xs
xsm
sm
md
lg

“มาร์ค” ลุ้นส่ง “สุกำพล” กลับหลุม - ปลุกแดงอย่าเป็นขี้ข้าทักษิณ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
“แก้วสรร” อัด “แม้ว” กินบ้านกินเมือง ชี้กลับไทยติดคุกยาว 36 ปี “ชวน” ซัดเสริมห่วงแต่ขาดทุน-กำไร ทำภาคใต้ระอุอีกรอบ “มาร์ค” ทำเซอร์ไพรส์ใส่เสื้อแดง ชวนแดงอุดมการณ์ต้านนิรโทษคนโกง ไล่รัฐบาลแก้ปัญหา ปชช. หยุดดัน กม.อัปยศช่วยทักษิณ เตือนอย่าเพิ่งตายใจวาระประชุมสภา 1 ส.ค. ไม่มีกฎหมายปรองดอง เชื่อยิ่งลักษณ์ดันต่อแค่รอจังหวะ

วันนี้ (29 ก.ค.) ที่สนามกีฬาไทยญี่ปุ่น-ดินแดง พรรคประชาธิปัตย์เดินหน้าเวทีประชาชน “ผ่าความจริง หยุดคุกคามศาล หยุดกฎหมายล้างผิด หยุดคิดล้มรัฐธรรมนูญ” โดยมีแกนนำและ ส.ส.พรรคมาร่วมอย่างพร้อมเพรียง และนายแก้วสรร อติโพธิ อดีต คตส. รวมถึงนักศึกษา เข้าร่วมด้วย ท่ามกลางประชาชนเข้าฟังการปราศรัยแน่นสนามกีฬาฯ

ในช่วงแรกนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้นำประชาชนร่วมยืนไว้อาลัยให้กับการจากไปของทหาร 4 นายที่ถูกกลุ่มก่อความไม่สงบในภาคใต้ลอบสังหารอย่างโหดเหี้ยม โดยมีศิลปินชื่อดัง เศกพล อุ่นสำราญ หรือ “โก้ มิสเตอร์แซกแมน” เป่าแซกโซโฟนเพลง “ความฝันอันสูงสุด” เพื่อไว้อาลัยแด่ทหารและตำรวจที่เสียสละเพื่อปกป้องบ้านเมือง นอกจากนี้ ในระหว่างการแนะนำนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ที่เพิ่งโดนป.ป.ช.ชี้มูลความผิดว่าละเมิดรัฐธรรมนูญมาตรา 268 ประกอบ 266 (1) เนื่องจากแทรกแซงการบริหารงานของกระทรวงวัฒนธรรมนั้น ประชาชนยังได้ร่วมกันตะโกน “สุเทพสู้ๆ” จนลั่นสนามกีฬายาวนานเกือบ 1 นาที ในขณะที่ผู้ปราศรัยของพรรคเน้นปลุกเร้าให้ประชาชนลุกขึ้นมาสู้กับคนเสื้อแดงและรัฐบาลที่กำลังทำลายหลักนิติรัฐ นิติธรรม เพื่อประโยชน์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร พี่ชายนายกรัฐมนตรี โดยไม่สนใจแก้ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน

นายแก้วสรรกล่าวว่า การศึกครั้งสุดท้ายกับสงครามระบอบทักษิณ ถ้า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อยากกลับมาต้องติดคุก แต่เชื่อว่าจะมีการดันกฎหมายล้างผิดอ้างการสานเสวนาประชาชนมาบังหน้า ถ้าคนเหล่านี้ชนะ ทุกคนต้องมุดหัวนอนอยู่ที่บ้าน จุดตะเกียง ปล่อยให้เขาถลุงภาษีประชาชน พร้อมกับเปิดเผยว่ามีคนเสื้อแดงอยู่หน้าสนามกีฬาฯ เอาแบงก์ร้อยวางบนพื้นแล้วเหยียบหน้าในหลวง สิ่งเหล่านี้คนไทยต้องไม่ยอมให้เกิดขึ้น และต้องต่อสู้กับความไม่ถูกต้อง โดยเฉพาะความพยายามของ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่ยุแยงให้ประชาชนแตกแยก ทำตัวอยู่เหนือกฎหมาย เป็นคนที่กินบ้านกินเมือง เชื่อกลับประเทศไทยติดคุกทันที 36 ปี เพราะมีหลายคดีรออยู่

