xs
xsm
sm
md
lg

“สนธิ” ลั่นยอมไม่ได้ กม.ปรองดองทำลายนิติรัฐ แนะทำประชามติ จี้ “ปู” อย่าปัดสวะ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“สนธิ” ยัน พ.ร.บ.ปรองดองทำลายนิติรัฐ ยอมไม่ได้ แนะทำประชามติคนทั้งชาติ แต่ไม่ใช่โหวตล้างผิดให้ ซัด “ยิ่งลักษณ์” อย่าปัดสวะโบ้ยเป็นเรื่องของสภา นัดแถลงอีกศุกร์นี้ แย้มชุมนุมทันทีเมื่อเปิดสภา และวาระยังค้าง “จำลอง” ระบุไม่ได้ตีตนไปก่อนไข้ “พิภพ” จี้นายกฯ ลอยตัวก็ต้องรับผิด เชื่อชาวอาเซียนเริ่มเคลื่อนไหวเล่น “แม้ว” ขณะพันธมิตรฯ ส่ง “ปานเทพ-ประทีป” ยื่นหนังสือที่ทำเนียบ, สภา แล้ว

 คลิกที่นี่ เพื่อฟัง "นายสนธิ ลิ้มทองกุล แถลงการณ์" 

วันนี้ (24 ก.ค.) ที่บ้านพระอาทิตย์ นายสนธิ ลิ้มทองกุล, พล.ต.จำลอง ศรีเมือง, นายพิภพ ธงไชย, นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ และ นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ร่วมกันแถลงข่าวค้านค้านการเดินหน้า พ.ร.บ.ว่าด้วยการปรองดองแห่งชาติ โดย นายสนธิ กล่าวว่า จุดยืนของพันธมิตรฯ มี 2 เรื่อง คือ 1.หากรัฐทำอะไรที่มีเจตนาดูหมิ่น ล้มล้างสถาบัน และ 2.เรื่องกฎหมายล้มล้างความผิด ทำไมต้องเป็น 2 เรื่องนี้ เพราะการปกป้องสถาบันเป็นส่วนหนึ่งที่จำเป็นต้องดำรงไว้ในสังคมไทย ส่วนเรื่องกฏหมายล้มล้างความผิดก็ถือเป็นการทำลายนิติรัฐ ซึ่งเป็นเรื่องที่ยอมไม่ได้ ทั้งนี้ หากรัฐบาลจะทำประชามติเพื่อแก้รัฐธรรมนูญ แล้วมีการระบุประชามติถึงกฏหมายล้างความผิดก็สามารถทำได้ ซึ่งตนก็พร้อมเคารพเสียงส่วนใหญ่ แต่ไม่ใช่มาใช้มือยกเพื่อล้างความผิด ถ้าใครทำผิดแล้วใช้มือยกลบล้างก็เป็นเรื่องที่ยอมไม่ได้

นายสนธิ กล่าวต่อว่า ส่วนการชุมนุมนั้นก็คงเหมือนครั้งที่ผ่านมา ซึ่งก็อยู่ที่ท่าทีของรัฐบาลว่าจะทำให้การชุมนุมยาวออกไปหรือไม่ ทั้งนี้ ตนไม่ยอมรับที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ชอบพูดว่าเป็นเรื่องของสภา ถือเป็นการโกหก เพราะเสียงข้างมากในสภาก็เป็นของพรรคเพื่อไทย นายกฯ อย่าปัดสวะ ถ้า น.ส.ยิ่งลักษณ์ เห็นด้วยกับการคัดค้านหรือไม่ก็ต้องบอกลูกพรรค โดยพันธมิตรฯ จะทำทุกอย่างเพื่อให้ถอนกฎหมายดังกล่าวออกไป อย่างไรก็ตาม ตนขอให้สื่อมวลชนใช้เวลาวิเคราะห์แล้วจะพบวิกฤติอันมหาศาล ยืนยันว่า พันธมิตรฯ ไม่มีเรื่องส่วนตัวมาเกี่ยวข้อง ที่ทำไปก็เพื่อส่วนรวม เพื่อให้ลูกหลานได้มีที่ยืน พวกท่านอยากให้ลูกหลานโตในสังคมที่มีเงินเป็นพระเจ้า เอาเงินซื้อ ส.ส.ให้ล้างผิดหรือ ขณะที่การสู้ในเรื่องเขาพระวิหารก็ไม่ได้ทำไปเพื่อขอที่ดิน แต่ต่อสู้เพราะทหารไม่ทำหน้าที่ยอมให้กัมพูชามายึดพื้นที่ เราสู้เพื่อให้บรรพบุรุษได้ภูมิใจ และเรื่องนี้ยังโยงไปถึงการปกป้องประโยชน์ด้านพลังงานด้วย จะชอบหรือไม่ชอบก็ไม่เป็นไร แต่ขอให้ใช้สติ เรายอมรับในนิติรัฐ ตนโดนคดีหลักทรัพย์ถูกจำคุก 20 ปี ตนไม่พูดสักคำ แต่คนโกง 100 ล้านศาลกลับพิพากษาให้รอลงอาญา ตนก็ไม่พูดสักคำ ทั้งนี้ในวันที่ 27 นี้ พันธมิตรฯ จะแถลงข่าวอีกครั้งหนึ่ง ขณะที่การชุมนุมจะเกิดขึ้นทันทีเมื่อเปิดประชุมสภานัดแรกและยังมีวาระดังกล่าวคงค้างอยู่

