โฆษกสำนักนายกฯ แถลง “ยิ่งลักษณ์” ห่วงมือเท้าปาก สธ.รายงานติดเชื้อ 1.4 หมื่นราย น้อยสุดในอาเซียน คาดระบาดอีก 6 สัปดาห์ ปัดพบกลายพันธุ์ ส่วนเด็ก 2 ขวบเสียชีวิตยังรอคำวินิจฉัย-เผยนายกฯ ไปเยอรมนีและฝรั่งเศสถกเรื่องการลงทุน เน้นด้านพลังงาน พร้อมให้กำลังทั้งสองประเทศที่ประสบปัญหายูโรโซน ทั้งนี้ยังเผยถึงความร่วมมือท่าเรือนำลึกทวายกับพม่า-ด้าน “ปลอดประสพ” เชื่อพายุวีเซนเต ไม่กระทบไทย นายกฯ สั่งสอบระบบเตือนภัย-ครม.อนุมัติ แก้ ม.140 พ.ร.บ.จราจร เพื่อส่งใบสั่งไปยังผู้ครอบครองรถ หากพบการกระทำผิดแต่ไม่ทราบตัวผู้ขับขี่
วันนี้ (24 ก.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.ศันสนีย์ นาคพงศ์ โฆษกประจำสำนักนายกฯ แถลงผลการประชุม ครม.ว่า ก่อนเข้าสู่วาระการประชุม น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกฯ ได้แสดงความห่วงใยต่อสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคมือเท้าปาก ซึ่งล่าสุดมีเด็ก 2 ขวบเสียชีวิตที่โรงพยาบาลนพรัตน์ราชธานี โดยรับทราบรายงานจากนายวิทยา บุรณศิริ รมว.สาธารณสุข ว่ากระทรวงสาธารณสุขได้ดูแลสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ล่าสุดมีจำนวนผู้ป่วย 1.4 หมื่นราย ซึ่งถือว่าน้อยที่สุดในภูมิภาคอาเซียน เพราะประเทศเวียดนามมีผู้ป่วย 6.3 หมื่นราย ประเทศสิงคโปร์ 2.6 หมื่นราย และสาธารณรัฐประชาชนจีน 1.2 ล้านราย ส่วนกรณีการเสียชีวิตของเด็ก 2 ขวบนั้นขณะนี้กำลังรอการวินิจฉัยจากผู้เชี่ยวชาญ ทั้งนี้ สำนักระบาดวิทยาและกรมควบคุมโรคยังไม่พบการกลายพันธุ์ที่ทำให้เกิดความรุนแรงเป็นวงกว้าง อย่างไรก็ตาม คาดว่าโรค มือ เท้า ปาก ในประเทศไทยจะระบาดต่อไปอีกประมาณ 6 สัปดาห์ ขณะเดียวกัน นายกฯ ได้ฝากให้กระทรวงสาธารณสุขเข้าไปดูแลครอบครัวของเด็ก 2 ขวบที่เสียชีวิตเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดในครอบครัวด้วย
โฆษกประจำสำนักนายกฯ ยังแถลงต่อว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ได้แจ้งต่อที่ประชุมถึงการเดินทางไปเยือนประเทศเยอรมนี และฝรั่งเศสว่า ได้ใช้โอกาสนี้สร้างความเข้าใจเรื่องข้อมูลข่าวสารที่ไม่ชัดเจน ซึ่งทั้งสองประเทศยินดีต้อนรับรัฐบาลที่มาจากระบอบประชาธิปไตย เคารพหลักนิติรัฐนิติธรรมและสิทธิมนุษยชน ขณะเดียวกันถือเป็นการไปให้กำลังใจทั้งสองประเทศที่กำลังประสบภาวะวิกฤตเศรษฐกิจจากยูโรโซน ขณะเดียวกัน นายกฯ ได้แลกเปลี่ยนความเห็นด้านการลงทุน พร้อมชี้แจงสถานการณ์หลังวิกฤตอุทกภัยว่าไทยพร้อมรับการลงทุนจากต่างประเทศ ซึ่งทั้งสองประเทศให้ความสนใจอุตสาหกรรมอัญมณีที่ใช้ในการสะสม และอุตสาหกรรมสิ่งทอทั้งเสื้อผ้าและเฟอร์นิเจอร์ ซึ่งถือเป็นโอกาสดีของไทย ขณะเดียวกัน นายกฯ ให้ความสนใจเรื่องการใช้พลังงานทดแทนจากธรรมชาติของสองประเทศ จึงมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปดำเนินการจัดประชุมเชิงปฏิบัติการด้านพลังงานธรรมชาติในไทย โดยนำผลผลิตด้านการเกษตรมาแปรรูปเป็นพลังงานด้วย
น.ส.ศันสนีย์กล่าวต่อว่า นายกฯ ยังรายงานให้ที่ประชุมรับทราบกรณีการมาเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการของ พล.อ.เต็ง เส่ง ประธานาธิบดีของสหภาพเมียนมาร์วานนี้ว่า ไทยและเมียนมาร์ได้ร่วมมือกันในการพัฒนาท่าเรือนำลึกทวาย โดยใช้รูปแบบรัฐต่อรัฐหรือ จีทูจี โดยมอบให้สภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ จัดกลุ่มทำงานและวางกรอบภาพรวมก่อนมอบให้แต่ละหน่วยรับผิดชอบ
โฆษกประจำสำนักนายกฯ ยังแถลงต่อว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์เป็นห่วงเรื่องพายุวีเซนเต จึงมอบหมายให้เฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด ซึ่งนายปลอดประสพ สุรัสวดี รมว.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ได้รายงานให้นายกฯ รับทราบว่า พายุวีเซนเตไม่น่าจะส่งผลกระทบให้เกิดน้ำท่วมใหญ่ในไทย เพราะเขื่อนภูมิพลสามารถรับน้ำได้ปริมาณมาก ทั้งนี้ นายกฯ ได้มอบหมายให้กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) ใช้โอกาสนี้ทดสอบระบบเตือนภัยและดำเนินการบูรณาการการทำงานแบบ ซิงเกิ้ลคอมมาน และรายงานผลอย่างเป็นเอกภาพด้วย
นอกจากนี้ คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติหลักการร่าง พ.ร.บ.การจราจรทางบก ฉบับที่... พ.ศ..... หรือการส่งใบสั่งทางไปรษณีย์ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ส่งคณะกรรมการกฤษฎีกาพิจารณา เนื่องจากปัจจุบันผู้ขับขี่กระทำผิดกฎจราจรจำนวนมาก แต่พนักงานจราจรไม่สามรรถออกใบสั่งได้ในขณะนั้น เช่นการฝ่าฝืนสัญญาณจราจร และขับรถเร็วเกินกำหนด จึงเป็นช่องว่างในการฝ่าฝืนและทำให้การบังคับใช้กฎหมายไม่มีประสิทธิภาพ จึงเห็นควรให้แก้ไขมาตรา 140 วรรคหนึ่ง แห่ง พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ. 2522 เพื่อให้อำนาจเจ้าหน้าที่ส่งใบสั่งไปยังภูมิลำเนาของเจ้าของหรือผู้ครอบครองรถได้ในกรณีพบการกระทำผิดแต่ไม่ทราบตัวผู้ขับขี่