ด้าน นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ ลำดับเหตุการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ว่าเหตุการณ์เริ่มสงบแล้วตั้งแต่ช่วงที่ตนเป็นนายกรัฐมนตรี แต่กลับมาปะทุอีกครั้งในยุค พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่กำหนดนโยบายผิดพลาด ขาดความเข้าใจในปัญหา โดยเห็นว่าหากพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ไม่เอาแต่อ่านหนังสือขาดทุน-กำไร ภาคใต้ก็จะไม่วิกฤตเช่นนี้ และปัญหาภาคใต้ไม่กระจอก แต่ที่กระจอกคือคนที่แก้ปัญหาในขณะนั้น เชื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สะเทือนใจกับปัญหาภาคใต้

ขณะที่ นายอภิสิทธิ์ ได้ปราศรัยทวงสัญญานายกรัฐมนตรที่ระบุว่าจะ “แก้ไขไม่แก้แค้น” แต่พฤติกรรมตรงกันข้าม ไม่ห้ามปรามคนเสื้อแดงที่ตามก่อกวนการลงพื้นที่ จนเกิดเหตุการณ์ที่ปทุมธานี และเชียงใหม่ รวมทั้งอีกหลายพื้นที่ทีมีการจัดตั้งมวลชนไปก่อกวนการลงพื้นที่ของพรรคประชาธิปัตย์ โดยเห็นว่าเป็นนโยบายทางการเมืองของพรรคเพื่อไทย ที่ปลุกปั่นประชาชนให้ออกมาขัดขวางการทำงานของพรรค ทั้งนี้ตนยอมรับว่ากลัวกับการกระทำดังกล่าว เพราะเกรงว่าผู้สนับสนุนของพรรคจะทนไม่ได้ออกไปถล่มคนเสื้อแดง ขณะที่คนในรัฐบาลไม่พยายามห้ามปรามผู้สนับสนุนตัวเอง กลับอ้างว่าตนไม่ควรเดินทางไปในพื้นที่ที่ถูกต่อต้าน ซึ่งเห็นว่าหากใช้หลักคิดนี้คนในรัฐบาลก็ไม่สามารถเดินทางลงพื้นที่เช่นเดียวกัน และที่ทำกันมากในขณะนี้เพราะพรรคไม่ยอมให้มีการล้างผิดให้คนโกง โดยมีความพยายามจะมาล็อบบี้ว่าเคลียร์กับทุกฝ่ายได้หมดแล้วแม้แต่ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน เหลือแต่พรรคประชาธิปัตย์พรรคเดียว ซึ่งตนก็ยืนยันไปว่า (1) ถ้าทำดีตนพร้อมร่วมช่วยเหลือให้ทำสำเร็จ แต่ถ้าบ้านเมืองเสียหายจะบังคับ หว่านล้อม ขู่เข็ญอย่างไรตนไม่มีวันยอม (2) ถึงแม้ตนยอมก็จะมีคนอีกเป็นหมื่นเป็นแสนที่ไม่มีวันยอม ตนทรยศต่อประชาชนไม่ได้ ทรยศแผ่นดิน ประเทศไม่ได้ ต้องเดินหน้าเพื่อความถูกต้อง ไม่ต้องขู่ ไม่ต้องหว่านล้อม เพราะฉะนั้นประชาชนอย่าหวั่นไหว เพราะจะมีความพยายามเล่นงานประชาธิปัตย์ และตน