ด้าน พล.ต.จำลอง กล่าวว่า พันธมิตรฯ คัดค้านร่างกฏหมายดังกล่าวอย่างเต็มที่ ถึงแม้ว่าพันธมิตรฯ จะได้ประโยชน์จากกฎหมายนี้ด้วยแต่พวกเราก็ไม่เห็นด้วยอย่างยิ่ง ซึ่งร่างกฏหมายที่เสนอเข้ามาในสภาก็เหมือนกันหมด คือคนที่ทำผิดก็ไม่ผิด ฆ่าคน โกงชาติ ก็ไม่ผิด อย่างนี้ยอมไม่ได้ ถ้ายังดันเข้าประชุมในสภาจะชุมนุมทันที กฏหมายนี้มุ่งทำลายชาติ ราชบัลลังก์ ใช้สภายกมือเพื่อให้พ้นความผิดได้ ตนยังเห็นว่า การแก้รัฐธรรมนูญ ยังยากกว่าผ่านกฎหมายฉบับนี้เลย ทั้งนี้ยืนยันว่าพันธมิตรฯ ไม่ได้ตีตนไปก่อนไข้

ขณะที่ นายพิภพ กล่าวว่า การที่คัดค้านเพราะ พ.ร.บ.ดังกล่าวจะสร้างความแตกแยก และจำนวนกระแสก็จะมีมากกว่าคนที่ออกไปเลือกตั้ง ที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ชอบอ้างว่า 15 ล้านเสียง การที่นายกฯ ชอบพูดว่าเป็นเรื่องของสภาก็ถือว่าเป็นการพูดความจริงครึ่งเดียว ในความเป็นจริงแล้วนายกฯ ก็สามารถกำหนดทิศทางต่างๆ ในพรรคได้ ถ้าจะมาลอยตัวเหนือปัญหาก็ต้องรับผิดชอบด้วย ส่วนการที่ พ.ต.ท.ทักษิณ อ้างว่าสามารถเดินทางไปได้ทั่วโลก เพราะว่าพ.ต.ท.ทักษิณ ไปแล้วไม่ได้กระทำความผิดในประเทศนั้นๆ แต่ในไทย พ.ต.ท.ทักษิณ ได้ถูกศาลพิพากษาความผิดแล้ว จึงไม่กลับมา อย่างไรก็ตาม เริ่มมีการเคลื่อนไหวต่อต้านแล้วจากในอาเซียน อย่างที่ประเทศอินโดนีเซีย ก็มีประชาชนไม่พอใจต่อการที่ประธานาธิบดีอินโดนีเซีย ที่ประกาศต่อต้านคอรัปชั่น แต่กลับนั่งข้างๆ พ.ต.ท.ทักษิณ อดีตนายกฯ ผู้หนีคดีคอรัปชั่นของไทย ซึ่งตนเชื่อว่าประเทศต่างๆ ในละแวกนี้จะเริ่มเคลื่อนไหวกันมากขึ้น

ทางด้าน นายปานเทพ กล่าวว่า ในวันนี้ ตน และ พล.ร.ท.ประทีป ชื่นอารมณ์ แกนนำพันธมิตรฯ จะเดินทางไปที่รัฐสภา และทำเนียบรัฐบาล เพื่อยื่นหนังสือต่อประธานสภาผู้แทนราษฎร และนายกรัฐมนตรี ในเรื่องดังกล่าว

คำต่อคำพันธมิตรฯแถลงข่าว

สนธิ ลิ้มทองกุล

โดยพื้นฐานแล้ว ท่านสื่อมวลชนและท่านผู้ชม ประชาชนทราบอยู่แล้วว่า จุดยืนของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย มีอยู่ 2 เรื่อง เรื่องแรกคือ หากรัฐบาลได้ทำการอะไรก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นเจตนา หรือการกระทำที่แสดงให้เห็นว่า จะมีการดูหมิ่น หรือล้มล้างสถาบัน ทันทีที่มีเรื่องนี้เกิดขึ้น พันธมิตรฯ จะออกเคลื่อนมวลชนทันที เรื่องที่ 2 คือ เรื่องการออกกฎหมายล้างความผิด

ทำไมถึงต้องเป็น 2 เรื่องนี้ 2 เรื่องนี้เป็นเรื่องหลักในขณะนี้ เรื่องแรกนั้นเป็นเรื่องของการดูแลและปกป้องสถาบันกษัตริย์ ซึ่งพันธมิตรฯ ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของสังคมไทยที่คงต้องดำรงอยู่ ส่วนที่ 2 ทำไมถึงเป็นเรื่องหลัก เพราะส่วนที่ 2 เป็นเรื่องของการทำลายหลักนิติรัฐ ซึ่งเรายอมไม่ได้ แต่หากรัฐบาลหรือว่าผู้มีอำนาจในแผ่นดิน จะทำตามศาลรัฐธรรมนูญ จะขอมติประชาชนในการแก้รัฐธรรมนูญทั้งฉบับ แล้วในประชามตินั้นจะมีส่วนหนึ่งของการปรองดอง นั่นเป็นสิทธิที่รัฐบาลทำได้ หากเสียงส่วนใหญ่ของประเทศต้องการเช่นนั้น พันธมิตรฯ เอง อย่างน้อยที่สุด ตัวผมเองจะเคารพในเสียงส่วนใหญ่ แต่ไม่ใช่จะใช้มือในสภาแล้วยกกัน เพราะฉะนั้นแล้ว การใช้มือในสภา แสดงว่า ใครก็ตามทำผิด แต่ถ้ามีอำนาจ มีเสียงในสภา สามารถยกมือลบล้างความผิดได้ ตรงนี้เรายอมไม่ได้

