการ กกต. กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมในการสรรหาสมาชิกวุฒิสภา ภาคอื่นแทนตำแหน่งที่ว่าง แทนนายศรีสุข รุ่งวิสัย อดีต ส.ว. ว่า กกต.ได้จัดเตรียมสถานที่ในการอำนวยความสะดวกให้กับผู้มาลงทะเบียนสมัครเข้ารับการสรรหาบริเวณ ชั้น 2 ห้องประชุม 203 สำนักงาน กกต. โดยจะเปิดรับลงทะเบียน ตั้งแต่วันที่ 1-15 ส.ค.55 เวลา 08.30-16.30 น. ไม่เว้นวันหยุดราชการ จึงขอเชิญชวนองค์กรภาคอื่นเสนอชื่อบุคคลเพื่อเข้ารับการสรรหาเป็นสมาชิกวุฒิสภาแทนตำแหน่งที่ว่างโดยเตรียมความพร้อมและมาลงทะเบียนตั้งแต่เนิ่นๆ เพื่อจะได้มีเวลาในการตรวจสอบเอกสารหลักฐานคุณสมบัติของผู้ที่จะเสนอเข้ารับการสรรหาเป็น ส.ว. เพื่อประกอบการพิจารณาของคณะกรรมการสรรหา ส.ว.

ทั้งนี้ องค์กรที่ประสงค์จะเสนอชื่อบุคคลเข้ารับการสรรหาเป็นสมาชิกวุฒิสภาจะต้องจัดเตรียมหนังสือยินยอมให้เสนอชื่อเข้ารับการสรรหาเป็นสมาชิกวุฒิสภา สำเนาทะเบียนบ้าน และสำเนาบัตรประจำตัวประชาชน หรือบัตรประจำตัวอื่นซึ่งทางราชการหรือหน่วยงานของรัฐออกให้ สำเนาวุฒิการศึกษาไม่ต่ำกว่าปริญญาตรีหรือเทียบเท่า ใบรับรองแพทย์ รูปถ่ายหน้าตรงไม่สวมหมวก ขนาดกว้างประมาณ 8.5 เซนติเมตร ยาวประมาณ 13.5 เซนติเมตร จำนวน 15 รูป และขนาดกว้างประมาณ 4.0 เซนติเมตร ยาวประมาณ 6.0เซนติเมตร จำนวน 15 รูป พร้อมทั้งจัดทำสำเนา 15 ชุด และชำระค่าธรรมเนียมคนละ 5,000 บาท โดยผู้สมัครจะต้องเป็นหรือเคยเป็นสมาชิกขององค์กรหรือปฏิบัติหน้าที่หรือเคยปฏิบัติหน้าที่ในองค์กรซึ่งมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามตามที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