วานนี้ (23 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าการเตรียมความพร้อมรับการประชุม คณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ (สัญจร) ระหว่างวันที่ 29-30 ก.ค.55 นี้ที่ จ.สุรินทร์ โดยวันที่ 29 ก.ค. นายกรัฐมนตรี มีกำหนดการเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐ และเอกชน (กรอ.) และ เป็นประธานประชุมร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัดอีสานตอนล่าง 8 จังหวัด ที่ โรงแรมทองธารินทร์ อ.เมือง จ.สุรินทร์ และ วันที่ 30 ก.ค. นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีทำบุญตักบาตรบนหลังช้าง ณ บริเวณอนุสาวรีย์พระยาสุรินทร์ภักดี ศรีณรงค์จางวาง และ เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี ณ โรงแรมลานช้าง มหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์ นั้น
ที่โรงแรมล้านช้าง มหาวิทยาลัยราชภัฎสุรินทร์ ซึ่งเป็นโรงแรมที่เพิ่งก่อสร้างแล้วเสร็จและถูกกำหนดให้เป็นสถานที่ประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจรครั้งนี้ พบว่า ได้มีการระดมกำลังเจ้าหน้าที่ คนงาน รวมทั้งนักศึกษา มาช่วยกันเร่งเตรียมพร้อมสถานที่กันอย่างคึกคัก ทั้ง ทาสีประตูทางเข้ามหาวิทยาลัย , ทาสีขอบทางเท้า และเตรียมพื้นที่ปลูกหญ้ารอบบริเวณโรงแรมล้านช้างเพื่อความสวยงามซึ่งการปลูกหญ้าแล้วเสร็จไปกว่า 80 % แล้ว พร้อมติดตั้งป้ายข้อความยินดีต้อนรับ น.ส.ยิงลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรี หลากหลายขนาด ทั่วบริเวณมหาวิทยาลัยราชภัฎสุรินทร์ ด้วย
รศ.ดร.สารภี วรรณตรง คณบดีคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ รักษาราชการแทนอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์ เปิดเผยว่า โรงแรมล้านช้าง มหาวิทยาลัยราชภัฎสุรินทร์ เป็นสถานที่สำคัญในการประชุมคณะรัฐมนตรีในครั้งนี้ โดยในขณะนี้ได้เร่งติดตั้งระบบการประชุมในห้องประชุมครม. ทั้งหมดแล้ว ทั้ง เครื่องคอมพิวเตอร์ , เครื่องเสียง ,อุปกรณ์การสื่อสารต่างๆ ,การจัดรูปแบบห้องประชุม , ห้องแถลงข่าว , ห้องรับรองต่างๆ และ การตั้งศูนย์ press center ให้กับสื่อมวลชนทุกแขนงที่จะมาติดตามทำข่าวการประชุม ครม. สัญจรในครั้งนี้เป็นจำนวนมาก
"นอกจากนี้ยังได้ประสานกับทางองค์การโทรศัพท์ และ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ในการเตรียมความพร้อมด้านระบบการสื่อสารและระบบไฟฟ้าในสถานที่ประชุมครม.สัญจร รวมถึงฝ่ายอำนวยความสะดวกอื่นๆ เพื่อไม่ให้เกิดความผิดพลาดขึ้น ซึ่งทางมหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์เองได้เร่งดำเนินการทุกด้านให้พร้อมที่สุดแล้วในขณะนี้" รศ.ดร.สารภี กล่าว
ทางด้านนายนิรันดร์ กัลยาณมิตร ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ เปิดเผยว่า ได้แต่งตั้งคณะทำงานฝ่ายต่างๆ เพื่อเตรียมความพร้อมในการประชุมครม.สัญจร พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกในด้านต่าง ๆและได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่ไว้อย่างเพียงพอ ทั้งตำรวจ ทหาร อาสาสมัคร ในการดูแลความปลอดภัยส่วนต่าง ๆ ทั้งสถานที่จัดประชุม ครม.และสถานที่จุดลงพื้นที่ตรวจติดตามการแก้ไขปัญหาของนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรี เช่น ที่ศูนย์คชศึกษาหมู่บ้านช้าง บ้านตากลาง ต.กระโพ อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์
ทั้งนี้ จังหวัดสุรินทร์ได้เตรียมเสนอโครงการตามยุทธศาสตร์ของจังหวัด เพื่อเสนอขอรับการสนับสนุนงบประมาณในกรอบวงเงิน รวมทั้งสิ้น 104 ล้านบาท จำนวน 10 โครงการ