การที่พวกเราจะออกครั้งนี้ก็เหมือนออกครั้งที่แล้ว ว่าถ้าหากยังมีวาระคงค้างอยู่และไม่ถอน เราจะชุมนุมทันที ส่วนการชุมนุมจะยืดเยื้อหรือจะปักหลักพักค้างอย่างไร ขึ้นอยู่กับรัฐบาลจะมีท่าทีเช่นไร ผมคิดว่าพันธมิตรฯ จะไม่ยอมรับคำพูดของท่านนายกรัฐมนตรี ซึ่งท่านคงจะพูดว่า เป็นเรื่องของสภา เพราะคำพูดนี้เป็นคำพูดที่โกหก พูดความจริงครึ่งเดียว เพราะในสภา ส.ส.เกินกว่าครึ่ง เป็นเสียงของพรรคเพื่อไทย และพรรคร่วมรัฐบาล เพราะฉะนั้นแล้วถ้านายกรัฐมนตรีเห็นด้วยว่าควรจะถอนร่าง พ.ร.บ.ปรองดอง น่าจะแจ้งให้พรรคเพื่อไทยทราบ ถ้าพรรคเพื่อไทยทราบแล้ว พรรคร่วมรัฐบาลต้องไม่ขัดข้องเช่นกัน เพราะฉะนั้นแล้วกรุณาอย่าใช้คำพูดเดิมๆ ที่ปัดสวะพ้นตัวว่า เป็นเรื่องของสภารัฐบาลไม่เกี่ยวข้อง เพราะคำพูดนี้เป็นคำพูดที่โกหก

พันธมิตรฯ ยืนยันว่า หากไม่ถอน พันธมิตรฯ พร้อมเคลื่อนมวลชนทั่วประเทศ และพร้อมที่จะทำทุกอย่างเพื่อให้ พ.ร.บ.ปรองดอง ถูกปลดออกไป สิ่งที่เราทำนั้นคือ การสร้างความสามัคคีของชาติไม่ให้แตกแยก ตรงกันข้ามกับ พ.ร.บ.ปรองดอง ซึ่งเป็นการสร้างความแตกแยกในสังคม บ้านเมืองมีขื่อมีแป มีกฎหมาย เพราะฉะนั้นให้กฎหมายว่ากันต่อไปครับ

พล.ต.จำลอง ศรีเมือง

ร่างกฎหมายปรองดองฉบับนี้ เราคัดค้านเต็มที่ สื่อมวลชนคงจำได้ว่าวันแรกที่มีการนำเข้าสู่สภา เราก็ชุมนุมใหญ่ที่หน้ารัฐสภา เมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม 31 พฤษภาคม และเมื่อวันที่ 1 มีการเลื่อนออกไปโดยไม่มีกำหนด เราถึงเลิกการชุมนุม ที่จริงแล้วร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยการปรองดองแห่งชาติ ฉบับนี้ พวกเราพันธมิตรฯ หลายคนได้รับประโยชน์ด้วยนะครับ คือคดีต่างๆ ที่กำลังดำเนินอยู่ ถูกยกหมด เราไม่ต้องไปขึ้นศาลอีก แต่เราก็เห็นว่ามันไม่ถูกต้องที่จะทำแบบนี้ เมื่อเราออกมาเพื่อช่วยชาติ ช่วยบ้านช่วยเมืองแล้ว เรามั่นใจว่าเราไม่ได้ทำผิด และถ้าศาลจะพิจารณาว่าเราผิด และลงโทษเรา เราก็รับ ไม่เห็นจะมีปัญหาอะไร เพราะฉะนั้นเราไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งแม้เราจะได้ประโยชน์ไปด้วยก็ตาม

สื่อมวลชนลองดูสิครับ ร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยการปรองดองแห่งชาติ ทุกร่างที่เขาเสนอเข้าไปในสภานั้นเหมือนกันหมด ผมอ่านมาตราเพียงมาตราเดียวก็ได้ มาตรา 3 ให้บรรดาการกระทำใดๆ ที่เกี่ยวเนื่องกับการชุมนุมทางการเมือง หรือการแสดงออกทางการเมือง ตั้งแต่วันที่ 15 กันยายน พ.ศ.2548 จนถึงวันที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ.2554 หากมีการกระทำใดที่เป็นความผิดตามกฎหมาย ให้การกระทำนั้นไม่เป็นความผิดต่อไป และให้ผู้กระทำการนั้น พ้นจากการเป็นผู้กระทำความผิด และความรับผิดชอบโดยสิ้นเชิง

