พบประกาศล้อมกรอบ “มติชน-ข่าวสด” ขอขมา “หมอวิชัย” ในหนังสือพิมพ์มติชนกรอบต่างจังหวัด ยอมรับและเสียใจที่ลงข่าวโจมตีทำเสียหาย ถูกดูหมิ่นเกลียดชัง กระทั่งเจ้าตัวสุดทนฟ้องร้องต่อศาลอาญากรุงเทพใต้
วันนี้ (24 ก.ค.) มีรายงานว่า หนังสือพิมพ์มติชนได้ตีพิมพ์ประกาศ ความว่า ตามที่คณะกรรมการสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติมีมติแต่งตั้งคณะอนุกรรมการเฉพาะเรื่อง ตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีการส่งอีเมลของนักการเมืองระบุการให้เงินและผลประโยชน์แก่ประกอบวิชาชีพสื่อมวลชน 5 คน ต่อมาคณะอนุกรรมการดังกล่าวได้ทำการสอบสวนข้อเท็จจริงเสร็จแล้วเสนอรายงานการสอบสวนต่อคณะกรรมการสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ เมื่อวันที่ 17 สิงหาคม 2554
โดยคณะอนุกรรมการได้สรุปว่า การนำเสนอข่าวสารและบทความในช่วงการหาเสียงเลือกตั้งของหนังสือพิมพ์ที่ถูกพาดพิงบางฉบับ โดยเฉพาะข่าวสด มติชน มีความเอนเอียงก่อให้เกิดประโยชน์แก่พรรคการเมืองหนึ่ง ซึ่งหนังสือพิมพ์มติชนและข่าวสดเห็นว่าตนเองเสียหาย จึงได้ออกแถลงการณ์ตอบโต้และเสนอข่าวต่อเนื่องที่อาจทำให้นายแพทย์วิชัย โชควิวัฒน เสียหาย ถูกดูหมิ่นเกลียดชัง นายแพทย์วิชัยจึงได้ฟ้องร้องหนังสือพิมพ์มติชน และข่าวสด เป็นคดีที่ศาลอาญากรุงเทพใต้
บัดนี้ หนังสือพิมพ์มติชน และข่าวสด ได้ทำความเข้าใจกับนายแพทย์วิชัย โชควิวัฒน แล้ว หากแถลงการณ์และการเสนอข่าว ของมติชนและข่าวสดทำให้นายแพทย์วิชัย โชควิวัฒน ได้รับความเสียหาย หนังสือพิมพ์มติชน และข่าวสด ขอแสดงความเสียใจและขออภัยมา ณ โอกาสนี้ จึงประกาศมาให้ทราบโดยทั่วกัน ลงชื่อ หนังสือพิมพ์มติชน และข่าวสด
มีรายงานว่า ประกาศดังกล่าวได้มีผู้พบเห็นขณะอ่านหนังสือพิมพ์ระหว่างรับประทานอาหารในร้านแห่งหนึ่งที่ จ.นครราชสีมา และได้ถ่ายภาพเอาไว้ก่อนที่จะโพสต์ลงในเฟซบุ๊กส่วนตัวในวันนี้ (24 ก.ค.) เมื่อผู้สื่อข่าวสอบถามผู้ที่พบเห็นเพิ่มเติม พบว่าเป็นฉบับลงวันพุธที่ 25 ก.ค. 2555 (ฉบับ 1 ดาว) หน้า 15 ตำแหน่งมุมขวาล่าง ซึ่งเป็นหนังสือพิมพ์กรอบต่างจังหวัดและลงวันที่ล่วงหน้า
สำหรับกรณีพิพาทระหว่างนายแพทย์วิชัย กับหนังสือพิมพ์เครือมติชนและข่าวสด เกิดขึ้นเมื่อเดือนสิงหาคม 2554 เมื่อสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ ได้แถลงข่าวผลการสอบข้อเท็จจริงกรณีการส่งจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ (อีเมล) ของนักการเมือง ระบุการให้เงินและผลประโยชน์แก่ผู้ประกอบวิชาชีพสื่อมวลชน โดยมี นพ.วิชัย ที่แต่งตั้งเป็นประธานคณะอนุกรรมการเฉพาะเรื่องตรวจสอบข้อเท็จจริงฯ เป็นผู้แถลงข่าวความคืบหน้า ซึ่งในรายงานนอกจากอีเมล์ดังกล่าว เป็นของนายวิม รุ่งวัฒนะจินดา รองโฆษกพรรคเพื่อไทย และเชื่อได้ว่า นายวิมจะเป็นผู้เขียนข้อความในอีเมลเองแล้ว ยังพบว่าหนังสือพิมพ์บางฉบับมีการนำเสนอข่าวช่วงเลือกตั้งมีการเอนเอียงเป็นประโยชน์พรรคเพื่อไทย แต่มีข้อจำกัดการเข้าถึงพยานหลักฐาน สร้างความไม่พอใจให้กับเครือมติชน ซึ่งเป็นเจ้าของหนังสือพิมพ์มติชน ข่าวสด และประชาชาติธุรกิจ
ทั้งนี้ หนังสือพิมพ์เครือมติชน-ข่าวสด ได้ออกแถลงการณ์คัดค้านรายงานของคณะอนุกรรมการฯ ชุดดังกล่าว โดยเห็นว่าดำเนินการตรวจสอบนอกเหนือไปจากขอบเขตที่ได้รับมอบหมาย และไม่เรียกหรือสอบถามข้อเท็จจริงจากองค์กรสื่อที่พาดพิงไปถึง ทั้งๆ ที่คณะอนุกรรมการฯ ได้พยายามติดต่อเพื่อขอความร่วมมือจากผู้ที่ถูกพาดพิงผ่านองค์กรหนังสือพิมพ์ต่างๆ แต่เครือมติชนกลับไม่ปรากฏว่ามีผู้ใดมาให้ข้อเท็จจริง นอกจากนี้ เครือมติชนยังนำข้อมูลของ นพ.วิชัย ซึ่งเป็นข้อมูลเก่าที่ปรากฏเป็นข่าวมาตั้งแต่ปี 2552 มาใช้ในการลดความน่าเชื่อถือของประธานคณะอนุกรรมการฯ กระทั่งคณะอนุกรรมการฯ ต้องออกหนังสือคำชี้แจง
กระทั่งเมื่อวันที่ 7 กันยายน 2554 หนังสือพิมพ์มติชน ข่าวสด และประชาชาติธุรกิจ ได้แจ้งลาออกจากการเป็นภาคีสมาชิกสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ โดยอ้างว่าสภาการหนังสือพิมพ์ฯ ถูกบิดเบือนด้วยอิทธิพลการเมืองจากภายนอก และอ้างว่าข้อกล่าวหาดังกล่าวเลื่อนลอยไร้สาระ นอกจากนี้ยังพบว่าในช่วงระยะเวลาดังกล่าว หนังสือพิมพ์ในเครือมติชน อาทิ มติชนรายวัน ข่าวสด ประชาชาติธุรกิจ และมติชนสุดสัปดาห์ได้ใช้พื้นที่สื่อและคอลัมน์ของตนเองอธิบายถึงความเป็นกลางของตนเอง พร้อมกับโจมตีสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ ถึงขนาดนำมาขึ้นปกนิตยสารมติชนสุดสัปดาห์ ในลักษณะทวงถามจรรยาบรรณสภาการหนังสือพิมพ์ฯ