“คิดดูว่าผมเล่นการเมืองมายี่สิบปี ประวัติชัดเจนสะอาด บางคนเล่น 5 ปีนับคดีไม่ถ้วน จึงต้องย้อนยุคไปสมัยที่ผมอายุยี่สิบกว่าปีหาว่าผมหนีทหาร ผมยืนยันกับพี่น้องเรื่องนี้อย่าหวั่นไหวเป็นเรื่องเก่า อยู่ดีๆ ขุดขึ้นมาไม่มีอะไร จตุพร พรหมพันธุ์ พูดเรื่องนี้ ผมชี้แจงหักล้างในสภาและบอกว่าถ้าแน่จริงให้ไปพูดนอกสภาจะฟ้อง เมื่อจตุพรไปพูดนอกสภาผมก็ฟ้องจตุพรเป็นคดีที่ 5 สุดท้ายมีการนำสืบพยานในช่วงสองอาทิตย์ที่ผ่านมา หลังจากที่คดีที่ 1 ศาลตัดสินจำคุกนายจตุพร 6 เดือน จึงมีกระบวนการร้องเรียนเพื่อช่วยจตุพรในคดีนี้ เอกสารที่ขนมาเป็นคันรถอยู่ในหนังสือเร๊ดพาวเวอร์ตั้งแต่ปีที่แล้ว เอามาสืบพยานทนายผมซักค้านไปหมดแล้ว รมว.กลาโหมให้สัมภาษณ์ครั้งแรกไม่ให้เอกสารกับสื่อแต่ให้พยานจตุพรไปใช้ในศาล เพราะฉะนั้นก็เป็นความพยายามช่วยกันไป ในชีวิตนี้ผมเพิ่งเคยเห็นรัฐมนตรีช่วยว่าความให้จตุพร ผมจะใช้สิทธิตามกฎหมายต่อ ถ้า รมว.กลาโหมโชคดีก็จะได้ไปอยู่กับจตุพรในที่ที่ควรอยู่” นายอภิสิทธิ์กล่าว

หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ระบุด้วยว่า ไม่หวั่นไหวแต่จะต่อสู้เพื่อความถูกต้อง เพราะการระบุว่าจะแก้ไขไม่แก้แค้น ปรองดองเป็นเรื่องจอมปลอมทั้งสิ้น ถ้าอยากแก้ไขทำไมไม่แก้ปัญหาภาคใต้ ทั้งนายกฯรองนายกฯ และรมว.กลาโหมไปอยู่ไหน ตนไม่ไล่ให้ออกจากตำแหน่ง แต่ไล่ให้ไปดูแลปัญหาภาคใต้เดี๋ยวนี้ ถ้าอยากแก้ไขทำไมปล่อยให้ข้าวเสียแชมป์การส่งออกอยู่ในอันดับ 3 เพราะนโยบายจำนำข้าวของรัฐบาลชุดนี้ ปลัดกระทรวงพาณิชย์ควรเลิกทะเลาะกับนายชวนนท์ แต่ต้องรีบไปแก้ไขปัญหา ส่งออกภาพรวมติดลบ ถ้าเป็นอย่างนี้ถึงสิ้นปีจะเป็นการขาดดุลการค้า ขาดดุลบัญชีเดินสะพัดครั้งแรกในรอบ 15 ปี รัฐบาลต้องแก้ไข ต้องเลิกล้มความคิดลอยตัวก๊าซหุงต้ม เอาปัญหาประชาชนเป็นตัวตั้งอย่าเอาฐานะ ปตท.เป็นตัวตั้ง ต้องแก้ปัญหาให้ประชาชน นี่คือสิ่งที่พรรคประชาธิปัตย์เรียกร้อง

นายภิสิทธิ์กล่าวว่า เราได้ร่วมกันและเดินทางมาไกลพอสมควร เห็นได้จากผลสำรวจความเห็นประชาชนที่ไม่ต้องการให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และผลักดัน พ.ร.บ.ปรองดอง การประชุมสภาในวันที่ 1 สิงหาคมนี้ นายสมศักดิ์ บอกเป็นการประชุมกรณีพิเศษไม่มีเรื่องปรองดองและนิรโทษกรรมเป็นเพราะพรรคและประชาชนร่วมกันต่อสู้ในเรื่องนี้ แต่ตายใจไม่ได้เพราะแค่ 1 สิงหาคม แต่สมัยประชุมมีถึงธันวาคม อาจต้องจัดเวทีอีก 4 เดือน