เห็นไหมครับ ถ้ากฎหมายนี้ออกมา มันเป็นการบ่อนทำลายชาติและราชบัลลังก์อย่างยิ่ง คนที่ทำผิดคิดร้าย คนที่ฆ่าทหารตาย ฆ่าประชาชนตาย ก็ไม่ผิด คนที่กำลังถูกดำเนินคดีและจะต้องเข้าคุก ก็ไม่ผิด คนที่โกงบ้านโกงเมืองเป็นหมื่นๆ ล้าน ก็ได้เงินคืนและก็ไม่ผิด และคนที่ใส่ร้ายสถาบันอย่างรุนแรงชนิดที่ไม่เคยมีมาก่อนในประวัติศาสตร์ชาติไทย ก็ไม่ผิด อย่างนี้เรายอมไม่ได้ครับ เพราะฉะนั้นเมื่อเรายอมไม่ได้ เราจึงมีการประชุมในวันนี้ว่า ถ้าเอาเข้าพิจารณาเมื่อไร เราชุมนุมใหญ่ทันที เป็นไงเป็นกันครับ ไม่มีปัญหา ทั้งๆ ที่เรารู้อยู่แล้วว่าการชุมนุมที่ผ่านมาทั้งหมด ที่ผมย้ำแล้วย้ำอีก ถึง 384 วัน 384 คืน มันไม่ใช่เรื่องน่ารื่นรมย์ มันเป็นเรื่องที่ต้องใช้ความทรหดอดทนอย่างยิ่ง แต่เราก็ยอมให้ผ่านไปไม่ได้ เลยจะเรียนให้สื่อมวลชนทราบนะครับ แม้เราจะได้ประโยชน์ด้วย เราก็ไม่เอา

จำลอง - ก็เข้าไปในวาระการประชุมของสภาแล้ว แล้ววันที่ 1 สิงหาคมนี้ เขาจะมีการประชุม

พิภพ ธงไชย

ผมขอเพิ่มเติมเหตุผลที่ พล.ต.จำลอง และ คุณสนธิ รวมทั้งที่ อ.ปานเทพ ได้อ่านแถลงการณ์ ที่เราคัดค้านอย่างแรง ที่จะต้องมีการชุมนุมใหญ่ เพราะว่า พ.ร.บ.ปรองดอง ถือว่าเป็น พ.ร.บ.ที่จะก่อให้เกิดความแตกแยก อันนี้สำคัญมาก เพราะว่ากระแสไม่รับ พ.ร.บ.ปรองดอง ผมว่ามากกว่าจำนวนประชาชนที่ไปลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง ซึ่งฝ่ายคุณทักษิณมักจะอ้างว่า เป็นเสียงส่วนใหญ่ คือ 15 ล้าน 15 ล้านเป็นเสียง 1 ใน 3 ของจำนวนผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง เพราะฉะนั้นเมื่อ พ.ร.บ.ปรองดอง ซึ่งพยายามนำเข้าสภา จะเห็นว่าก่อให้เกิดความแตกแยกของสังคม ฐานกว้างออกไป

ฉะนั้น การที่ นายกรัฐมนตรี พยายามลอยตัวว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องสภา ผมคิดว่านี่จริงอย่างที่คุณสนธิว่า คือ การพูดความจริงครึ่งเดียว ถ้าความเห็นของผม พูดความเท็จทั้งหมด ไม่มีความจริงเลย เพราะว่าความจริงคือ นายกรัฐมนตรีเป็นคนของพรรคเพื่อไทย สามารถกำหนดทิศทางของสมาชิกพรรคได้ เมื่อกำหนดทิศทางของสมาชิกพรรคได้ สมาชิกพรรคไปกำหนดทิศทางในสภาผู้แทนราษฎรได้ เพราะฉะนั้นนายกรัฐมนตรีจะลอยตัวในเรื่องนี้ พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ถือว่านายกรัฐมนตรีต้องรับผิดชอบ ที่พยายามปล่อยให้ พ.ร.บ.ปรองดอง เข้าสู่สภา และคาอยู่ในสภา ก่อให้เกิดความแตกแยกในสังคมอย่างใหญ่หลวง

และที่คุณทักษิณ อ้างว่า ไปได้ทั่วโลกยกเว้นประเทศไทย อยากจะเรียนว่า ในประเทศอื่นๆ ที่คุณทักษิณไปนั้น คุณทักษิณยังไม่ไปทำความผิดและไม่มีคดีทางทุจริตคอร์รัปชัน แต่ในประเทศไทยคดีทุจริตคอร์รัปชั่นของคุณทักษิณ ถูกตัดสินแล้ว 2.ตอนนี้เกิดกระแสในประเทศอาเซียน ประชาชนที่อินโดนีเซีย ได้ร้องเรียนว่า การที่ประธานาธิบดีของอินโดนีเซียเชิญคุณทักษิณ ทั้งๆ ที่ประธานาธิบดีอินโดนีเซียประกาศว่า จะปราบทุจริตคอร์รัปชั่น เพราะฉะนั้นการที่สนับสนุนอดีตนายกรัฐมนตรีที่ต้องคดีทุจริตคอร์รัปชั่น ไปนั่งข้าง และแถลงเรื่องปรองดอง ตอนนี้ชาวอินโดนีเซียเริ่มเคลื่อนไหว และผมเชื่อว่า ประชาชนในกลุ่มประเทศอาเซียน จะเริ่มเคลื่อนไหวในเรื่องนี้มากขึ้น ที่รัฐบาลของเขาจะไปรับสถานะของอดีตนายกรัฐมนตรี ไม่ว่าอย่างเป็นทางการหรือไม่เป็นทางการก็ตาม

