โฆษกกลาโหมเผยที่ประชุมกลาโหมให้การสนับสนุนโครงการปลูกป่า 800 ล้านกล้า 80 พรรษา มหาราชินี ผ่านสื่อในกองทัพ เข้าร่วมกับ กทม.ดำเนินงานโครงข่ายจราจรรอบบริเวณโรงพยาบาลศิริราช เห็นชอบร่างฯ แผนรับประชาคมอาเซียน 58 สั่ง ผบ.เหล่าทัพทำแผนงาน-งบปี 56-58 เสนอ ก.ย.นี้
วันนี้ (26 ก.ค.) พ.อ.ธนาธิป สว่างแสง โฆษกกระทรวงกลาโหม แถลงผลการประชุมสภากลาโหมที่มี พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.กลาโหม เป็นประธานว่า รมว.กลาโหมขอให้หน่วยขึ้นตรงกระทรวงกลาโหมและเหล่าทัพให้การสนับสนุนโครงการปลูกป่า 800 ล้านกล้า 80 พรรษามหาราชินี เฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา 12 สิงหาคมนี้ โดยใช้สื่อที่อยู่ในความดูแล เผยแพร่ประชาสัมพันธ์ เพื่อให้ทุกภาคส่วนตลอดจนประชาชนทั่วไปได้รับทราบในการอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้ พร้อมทั้งน้อมนำแนวพระราชดำริมาใช้เป็นแนวทาง ซึ่งสิ่งสำคัญของแนวทางพระราชดำริ ต้องการเน้นให้ประชาชนมีส่วนร่วม มีความรัก และหวงแหนในผืนป่าของแผ่นดิน
ขณะเดียวกัน รมว.กลาโหมมอบหมายให้กองบัญชาการกองทัพไทย โดยหน่วยบัญชาการทหารพัฒนา ให้การสนับสนุนและเข้าร่วมกับกรุงเทพมหานคร ในการดำเนินงานโครงข่ายจราจรรอบบริเวณโรงพยาบาลศิริราช เพื่อเป็นการบรรเทาปัญหาจราจร ตามแนวทางพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทั้งนี้ เพื่อให้โครงการดังกล่าวดำเนินการเป็นไปด้วยความเรียบร้อยและแล้วเสร็จโดยเร็ว
อย่างไรก็ตาม ในโอกาสที่ประเทศไทยจะเข้าสู่การเป็นประชาคมอาเซียนในปี 2558 กระทรวงกลาโหมซึ่งเป็นหน่วยงานหลักด้านความมั่นคงของประเทศจึงต้องมีการปรับเปลี่ยนบทบาทและท่าทีให้สามารถรองรับการเข้าสู่การเป็นประชาคมอาเซียนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ สมาชิกสภากลาโหมได้ให้ความเห็นชอบร่างแนวทางปฏิบัติของกระทรวงกลาโหมในการรองรับการจัดตั้งประชาคมอาเซียนในปี 2558 โดยมีแนวทางการปฏิบัติฯ ประกอบด้วย 3 ด้าน ได้แก่ 1. ด้านกำลังพล การฝึกศึกษา การใช้ภาษาอังกฤษและภาษาของชาติในอาเซียน การพัฒนารูปแบบการฝึกร่วมผสม การปรับปรุงหลักสูตรโรงเรียนเสนาธิการเหล่าทัพ เพื่อรองรับต่างชาติได้มากขึ้น 2. ด้านการจัดทำงบประมาณ ปรับปรุงแผนปฏิบัติราชการ 4 ปี (2555-2558) ปรับปรุงแผนปฏิบัติราชการประจำปี
3. ด้านการพัฒนาการบริหารจัดการ บูรณาการกิจกรรมต่างๆ ของอาเซียน เช่น การประชุมผู้บัญชาการทหารสูงสุดอาเซียน อย่างไม่เป็นทางการ, การประชุมผู้บัญชาการเหล่าทัพอาเซียนดำเนินการต่อผลการประชุม ADMM และ ADMM-Plus ทั้ง 9 ฉบับ ให้เป็นรูปธรรมจัดตั้งกลไกการขับเคลื่อนความร่วมมือในกรอบอาเซียน กฎ ระเบียบ ที่ล้าสมัยของเหล่าทัพให้ทันสมัย ปรับปรุงแผนป้องกันประเทศและภารกิจกองกำลังป้องกันชายแดน ให้สอดคล้องกับการเป็นประชาคมอาเซียนด้วยการเตรียมความพร้อมของหน่วย, ยุทโธปกรณ์, บุคลากร ให้มีความเป็นสากล โดย รมว.กลาโหม ขอให้หัวหน้าหน่วยขึ้นตรงกระทรวงกลาโหมและผู้บัญชาการเหล่าทัพ ได้ถือเป็นเรื่องสำคัญและจัดทำแผนงาน โครงการ และงบประมาณประจำปี 2556-58 ให้แล้วเสร็จภายในเดือนกันยายนนี้ เพื่อให้กระทรวงกลาโหม สามารถส่งข้อมูลให้กับคณะกรรมการอาเซียนแห่งชาติต่อไป