“วันนี้ ส.ส.ใส่เสื้อหยุดปรองดองหลายสีทั้งดำ น้ำตาล เหลือง ผมก็ใส่มาตัวหนึ่งข้างในแจ็กเกต (ถอดเสื้อแจ็กเกตเป็นเสื้อสีแดงหยุดปรองดอง เรียกเสียงปรบมือลั่นห้องประชุม) ต้องอธิบายว่าทำไมใส่เสื้อสีแดง ผมบอกว่าสีแดงเป็นของทุกคน มีหลายคนเบื่อรำคาญ แม้แต่ศิลปินรุ่นใหญ่ยังบอกว่าเอาสีแดงคืนมา สีแดงอยู่ในธงชาติต้องหมายถึงคนทั้งชาติไม่ใช่คนกลุ่มเดียว เพราะฉะนั้นผมจะใส่สีแดงเป็นสิทธิของผม พวกคุณไม่ต้องมาต่อว่าเพราะเป็นสิทธิ เสรีภาพ ไม่ใช่ไปขัดขวางคนอื่น สำคัญกว่านั้นผมตั้งใจใส่สีแดงบอกกับคนเสื้อแดงที่บอกเป็นอุดมการณ์ ต้องใส่แบบนี้ หยุดปรองดองจอมปลอมล้างผิดคนโกง” นายอภิสิทธิ์กล่าว

ในระหว่างการปราศรัยยังมีการเปิดวิดีโอการปลุกระดมประชาชนของ พ.ต.ท.ทักษิณ ด้วย โดยนายอภิสิทธิ์ ระบุว่า พ.ต.ท.ทักษิณ คือคนคนเดียวที่ทำให้บ้านเมืองวุ่นวาย เกิดความแตกแยก ใช้ศพประชาชนเข้าสู่อำนาจ คนใส่เสื้อแดงต้องตัดสินใจ ถ้าเป็นแดงอุดมการณ์ต้องรู้ว่าใครชักชวนให้มาต่อสู้เพียงแค่เป็นเครื่องมือทางการเมือง แต่ไม่มีความจริงใจให้ ไม่หยิบยื่นแม้แต่ความเป็นธรรมให้ ในขณะที่ตนถูกกล่าวหาว่าเป็น ฆาตกร แต่ไม่เคยเรียกร้องการนิรโทษกรรมเพราะตนไม่ได้ทำ นายสุเทพ โดนกล่าวหาเหมือนตนก็ไม่เรียกร้องนิรโทษกรรมเพราะไม่ได้ทำเหมือนกัน แต่คนที่รู้อยู่แก่ใจว่ามีการฝึกฝนให้คนติดอาวุธใส่ชุดดำแฝงตัวในที่ชุมนุมจนเป็นที่มาของการตายทหาร ตำรวจ ประชาชน กำลังจะหนีความจริงด้วยการนิรโทษกรรมทุกฝ่าย ตนจึงบอกว่าถ้าใส่เสื้อแดงเพราะอุดมการณ์ต้องเรียกร้องว่าห้ามออกกฎหมายนิรโทษกรรม ต้องไม่ยอมเป็นเครื่องมือให้คนคนหนึ่งล้างผิดการทุจริต การโกงของตัวเอง แต่ถ้าใส่เสื้อแดงแล้วไม่ยอมเขียนหยุดปรองดอง ไม่ร่วมต่อต้านเรียกร้องความเป็นธรรมให้วิญญาณของคนใส่เสื้อแดง พวกคุณไม่มีความหมายอะไรนอกจากการเป็นขี้ข้าทักษิณ เพราะฉะนั้น คนเสื้อแดงที่อยากได้ความเป็นธรรมให้มาขอแบบจากนายกรณ์ จาติกวณิช แต่ขอให้ออกค่าใช้จ่ายเอง สิ่งเหล่านี้เป็นประเด็นที่ต้องชี้ให้สังคมเห็น ประชาธิปัตย์ไม่ต้องการให้คนไทยเป็นศัตรูกันแต่ต้องการให้บ้านเมืองเดินไปข้างหน้า เข้าใจว่ามีคนหลงผิดเพราะได้รับข้อมูลไม่ถูกต้อง แต่เราไม่ยอมนิรโทษกรรมให้คนที่สร้างความเสียหายกับบ้านเมืองและทำให้พี่น้องตาย ไม่มีเหตุผลอะไรทั้งสิ้นที่จะนิรโทษกรรมให้กับคนโกงชาติ โกงแผ่นดิน