พล.ต.จำลอง ศรีเมือง

ผมขอเน้นอีกทีตามประสาของผม คือ กฎหมายฉบับนี้ถ้าผ่านสภาออกไป จะเป็นกฎหมายที่มุ่งทำลายชาติและราชบัลลังก์ ต่อไปจะเป็นตัวอย่างซึ่งสามารถทำตามกันได้ เพราะมีตัวอย่างเกิดขึ้นแล้ว นั่นคือ ใครก็ตามที่โกง มีเงินเยอะๆ สามารถซื้อเสียงเข้าสภา จะทำผิดคิดร้ายปานใดก็ไม่มีความผิด จะฆ่าเขาตาย จะโกงเงินหมื่นๆ ล้าน เผาบ้านเผาเมือง พอเข้าไปในสภาก็ยกมือนิรโทษกรรม ง่ายมากครับ จะเห็นนะครับ ตลอดชีวิตเราไม่มีครั้งไหนที่เป็นการทำลายกระบวนการยุติธรรมเหมือนในยุคปัจจุบันนี้

การแก้รัฐธรรมนูญ มาตรา 291 ดูให้ดีแล้วยังยากกว่ากฎหมายปรองดอง กฎหมายปรองดองถ้าจะให้เร็วคือ ผ่าน 3 วาระรวด ตอนนั้นเราแก้ไม่ทันแล้ว ทำไมพันธมิตรฯ ถึงต้องออกมา ไม่ใช่การตีตนก่อนไข้ เราเห็นชัดๆ แล้วว่า มันเป็นอย่างนี้จริงๆ เพราะฉะนั้นเรายอมไม่ได้ เราจึงมีการประชุมและแถลงในวันนี้

อ.สมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์

กฎหมายปรองดองแห่งชาติ เริ่มคุกคามสถาบันศาล หมายถึง คำพิพากษาไม่มีความหมายใดๆ เลย เท่ากับว่า จะทำอะไรก็ได้ แม้แต่ที่ไปศาลอาญา เมื่อวานนี้ ก็ขยายเวลาออกไปอีก บอกว่า 10 พ.ค.2554 ก็จะขยายเวลาไปถึงเมื่อไหร่ก็ได้ ผมถือว่ากฎหมายนี้กำลังเข้าใกล้พระมหากษัตริย์ คือ ศาล กองทัพ และพระมหากษัตริย์ ประเทศชาติจะไม่เหลืออะไรแล้วถ้าเรายอมเรื่องนี้ ผมคิดว่าเรื่องนี้เป็นสิ่งสำคัญมากที่เป็นรูปธรรมที่สุด ไม่เหมือนรัฐธรรมนูญจะแก้มาตราไหนยืดเยื้อยาวนาน แต่กฎหมายปรองดองแห่งชาติ เลื่อนมาเป็นวาระที่ 1 ในฐานะที่ผมเคยเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรมาก่อน วาระที่ 1 พร้อมเอาเข้าสภาเมื่อไหร่ก็ได้

เพราะฉะนั้นการเรียกประชุมแกนนำในวันนี้ จึงเป็นมติที่สำคัญว่า มติให้ถอน ทั้งประธานสภาผู้แทนราษฎร และนายกรัฐมนตรี ให้ถอนกฎหมายนี้ออกจากสภาเสีย

สนธิ - เรียนท่านสื่อมวลชนนิดหนึ่ง จริงๆ แล้วถ้าท่านใช้เวลาวิเคราะห์นิดหนึ่ง ท่านจะเห็นว่าวิกฤตของชาติบ้านเมืองมันมหาศาลจริงๆ เพราะฉะนั้นแล้วอยากจะเรียนให้ทราบว่าพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยดำเนินการมาทุกเรื่อง ไม่เคยมีเรื่องส่วนตัวเข้ามาเกี่ยวข้องเลยแม้แต่นิดเดียว พล.ต.จำลอง ศรีเมือง อายุจะ 80 แล้ว ผม 65 แล้ว พี่พิภพ ก็จะ 70 แล้ว อ.สมเกียรติ ก็ 60 ที่เราทำอยู่ทุกวันนี้เราทำเพื่อส่วนรวมเท่านั้น เราทำเพื่อให้ลูกหลานเรามีที่ยืนในอนาคต อย่างน้อยที่สุดพวกท่านก็มีพี่มีน้อง อีกหน่อยท่านก็มีครอบครัว ท่านอยากให้ลูกท่านโตขึ้นมาในสังคมที่เงินเป็นพระเจ้าหรือ ที่เอาเงินไปซื้อ ส.ส.และเอา ส.ส.มายกมือให้คนมีเงินทำผิดให้เป็นถูก นี่คือสิ่งที่เราต่อสู้ เราต่อสู้เรื่องเขาพระวิหาร เราสู้มาตลอด ไม่ใช่เพื่อให้เราได้มีที่ในเขาพระวิหาร แต่เราสู้เพราะเราคิดว่านี่คือแผ่นดินไทย ทหารไม่สู้ นักการเมืองร่วมมือกับเขมร ยกแผ่นดินให้กับเขมร เรายอมไม่ได้ เราสู้เพื่อให้บรรพบุรุษเราสบายใจว่าอย่างน้อยก็มีลูกหลานที่ไม่ยอมแพ้เรื่องนี้ และให้ลูกหลานของเราภูมิใจในตัวพ่อแม่ในอนาคต แล้วก็ที่พื้นดินที่เขาพระวิหารมันจะโยงไปสู่ผลประโยชน์ของชาติอย่างมหาศาลในทะเล นั่นคือน้ำมัน

