xs
xsm
sm
md
lg

“หญิงหน่อย” รับสนชิงผู้ว่าฯ กทม. แต่ขอบูรณะลุมพินีฯ ก่อน แย้มเป็นกุนซือให้แทน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย (แฟ้มภาพ)
ปธ.มูลนิธิไทยพึ่งไทย บรรยายบทบาทผู้หญิงกับการเมืองไทย ชี้สังคมยอมรับบทบาทมากขึ้น แต่ทางการเมืองยังยากกว่าชาย ชี้ถ้าเอาข้อดีและเสียรวมกันจะเป็นพลังพัฒนาชาติ โวยโดนใส่ร้ายชู้สาว รับสนใจชิงผู้ว่าฯ กทม. แต่ขอบูรณะลุมพินีสถานให้เสร็จก่อนกลับมาสู่สนามเลือกตั้ง ลั่นพร้อมเป็นกุนซือให้

วันนี้ (27 ก.ค.) ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ในการฝึกอบรมหลักสูตรการพัฒนาการเมืองและการเลือกตั้งระดับสูง รุ่นที่ 3 ของสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานมูลนิธิไทยพึ่งไทย และอดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย กล่าวบรรยายในหัวข้อ “บทบาทของผู้หญิงกับการเมืองไทย” ตอนหนึ่งระบุว่า สังคมไทยในวันนี้ได้ยอมรับบทบาทของผู้หญิงมากขึ้นกว่าในอดีตที่ผ่านมา แต่หากดูทางด้านการเมือง ผู้หญิงยังได้รับการยอมรับยากกว่าผู้ชาย ทั้งที่ในวันนี้ประเทศเรากำลังได้รับโอกาสที่จะก้าวสู่ประชาคมอาเซียน ถือเป็นโอกาสที่ยิ่งใหญ่ โดยตนคิดว่าผู้หญิงกับผู้ชายมีข้อดี-ข้อเสียต่างกัน ไม่เคยคิดว่าหญิงเก่งกว่าชาย หรือชายเก่งกว่าหญิง ซึ่งหากเรานำข้อดีของหญิงและชายมารวมกันและร่วมกันทำงานก็จะเป็นพลังในการพัฒนาประเทศ แต่ทั้งนี้ที่ผ่านมาผู้หญิงเมื่อเข้าสู่การเมืองก็จะถูกใส่ร้ายป้ายสีในเรื่องชู้สาว ขณะที่ผู้ชายก็โดนเรื่องของทุจริตมากกว่า ซึ่งตนเองที่ผ่านมาก็โดนวิธีการนี้เล่นงานค่อนข้างมาก กระทบถึงลูกทั้งที่เป็นเรื่องไม่ควรและไม่เป็นธรรมกับลูกของตน แต่ก็มีข้อดีว่าทำให้ตนสามารถนำไปสอนว่าลูกก็จะได้มีความเข้มแข็งขึ้น แต่ก็ผู้หญิงอีกหลายคนที่เข้ามาทำการเมืองถูกเล่นงานเรื่องนี้แล้วขยาดไม่อยากยุ่งเกี่ยวอีก ดังนั้นจึงอยากเห็นใจผู้หญิง ซึ่งก็เท่ากับเป็นการไม่ปิดโอกาสให้ผู้หญิงเข้าสู่การเมือง

ทั้งนี้ คุณหญิงสุดารัตน์ยังได้กล่าวตอบคำถามของนักศึกษาในหลักสูตรกรณีมีข่าวว่าสนใจที่จะลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครว่า ขณะนี้ตนกำลังทำโครงการบูรณะลุมพินีสถาน ซึ่งเป็นที่ประสูติของพระพุทธเจ้าที่ประเทศเนปาล ก็คิดว่าถ้าเข้าการเมืองตอนนี้ แล้วโครงการนี้ยังไม่เสร็จจะโดนนำมาเล่นงานกลับแน่ๆ รวมถึงมองว่า ส.ส.ก็เป็นมาหลายสมัยแล้วตั้งแต่ปี 2535 รัฐมนตรีก็เป็นมาแล้ว ตอนขอทำงานบุญให้เสร็จก่อนแล้วค่อยว่ากัน ซึ่งตามโครงการนั้นตั้งเป้าไว้ว่าจะให้เสร็จปีนี้ แต่ติดขัดหลายอย่าง ทำให้ยังไม่แน่ใจว่าจะแล้วเสร็จเมื่อใด

“ดิฉันอยากเห็นบ้านเมืองเดินไปข้างหน้าได้ เพราะเวลานี้บ้านเมืองเราติดหล่มอยู่ อยากให้กลุ่มที่มีความคิดเห็นที่แตกต่างจากรัฐบาลมานั่งคุยกันหาทางออกเพื่อให้เราหลุดจากหล่มที่ติดอยู่ ส่วน กทม.ก็อยากเห็นการพัฒนาที่ยั่งยืน ดิฉันเพิ่งกลับมาจากดูงานที่ออสเตรเลีย และ เซี่ยงไฮ้ รู้เลยว่าความสุขและคุณภาพชีวิตของคนสำคัญกว่าการพัฒนาวัตถุ ซึ่งงาน กทม.เป็นงานที่น่าทำ มีงานอีกจำนวนที่ยังไม่ได้ทำ ถามว่าสนใจงานผู้ว่าฯ กทม.ไหม ก็ตอบได้เลยว่าสนใจ แต่อย่างที่บอกตัวเองติดภารกิจ และไม่อยากเอาเรื่องทำบุญไปเกี่ยวข้องกับการเมือง ถ้าโครงการนี้ยังไม่เสร็จ ก็ยังไม่อยากจะไปทำอย่างอื่น รวมถึงงานผู้ว่าฯ กทม. ไม่จำเป็นที่เราต้องไปเป็นผู้สมัคร มีคนรุ่นใหม่ที่มีความรู้ ความสามารถจำนวนมากที่สนใจซึ่งดิฉันก็พร้อมสนับสนุน ได้กลับไปดูนโยบายที่ได้หาเสียงไว้สมัยลงสมัครผู้ว่าฯ กทม.ครั้งก่อน ไม่ล้าสมัย มีหลายอย่างที่ยังไม่ได้ทำ ดังนั้นถ้าใครสนใจสมัคร และสนใจที่จะเอาดิฉันไปใช้ก็ยินดี” คุณหญิงสุดารัตน์กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น