นายอภิสิทธิ์กล่าวด้วยว่า ถ้าใส่เสื้อแดงเพราะไม่ชอบสองมาตรฐาน ต้องใส่เสื้อแดงที่เขียนหยุดปรองดองเหมือนกัน เพราะประเทศไทยหรือประเทศไหนก็ตามไม่เคยสามารถทำให้คนร่ำรวยเท่ากันได้ แต่ทุกคนต้องอยู่ภายใต้กฎหมายอย่างเสมอภาคกัน ถ้าใส่เสื้อแดงเพราะไม่ชอบสองมาตรฐาน แต่จะปล่อยให้คนทำผิดไม่ต้องเข้าคุก เพราะเป็นสองมาตรฐานอย่างแท้จริง กฎหมายต้องเป็นกฎหมาย คนเสื้อแดงที่ทำผิดก็ต้องถูกลงโทษแล้ววันหนึ่งจะมีคนร้องเพลง “ช่างมารดาคุณ” ในขณะที่รัฐบาลยังพยายามผลักดันกฎหมายอัปยศช่วย พ.ต.ท.ทักษิณ ตนอยากให้คนใส่เสื้อทุกสีได้รู้ ได้ทราบ จะได้แยกแยะให้เห็นว่าสุดท้ายการต่อสู้ต้องไม่ใช่การต่อสู้ระหว่างพรรค พวก หรือ ระหว่างสี แต่ต้องเป็นการต่อสู้ระหว่างคนที่ต้องการความถูกต้องกับคนโกง ประชาชนต้องผนึกกำลังอดทน คนจำนวนมากเข้าใจแล้ว แต่ต้องอดทนทำความเข้าใจกับคนอีกกลุ่มหนึ่ง เพราะเชื่อว่าจะมีการผลักดันต่อ โดยนายกรัฐมนตรีก็ระบุว่าไม่ถอยแต่รอจังหวะ ดังนั้นในช่วงเวลาต่อจากนี้อาจมีการนำเอกสารไปให้ประชาชนเซ็นเพื่อนำมาสนับสนุนกฎหมายล้างผิด ต้องระมัดระวัง และต้องช่วยกันบอกกับรัฐบาลว่าประชาชนต้องการคนทำงานเพื่อชาติไม่ใช่เพื่อญาติให้รัฐบาลเข้าใจว่าหากต้องการบริหารประเทศต้องเดินหน้าทำตามนโยบายแก้ปัญหาประชาชน พรรคฝ่ายค้านอย่างประชาธิปัตย์ไม่มีใครสร้างความวุ่นวาย ยุยงให้คนเผาบ้านเผาเมืองโดยเด็ดขาด แต่ถ้ามุ่งมั่นช่วย พ.ต.ท.ทักษิณ บ้านเมืองก็จะตกอยู่ในสภาพอย่างนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ สุดท้ายก็ต้องวัดว่ารัฐบาลจะเข้าใจหน้าที่ของตัวเองทำหน้าที่นักการเมืองพรรคการเมืองอย่างที่ควรจะทำหรือไม่ จึงต้องขอแรงประชาชน 1 สิงหาคม สภาเปิดไม่มีอะไร แต่ประชาชนต้องติดตามเตรียมพร้อมเสมอในการสกัดกั้นความไม่ถูกต้อง ต้องเหนื่อยกันอีกเยอะ ตนพร้อมที่จะสู้ร่วมกับประชาชน
กำลังโหลดความคิดเห็น