เพราะฉะนั้นแล้วผมอยากให้เพื่อนสื่อมวลชนทั้งหลายรับทราบไว้นิดหนึ่งว่า จะไม่ชอบเรา ไม่เป็นไร แต่ว่าใช้สติคิดนิดหนึ่งว่าสิ่งที่เราสู้มาตลอด เราไม่ได้สู้เพื่อตัวเราเอง และเรื่องหลักนิติรัฐ เราเป็นคนที่ยอมหมด ผมโดนศาลอาญาพิพากษาจำคุกข้อหาติด พ.ร.บ.ตลาดหลักทรัพย์ เอาบริษัทไปค้ำประกัน 85 ปี จำคุก 20 ปี ไม่รอลงอาญา ผมไม่พูดสักคำ อาทิตย์ที่แล้วศาลอาญาลงโทษคน 117 ปี เพราะว่าลักทรัพย์ในธนาคาร สั่งรอลงอาญาทุกกระทง ผมก็ไม่พูดสักคำ เพราะผมเคารพในหลักนิติรัฐ

วันศุกร์นี้พันธมิตรฯ จะมีเรื่องใหญ่มากๆ ที่จะแถลงให้กับท่านสื่อมวลชน รบกวนว่าวันศุกร์ที่จะถึงนี้ 11.00 น. มากันอีกครั้งหนึ่ง แล้วจะได้เห็นอะไรบางอย่างที่พอเราอธิบายแล้ว ท่านสื่อมวลชนจะต้องอึ้ง และท่านสื่อมวลชนจะต้องมีเรื่องคิดไปอีกนาน

จำลอง - คือพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เมื่อเห็นว่าอะไรจะทำให้ชาติบ้านเมืองเสียหาย เราจึงต้องออกมาเตือน คราวที่แล้วยกตัวอย่างๆ หนึ่ง ผู้สื่อข่าวคงจำได้ ว่ารัฐบาลที่แล้วพยายามที่จะให้บันทึกผลการประชุมร่วมไทย-กัมพูชา ว่าด้วยเขตแดน ที่เราเรียกกันสั้นๆ ว่า เจบีซี ผ่านสภา พวกเรามีจดหมาย มีหนังสือเป็นการส่วนตัวถึง ส.ส. ส.ว.ทุกคน บอกว่าผ่านไม่ได้นะ ถ้าผ่านเราเสียดินแดน ถ้าผ่านเราเอาเรื่องนะ ก็โชคดีที่ ส.ส.- ส.ว.หลายต่อหลายคนเห็นด้วยกับเรา ทำให้การประชุมนั้นไม่ครบองค์ประชุม หลายครั้งหลายหน จนกระทั่งรัฐบาลที่แล้วยอมแพ้ ถอนเรื่องนี้ออกจากสภา นี่ก็เหมือนกันครับ เราก็ออกมาเตือนอีก ถ้ารัฐบาลยังไม่เห็นความสำคัญของการที่เราออกมาเตือน รัฐบาลก็สามารถทำได้เต็มที่ โดยการหนุนให้มีการออกกฎหมายปรองดองต่อไป เราก็ไม่ว่า แต่มันเป็นหน้าที่ของเราที่จะออกมาคัดค้านเต็มที่ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็ตาม

ถาม - เรื่องอะไรคะ วันศุกร์นี้

สนธิ - ต้องมาถึงจะรู้

ถาม - เกี่ยวกับเรื่องอะไรคะ

สนธิ - ต้องมาถึงจะรู้

ถาม - ของนายกฯ นี่จะไปยื่นที่ทำเนียบฯ ใช่ไหมคะ ประมาณกี่โมง

ปานเทพ - เดี๋ยวพอเสร็จการแถลงข่าว ผมกับ พล.ท.ประทีป ชื่นอารมณ์ จะไปที่สภาผู้แทนราษฎรก่อน จากนั้นตามเส้นทาง พอยื่นเสร็จแล้วก็ถึงจะไปยื่นให้ทางนายกรัฐมนตรีครับ

ถาม - ยื่นต่อประธานสภาฯ ใช่ไหม

ปานเทพ - ก็ขึ้นอยู่กับว่าท่านจะมารับไหม สะดวกหรือเปล่า ถ้าไม่มารับเราก็ลงทะเบียนส่งหนังสือตามปกติ

จำลอง - การที่เราประชุมวันนี้ หยิบยกเรื่องกฎหมายปรองดองมา ไม่ใช่เพิ่งคิดนะครับ เราคิดมานานแล้ว ว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่เขาสามารถจะลักไก่ จะให้ผ่านไปได้อย่างเงียบๆ ถ้าเราไม่ออกมาขวาง

ถาม - มีการคุยกันเรื่องท่าทีการแก้ไขกฎหมายรัฐธรรมนูญบ้างหรือยังว่าถ้าสภาจะมีการพิจารณา จะมีท่าทีอย่างไร

ปานเทพ - คือ ถึงเวลานี้ หลังมีคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญแล้ว ณ ปัจจุบันนี้ทางฝ่ายการเมืองยังไม่มีใครขยับอะไร เมื่อยังไม่มีใครขยับให้ปรากฏเป็นสิ่งที่เห็นชัดเจน ก็ยังไม่มีความจำเป็นที่พันธมิตรฯ ต้องมีการหารือในเวลานี้ ไว้มีความชัดเจนแล้ว เราค่อยคุยกันอีกครั้งหนึ่งครับ

