“เพื่อไทย” ยันได้ข้อสรุปวิธีแก้ รธน.ก่อนเปิดสภา เดินหน้าสร้างอาสาพรรค ทำความเข้าใจกับประชาชน จวก “อภิสิทธิ์” หนีทหาร เพราะรู้ว่าเสี่ยงตาย ปัด “สุกำพล” สร้างผลงานเพื่อให้อยู่ ครม.ต่อ ยันรัฐบาลไม่ได้ล้มเหลวแก้ไฟใต้ ด้าน “วิปรัฐบาล” เตรียมประชุมหารือแนวทางแก้ไขรัฐธรรมนูญพรุ่งนี้
วันนี้ (29 ก.ค.) นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงว่า ในการสัมมนาพรรคเพื่อไทย ที่จังหวัดชลบุรี ครั้งนี้ ได้แสดงให้เห็นถึงจุดยืนของพรรคในเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ว่า เรายังคงยึดมั่นในการเดินหน้าต่อไป แต่จะทำวิธีใดนั้น เราจะนำข้อสรุปในวันนี้ ไปประชุมวิปรัฐบาล และในงานเลี้ยงก่อนเปิดสมัยประชุมวันที่ 31 ก.ค.ก็จะมีการนำเข้าหารือกับพรรคร่วมรัฐบาล ก็คงจะได้ข้อสรุปว่าจะเดินอย่างไรต่อไป คือ จะแก้รายมาตรา จะทำประชามติ หรือจะเดินหน้าโหวตวาระ 3 ดังนั้น ก่อนเปิดสมัยประชุมสภา จะมีความชัดเจนออกมาแน่นอน
ทั้งนี้ ยืนยันว่า การแก้ไขเพื่อต้องการให้รัฐธรรมนูญและบ้านเมืองเป็นประชาธิปไตย เป็นการทำตามความต้องการของประชาชนที่ได้ให้ฉันทามติเลือกพรรคเพื่อไทยมาเป็นรัฐบาล หากจะมีอุปสรรคใดเราต้องแก้ไขให้เดินหน้าต่อไปได้ โดยให้ประชาชนมีส่วนร่วม ซึ่งเราจะได้ให้สมาชิกพรรค ส.ส.เดินหน้าทำความเข้าใจถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญใน 250 เขต และเดินหน้าสร้างอาสาสมัครพรรคเพื่อไทยใน 2 เดือน ให้ได้ 2.5 ล้านคน และมีเป้าหมายในการแถลงผลงานรัฐบาลในปีหน้าให้ได้ 15 ล้านคน นี่คือ ความตั้งใจของพรรคที่จะดำเนินการ
นายพร้อมพงศ์ กล่าวว่า พรรคขอแสดงความเสียใจกับพลทหาร 4 นาย ที่เสียชีวิตในพื้นที่ภาคใต้เมื่อวันที่ 28 ก.ค.ซึ่งการเป็นทหารนั้นมีความเสี่ยงที่จะเสียชีวิต และต้องเสียสละอย่างมาก จึงไม่แปลกใจที่คนที่มีบทบาทในบ้านเมือง คนมีฐานะดี จะหลีกเลี่ยงการเกณฑ์ทหาร เช่น นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ที่จากการตรวจสอบมีหลักฐานชัดเจนว่าไม่เข้ารับการเกณฑ์ทหาร และมีหลักฐานชัดเจนว่าใช้เอกสารเท็จในการสมัครเข้าทำงานในโรงเรียนนายร้อย จปร.แต่กลับให้คนของพรรคประชาธิปัตย์ออกมาแก้เกี้ยว บอกว่า เป็นประเด็นทางการเมือง บอกว่า พล.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.กลาโหม จะถูกปรับออกจากครม.จึงต้องสร้างผลงานซึ่งไม่เป็นความจริง เพราะข้าราชการ นายทหารระดับนายพลหลายคนออกมาเป็นเรื่องนี้ตรงกัน แน่นอนว่า คงไม่พูดเท็จแน่นอน และเรื่องนี้ไม่ใช่เป็นการเอาคืนนายอภิสิทธิ์ แต่เป็นการดำเนินการตามที่มีผู้ร้องต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน จึงทำให้เกิดปรากฏการณ์ความจริงไล่ล่านายอภิสิทธิ์ จนจนมุม ต้องให้คนออกมาบิดเบือนข้อเท็จจริง ทำให้ประชาชนคาดหวังกับพรรคประชาธิปัตย์ ในเรื่องการตรวจสอบในฐานะฝ่ายค้านไม่ได้ เพราะขนาดในพรรคตัวเองยังตรวจสอบไม่ได้เลย ไม่มีเอาผิดใดๆ ไม่มีแม้กระทั่งการตั้งกรรมการตรวจสอบ
โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า จากกรณีที่ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกรัฐมนตรี ถูก ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดกรณีการแทรงแซงการทำงานของข้าราชการในกระทรวงวัฒนธรรมนั้น และมีคำพูดออกมาจาก นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ในเชิงเปรียบเทียบ บอกว่า นายสุเทพ เจ็บอย่างเสือ แต่ไม่ครางอย่างหมา เหมือนเป็นการโยนมาทางพรรคเพื่อไทย ซึ่งการพูดอย่างนี้แน่นอนว่าไม่มีความสร้างสรรค์เลย เมื่อโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ มีลักษณะที่ก้าวร้าย หยาบคาย เช่นนี้ก็เป็นเรื่องยากที่จะเกิดความปรองดองขึ้น การพูดในลักษณะที่ดูถูกผู้อื่นอย่างนี้ เป็นการพูดที่ไร้สาระ ไม่ได้ให้สาระกับประชาชนเลย ซึ่งไม่ควรทำอย่างยิ่ง
นายพร้อมพงศ์ กล่าวว่า ที่ นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ออกมาบอกว่า ไม่ต้องการมาอ่านหนังสือที่ห้องสมุด พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เพราะกลัวว่าถ้าอ่านแล้วจะเป็นคนโกง และยังบอกอีกว่าจะส่งหนังสือมายังห้องสมุดนี้ โดยเฉพาะหนังสือที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับการโกง ซึ่งเขียนถึง พ.ต.ท.ทักษิณ หรือพรรคเพื่อไทย ซึ่งตนกำลังดูในข้อกฎหมายอยู่ว่า หากการพูดอย่างนี้เข้าข่ายทำให้พรรคเพื่อไทยเสียหายก็จะดำเนินการฟ้องหมิ่นประมาทแน่นอน
นายพร้อมพงศ์ กล่าวว่า ในส่วนการเปิดสมัยประชุมสภาในวันที่ 1 ส.ค.นี้ ซึ่งประชาชนคาดหวังกับการทำงานของ ส.ส.อย่างมาก ดังนั้น ก็ขอฝากไปยังพรรคประชาธิปัตย์ในฐานะฝ่ายค้านให้ทำงานอย่างสร้างสรรค์ ขอร้องว่า อย่าให้มีพฤติกรรมเหมือนสมัยประชุมสภาครั้งที่แล้ว ที่มีทั้งการยึดเก้าประธานสภา คว้างปาของใส่ประธานสภา ขออย่าให้เกิดเหตุการณ์อย่างนี้เลย เพราะพวกท่านเป็นตัวแทนประชาชน
นายพร้อมพงศ์ กล่าวว่า สำหรับการประชุม ครม.สัญจร ที่จังหวัดสุรินทร์ ซึ่งครั้งนี้นายรัฐมนตรีได้มีโอกาสบงพื้นที่ดูปัญหาของพี่น้องประชาชนในพื้นที่ภาคอีสาน และก็เป็นการแสดงให้เห็นการทำงานของรัฐบาลในการขับเคลื่อนนโยบาย โดยการประชุมครั้งนี้จะมีการแจกบัตรเครดิตชาวนาเป็นครั้งแรก แสดงให้เห็นว่า นโยบายของรัฐบาลนั้น สามารถทำได้จริง 1 ปีที่ผ่านมารัฐบาลมีการประชุมสัญจรไปทุกภาคทั่วประเทศ ครอบคลุมทุกพื้นที่ ทำให้เห็นปัญหาและแก้ไขได้ตรงจุด ต่างจากรัฐบาลชุดที่ผ่านมาที่เห็นผลงานน้อยมาก และที่พรรคประชาธิปัตย์บอกว่า รัฐบาลล้มเหลวในการแก้ปัญหาภาคใต้ ซึ่งไม่เป็นเรื่องจริง เพราะต้องเข้าใจว่าปัญหาภาคใต้เป็นปัญหาที่ละเอียดอ่อนไม่ใช่แก้ได้ในทันที พรรคประชาธิปัตย์เองที่บอกว่าจะแก้ไขให้ได้ใน 99 วัน แต่อยู่มา 2 ปี 8 เดือน ก็ยังแก้ไขไม่ได้ แต่รัฐบาลยิ่งลักษณ์อยู่มา 1 ปี ก็ได้พยายามแก้ปัญหาอย่างเต็มที่ พยายามให้เกิดการบูรณาการเพื่อแก้ปัญหา จึงอยากฝากไปยังพรรคประชาธิปัตย์ที่เป็นผู้ยึดพื้นที่ภาคใต้ได้มี ส.ส.มากที่สุด อยากให้ร่วมมือกันแก้ปัญหาใต้ อยากให้ส่งข้อมูลมายังรัฐบาล ซึ่งจะเกิดประโยชน์ต่อการแก้ปัญหามากกว่า
