“ร.ต.ท.ดวง” เผยเดินเรื่องย้ายจากทหารเป็น ตร.เอง ปัดไม่เกี่ยวพ่อ อ้างจบโท กม.เป็น ตร.ถนัดกว่า รับไม่อยากพูดมาก เกรงผู้บัญชาการ ยันไม่ชอบ และไม่คิดเป็นนักการเมือง ด้าน “เฉลิม” เผย ลูกชายไม่ได้บอก ชี้ เป็นคนยิงปืนแม่นถึง 100% เหมาะเป็นครูฝึก ปัดเอามาทำงานด้วย อ้างกลัวฟ้องเมียหนีเที่ยวไม่ได้
วันนี้ (27 ก.ค.) ร.ต.ท.ดวง อยู่บำรุง เปิดเผยว่า การโยกย้ายจากข้าราชการทหารมาเป็นข้าราชการตำรวจ ไม่เกี่ยวกับ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ผู้เป็นบิดา ตนเองเดินเรื่องเองทั้งนั้น และไม่ใช่ว่างานราชการทหารไม่ดี แต่ในฐานะที่จบกฎหมาย และตอนนี้จบปริญญาโทแล้ว คิดว่า ตนเองน่าจะทำงานสายตำรวจได้ถนัด และเป็นประโยชน์มากกว่า และไม่อยากให้สัมภาษณ์อะไรมาก เพราะตนเองมีผู้บังคับบัญชา เป็นผู้ใต้บังคับบัญชาพูดอะไรต้องได้รับการอนุญาต เดี๋ยวจะเป็นปัญหา “อย่าให้ผมพูดอะไรเลยนะ”
พร้อมกันนี้ ร.ต.ท.ดวง กล่าวด้วยว่า ในชีวิตตนเองไม่คิดอยากเป็นนักการเมือง เพราะสัมผัสการเมืองมาตั้งแต่เด็ก เห็นแล้วมันวุ่นวาย ไม่ชอบเลย ตำแหน่งทางการเมืองมาแล้วไป เป็นอะไรที่ไม่ชอบเลยและไม่รู้เลยว่าสถานการณ์บ้านเมืองที่วุ่นวายในวันนี้จะจบลงอย่างไร
ด้าน ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ว่า ร.ต.ท.ดวง ไม่เคยบอกตนเพราะอายุมากแล้ว และตนไม่คอยเจอเขา เพราะเขาไม่ค่อยกลับบ้าน ตอนนี้ตนยังไม่เห็นคำสั่ง ส่วนที่มีการบอกว่ามีการใช้เส้นสายในการโอนย้ายสังกัด ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ไม่ใช่ แต่เพราะเขายิงปืนแม่น เขาไม่ได้ย้ายไปอยู่โรงพักหรือหน่วยสืบ ถ้าเขาจะมาก็เป็นครูฝึกยิงปืนแล้วจะต้องไปใช้เส้นอะไร แต่ตนยังไม่ทราบว่าเขาจะมาจริงหรือไม่ และหากคิดว่า ทาง ผบช.น.จะเกรงใจตนก็ต้องส่งไปอยู่โรงพักพลับพลาไชย ทองหล่อ มักกะสัน มาเป็นครูฝึกยิงปืนทำไม แล้วมาเป็นครูฝึกมีแต่ตนจะเสียเงินให้ลูกชายมากขึ้น แต่ต้องยอมรับว่า เขาเก่งยิงปืนมากจริงๆ เขามีประกาศนียบัตร 16 ฉบับ ถ้าเป็นครูฝึกก็เหมาะ แล้วทางตำรวจต้องให้เงินลูกชายตน เพราะหาคนมาฝึกยิงปืนยาก คนยิงปืนแม่นมีน้อย เขายิงปืนได้ 100% ตนยิงได้แค่ 98% ประเทศไทยมีไม่กี่คนที่ยิงได้ครบ 100%
ส่วนการดึงมาช่วยงานนั้น ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า คงไม่เอาหรอก เพราะเดี๋ยวจะไปฟ้องแม่เขา ตนก็ไปเที่ยวไหนไม่ได้ และจะให้ตนไปเที่ยวกับลูกคงไม่ได้เพราะคนละวัย ที่สำคัญ เขาไม่ได้มาเป็นลูกน้องตนแต่เป็นลูกน้อง ผบ.ตร.