ถาม - แล้วอย่างเรื่อง พ.ร.บ.ปรองดอง ถ้ารัฐบาลเขาจะเล่นเกมแบบให้นำ พ.ร.บ.ตัวอื่นขึ้นมาพิจารณา แล้วตัวนี้ค้างไว้ก่อน

จำลอง - ไม่ได้ครับ ต้องถอนอย่างเดียว อย่างอื่นไม่มีครับ จะมายืดเวลาไม่ได้ เราเหนื่อยเปล่า เราต้องมานั่งรอ เมื่อไรแกจะเข้าสภา เข้าสภาเราออกมาอีกที ก็แย่กันพอดีสิครับ มีอย่างเดียวต้องถอน ถ้าไม่ถอนเกิดเรื่อง

ถาม - เปิดประชุมมาวันที่ 1 อยากให้พูดชัดเลยว่าที่ประชุมตกลงถอนในวันที่ 1 อย่างนั้นเลยหรือเปล่า

จำลอง - ก็ยังไม่เห็น เรายังไม่ทราบ เมื่อกี้นี้พวกเราที่เป็น ส.ส.-ส.ว. ก็พยายามถามไปยังสภา ยังไม่รู้ว่าเขาจะพิจารณาในวันที่ 1 หรือเปล่า แต่รัฐบาลสามารถทำได้ เรามีเวลาให้ตั้ง 7 วัน วันนี้เพิ่งวันที่ 24 ไม่ใช่เราทำตามอารมณ์นะครับ มีเวลาอีก 7 วัน คุณไปจัดการทำอะไรก็ได้ให้มีการถอน เพราะว่าพวกที่เสนอมาก็เป็นพวกของคุณทั้งนั้น หรือคนที่คุณคุ้นเคยทั้งนั้นที่เสนอร่างขึ้นมา และอย่างที่คุณสนธิว่า รัฐบาลมีเสียงข้างมากในสภา มาอ้างอะไรไม่ได้ทั้งสิ้น ต้องรับผิดชอบนะ เราไม่ได้พูดคำนี้เฉพาะวันนี้ ผมพูดบนเวทีหน้ารัฐสภาเมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม

ถาม - ถ้าวันที่ 1 เปิดประชุมแล้วยังไม่มีการถอน แต่ก็ยังไม่ได้มีการพิจารณาเรื่องนี้ พันธมิตรฯ จะเคลื่อนไหมคะ

สนธิ - เคลื่อนครับ

จำลอง - เขาถอนก่อนวันที่ 1 ไม่ได้ เพราะเรื่องมันเข้าวาระไปแล้ว ต้องมีการเห็นชอบในรัฐสภาว่าจะให้ถอนหรือไม่ถอน

ถาม - คือวันที่ 1 ต้องรู้

สมเกียรติ - คือหลักการทำกฎหมาย ต้องเข้าสภาก่อน แล้วสภาถึงถามมติที่ประชุมว่าจะให้ถอนหรือไม่ให้ถอน เพราะฉะนั้นวันใดก็ตามที่เข้าสภา เราจะนัดชุมนุมใหญ่

ถาม - นั่นคือวันที่ 1 เราต้องได้คำตอบ เราต้องรู้วันนั้นเลยใช่ไหมคะ

ปานเทพ - คืออย่างนี้ครับ เนื่องจากกรณีนี้มันเกี่ยวข้องกับการเปิดสมัยประชุม เปิดสมัยประชุมวันที่ 1 สิงหาคม แต่ก็ไม่แน่ว่าจะมีการประชุมวันที่ 1 สิงหาคม หรือไม่ แต่โดยปกติแล้วประธานจะแจ้งต่อสมาชิกล่วงหน้า 3 วัน เพื่อกำหนดวันประชุม และกำหนดวาระการประชุม เมื่อถึงเวลานั้นก็จะเกิดความชัดเจนขึ้นว่า สภาผู้แทนราษฎรจะพิจารณาวาระดังกล่าวหรือไม่ เพราะฉะนั้นในเวลาตอนนี้จึงถือว่าเราจะมาพิจารณาตามสถานการณ์อีกครั้งหนึ่งเมื่อถึงสถานการณ์นั้น

สนธิ - คือคำตอบนี้ง่ายมากครับ เมื่อใดก็ตามเปิดประชุมแล้ววาระยังอยู่ จะเลื่อนไปเป็นวาระไหนก็ตาม ผมไม่สนใจ เราชุมนุมทันที และถ้าไม่ถอนเราจะไม่ถอย ผมยืนยันนะครับ ถ้าไม่ถอนเราจะไม่ถอย แต่ถ้าถอนออกเมื่อไรเราก็สลายการชุมนุมทันที

ถาม - วันที่ 1 นี่ชุมนุมแน่นอน?