“การจัดประชุมครม.สัญจรนอกสถานที่ จ.สุรินทร์ในครั้งนี้จะมีคณะรัฐมนตรี ผู้บริหารระดับสูงและเจ้าหน้าที่จากกระทรวงต่างๆ เดินทางมาในพื้นที่เป็นจำนวนมากจึงขอให้ภาครัฐ ภาคเอกชนและประชาชนชาวสุรินทร์มีส่วนร่วมในการเป็นเจ้าภาพที่ดีในครั้งนี้ และได้สั่งการไปยังทุกส่วนราชการให้เตรียมความพร้อมในการรับการประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจรนี้อย่างดีที่สุด” นายนิรันดร์ กล่าว
สำหรับร่างกำหนดการเดินทางของนายกรัฐมนตรีและคณะ ในการประชุม ครม.สัญจรที่ จ.สุรินทร์ ล่าสุดมีกำหนดดังนี้ วันที่ 29 ก.ค.55 ช่วงเวลา14.00 - 15.30 น. นายกรัฐมนตรีและคณะ ประกอบภารกิจที่จังหวัดร้อยเอ็ด เยี่ยมชมโรงสี สกต. ร้อยเอ็ด และ มอบสินเชื่อเกษตรกร จากนั้นเวลา 17.00 น. เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชน(กรอ.) ณ ห้องรัตนสุวรรณ โรงแรมทองธารินทร์ อ.เมือง จ. สุรินทร์ และ เวลา 18.30 น. ประธานการประชุมร่วมกับคณะผู้ว่าราชการจังหวัดอีสานตอนล่าง 8 จังหวัด ณ ห้องรัตนอัมรินทร์ โรงแรมทองธารินทร์ อ.เมือง จ. สุรินทร์
ส่วนวันที่ 30 ก.ค.55 เวลา 07.00น. เป็นประธานทำบุญตักบาตรบนหลังช้างหนึ่งเดียวในโลก ณ บริเวณอนุสาวรีย์พระยาสุรินทรภักดีศรีณรงค์จางวาง จากนั้น เวลา 09.00 น. เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี ณ โรงแรมลานช้าง มหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์ อ.เมือง จ.สุรินทร์ และเวลา 13.50 น. เดินทางเพื่อตรวจเยี่ยมชมศูนย์คชศึกษา อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ ชมการสาธิตเซ่นศาลปะกำ ชมพิพิธภัณฑ์ช้าง และ ชมการแสดงช้าง
รายงานข่าวแจ้งว่า คราวที่พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทาง “ทัวร์นกขมิ้น”ในพื้นที่อีสานตอนล่างก็เคยขี้ช้างเช่นเดียวกันโดยนายเนวิน ชิดชอน รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ขณะนั้นจัดให้ร่วมขบวน โดยมีการวิพากษ์วิจารณ์กันว่า เป็นการแก้เคล็ดทางการเมือง ขณะที่ครั้งนี้ก็มีการวิพาษ์วิจารณ์เช่นเดียว กันว่า การที่จังหวัดสุรินทร์ จัดให้น.ส.ยิ่งลักษณ์เป็นประธานทำบุญตักบาตรบนหลังช้างหนึ่งเดียวในโลก ณ บริเวณอนุสาวรีย์พระยาสุรินทรภักดีศรีณรงค์จางวาง ก็น่าจะเป็นแก้เคล็ดเช่นเดียวกัน
ที่โรงแรมล้านช้าง มหาวิทยาลัยราชภัฎสุรินทร์ ซึ่งเป็นโรงแรมที่เพิ่งก่อสร้างแล้วเสร็จและถูกกำหนดให้เป็นสถานที่ประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจรครั้งนี้ พบว่า ได้มีการระดมกำลังเจ้าหน้าที่ คนงาน รวมทั้งนักศึกษา มาช่วยกันเร่งเตรียมพร้อมสถานที่กันอย่างคึกคัก ทั้ง ทาสีประตูทางเข้ามหาวิทยาลัย , ทาสีขอบทางเท้า และเตรียมพื้นที่ปลูกหญ้ารอบบริเวณโรงแรมล้านช้างเพื่อความสวยงามซึ่งการปลูกหญ้าแล้วเสร็จไปกว่า 80 % แล้ว พร้อมติดตั้งป้ายข้อความยินดีต้อนรับ น.ส.ยิงลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรี หลากหลายขนาด ทั่วบริเวณมหาวิทยาลัยราชภัฎสุรินทร์ ด้วย
รศ.ดร.สารภี วรรณตรง คณบดีคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ รักษาราชการแทนอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์ เปิดเผยว่า โรงแรมล้านช้าง มหาวิทยาลัยราชภัฎสุรินทร์ เป็นสถานที่สำคัญในการประชุมคณะรัฐมนตรีในครั้งนี้ โดยในขณะนี้ได้เร่งติดตั้งระบบการประชุมในห้องประชุมครม. ทั้งหมดแล้ว ทั้ง เครื่องคอมพิวเตอร์ , เครื่องเสียง ,อุปกรณ์การสื่อสารต่างๆ ,การจัดรูปแบบห้องประชุม , ห้องแถลงข่าว , ห้องรับรองต่างๆ และ การตั้งศูนย์ press center ให้กับสื่อมวลชนทุกแขนงที่จะมาติดตามทำข่าวการประชุม ครม. สัญจรในครั้งนี้เป็นจำนวนมาก