สนธิ - ขึ้นอยู่กับวาระ ขึ้นอยู่กับว่าเขาจะเรียกประชุมวันที่ 1 แล้วเขาจะมีวาระพิจารณาว่าจะถอนหรือไม่ถอน แต่ถ้าเขาไม่มีวาระพิจารณาว่าจะถอนหรือไม่ถอน เขายังคงคาไว้วาระที่ 1 อันนั้นเจอกันแน่นอน แล้วถ้าไม่ถอน เจอกันยาวเลย ยาวเลยนะครับงานนี้ เป็นยังไงเป็นกัน

ถาม - คือจะต้องออกมาบอกก่อน พูดให้ชัดเจนก่อนใช่ไหม ก่อนที่จะเปิดประชุม

จำลอง - ไม่ต้องฟังเขาก็ได้ ถ้าเมื่อไรไม่มีการถอน และผ่านไปถึงวันที่ 1 เราชุมนุมแน่ ที่เราทำอย่างนี้ ทำไมเราไม่ไปชุมนุมใกล้ๆ วันที่ 1 มันเป็นระยะเวลาที่สั้นเกินไป นี่เราให้เขา 7 วัน 7 คืนนะครับ เขาสามารถที่จะถอนได้ จะมาอ้างว่าถอนไม่ได้ ไม่ได้ทั้งสิ้น เวลาก็มี แล้วก็พวกตัวทั้งนั้น เราเห็นใจเขาเหมือนกันนะครับ เราจะเอาแต่ใจไม่ได้

พิภพ - อยากเรียนเพิ่มเติมนะครับว่า ถ้าดูการแถลงการณ์ของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยมาตั้งแต่ต้น ไม่ว่าสมัยรัฐบาลสมัคร สุนทรเวช ก็ดี เรามีการแถลงการณ์ที่จะใช้หลักการและเหตุผล และเตือนว่ารัฐบาลควรทำอะไร ไม่ควรทำอะไร แต่ถ้ารัฐบาลไม่ฟังและไม่ใช้เหตุผล เราก็พร้อมที่จะชุมนุม เพื่อที่จะให้ความถูกต้องและเหตุผลมันอยู่ในสังคมไทย เพราะฉะนั้นวันนี้ก็จะเห็นว่าเราให้เวลาตั้ง 7 วัน ที่แถลง เป็นเหตุเป็นผล และยอมรับกระบวนการในการพิจารณากฎหมาย ว่ามันมีกระบวนการอย่างไร เพราะฉะนั้น อำนาจนั้นเรารู้ว่าอำนาจอยู่ที่ใคร เพราะฉะนั้นอำนาจนั้นจะต้องจัดการให้ดำเนินการไป เพราะอย่างที่ผมกล่าวไว้แล้ว และหลายท่านกล่าวไว้แล้วว่า พระราชบัญญัติฉบับนี้ก่อให้เกิดความแตกแยก แล้วคาอยู่นานเกินไปในสังคมไทย ผมอยากจะเรียนให้ อยู่นานเกินไปแล้ว และก่อให้เกิดความแตกแยกยาวเกินไป เพราะฉะนั้นถ้ารัฐบาลจะอ้างปรองดอง ต้องใช้อำนาจจัดการ อย่าบอกว่าตัวเองไม่มีอำนาจ เป็นไปไม่ได้นะครับ เพราะฉะนั้นพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เป็นพลังของเหตุผล เราก็จะใช้หลักการและเหตุผลในการที่จะดำเนินการในเรื่องราวต่างๆ ให้ประเทศชาติดีขึ้นครับ

จำลอง - ผมคัดค้าน อ.พิภพ นิดหนึ่ง คำว่าทำให้เกิดความแตกแยกมันเบาไป ดูให้ดีสิครับ มันเป็นการบ่อนทำลายชาติและราชบัลลังก์ชัดๆ เลย แตกแยกนี่ ถ้าผมทะเลาะกับ อ.พิภพ เรียกว่าแตกแยก นี่มันไม่ใช่นะครับ

ถาม - ที่กังวลนี่เพราะว่าทักษิณมาอยู่ใกล้ๆ ประเทศไทยด้วยใช่ไหม ถึงได้กังวล

จำลอง - ไม่ใช่ครับ คุณพูดถึงทักษิณก็ดีแล้วนะ ทักษิณพูดเมื่อประมาณวันที่ 17 ว่าบ้านเมืองเราจะไปได้ด้วยดีต้องมีการปรองดอง และเมื่อ 2-3 วันที่ผ่านมา คุณยิ่งลักษณ์ก็พูดอีกที่อีกประเทศหนึ่งว่า ต้องมีการปรองดอง เพราะฉะนั้นชี้ให้เห็นแล้วนะว่าเขาเอาแน่ ถ้าเราไม่ออกไปขัดขวาง เขาต้องให้ผ่านกฎหมายปรองดองแน่ แล้วมันง่ายกว่าการแก้รัฐธรรมนูญเยอะเลยครับ เทียบกันไม่ติดเลย

ถาม - แล้วเรื่องแก้รัฐธรรมนูญ พันธมิตรฯ มีจุดยืนอย่างไร

จำลอง - ก็เมื่อกี้ อ.ปานเทพ บอกไปแล้ว เอาไว้ก่อน เอากฎหมายปรองดองก่อน นั่นเอาไว้ทีหลังนะครับ

สนธิ - คืออย่างนี้ครับ เรื่องแก้รัฐธรรมนูญ เนื่องจากทางการเมืองฝ่ายรัฐบาลยังไม่ได้เคลื่อนไหวอะไรทั้งสิ้น เมื่อยังไม่ได้เคลื่อนไหวอะไรทั้งสิ้น เราก็ต้องนั่งเฉยๆ นะครับ


กำลังโหลดความคิดเห็น