"นอกจากนี้ยังได้ประสานกับทางองค์การโทรศัพท์ และ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ในการเตรียมความพร้อมด้านระบบการสื่อสารและระบบไฟฟ้าในสถานที่ประชุมครม.สัญจร รวมถึงฝ่ายอำนวยความสะดวกอื่นๆ เพื่อไม่ให้เกิดความผิดพลาดขึ้น ซึ่งทางมหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์เองได้เร่งดำเนินการทุกด้านให้พร้อมที่สุดแล้วในขณะนี้" รศ.ดร.สารภี กล่าว
ทางด้านนายนิรันดร์ กัลยาณมิตร ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ เปิดเผยว่า ได้แต่งตั้งคณะทำงานฝ่ายต่างๆ เพื่อเตรียมความพร้อมในการประชุมครม.สัญจร พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกในด้านต่าง ๆและได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่ไว้อย่างเพียงพอ ทั้งตำรวจ ทหาร อาสาสมัคร ในการดูแลความปลอดภัยส่วนต่าง ๆ ทั้งสถานที่จัดประชุม ครม.และสถานที่จุดลงพื้นที่ตรวจติดตามการแก้ไขปัญหาของนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรี เช่น ที่ศูนย์คชศึกษาหมู่บ้านช้าง บ้านตากลาง ต.กระโพ อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์
ทั้งนี้ จังหวัดสุรินทร์ได้เตรียมเสนอโครงการตามยุทธศาสตร์ของจังหวัด เพื่อเสนอขอรับการสนับสนุนงบประมาณในกรอบวงเงิน รวมทั้งสิ้น 104 ล้านบาท จำนวน 10 โครงการ
“การจัดประชุมครม.สัญจรนอกสถานที่ จ.สุรินทร์ในครั้งนี้จะมีคณะรัฐมนตรี ผู้บริหารระดับสูงและเจ้าหน้าที่จากกระทรวงต่างๆ เดินทางมาในพื้นที่เป็นจำนวนมากจึงขอให้ภาครัฐ ภาคเอกชนและประชาชนชาวสุรินทร์มีส่วนร่วมในการเป็นเจ้าภาพที่ดีในครั้งนี้ และได้สั่งการไปยังทุกส่วนราชการให้เตรียมความพร้อมในการรับการประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจรนี้อย่างดีที่สุด” นายนิรันดร์ กล่าว
สำหรับร่างกำหนดการเดินทางของนายกรัฐมนตรีและคณะ ในการประชุม ครม.สัญจรที่ จ.สุรินทร์ ล่าสุดมีกำหนดดังนี้ วันที่ 29 ก.ค.55 ช่วงเวลา14.00 - 15.30 น. นายกรัฐมนตรีและคณะ ประกอบภารกิจที่จังหวัดร้อยเอ็ด เยี่ยมชมโรงสี สกต. ร้อยเอ็ด และ มอบสินเชื่อเกษตรกร จากนั้นเวลา 17.00 น. เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชน(กรอ.) ณ ห้องรัตนสุวรรณ โรงแรมทองธารินทร์ อ.เมือง จ. สุรินทร์ และ เวลา 18.30 น. ประธานการประชุมร่วมกับคณะผู้ว่าราชการจังหวัดอีสานตอนล่าง 8 จังหวัด ณ ห้องรัตนอัมรินทร์ โรงแรมทองธารินทร์ อ.เมือง จ. สุรินทร์
ส่วนวันที่ 30 ก.ค.55 เวลา 07.00น. เป็นประธานทำบุญตักบาตรบนหลังช้างหนึ่งเดียวในโลก ณ บริเวณอนุสาวรีย์พระยาสุรินทรภักดีศรีณรงค์จางวาง จากนั้น เวลา 09.00 น. เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี ณ โรงแรมลานช้าง มหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์ อ.เมือง จ.สุรินทร์ และเวลา 13.50 น. เดินทางเพื่อตรวจเยี่ยมชมศูนย์คชศึกษา อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ ชมการสาธิตเซ่นศาลปะกำ ชมพิพิธภัณฑ์ช้าง และ ชมการแสดงช้าง
รายงานข่าวแจ้งว่า คราวที่พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทาง “ทัวร์นกขมิ้น”ในพื้นที่อีสานตอนล่างก็เคยขี้ช้างเช่นเดียวกันโดยนายเนวิน ชิดชอน รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ขณะนั้นจัดให้ร่วมขบวน โดยมีการวิพากษ์วิจารณ์กันว่า เป็นการแก้เคล็ดทางการเมือง ขณะที่ครั้งนี้ก็มีการวิพาษ์วิจารณ์เช่นเดียว กันว่า การที่จังหวัดสุรินทร์ จัดให้น.ส.ยิ่งลักษณ์เป็นประธานทำบุญตักบาตรบนหลังช้างหนึ่งเดียวในโลก ณ บริเวณอนุสาวรีย์พระยาสุรินทรภักดีศรีณรงค์จางวาง ก็น่าจะเป็นแก้เคล็ดเช่นเดียวกัน