“เด็จพี่” ให้ท้ายแดงเชียงใหม่ไล่ทำร้าย “อภิสิทธิ์” อ้างสมุนแดงยังมีอารมณ์แค้นจากเหตุการณ์สลายการชุมนุม จี้ “มาร์ค” ขอโทษเพื่อลดการเคลื่อนไหว เรียกร้องผู้นำฝ่ายค้านรับผิดชอบหนีทหาร ขณะเดียวกันปัด ส.ส.พท.ยกโขยงพบ “นช.แม้ว” ที่ฮ่องกง เพื่อวิ่งเต้นปรับ ครม. ชี้แค่อวยพรวันเกิดตามประเพณี พร้อมหนุน “ยงยุทธ” นั่ง มท.1 ต่อ เช่นเดียวกับ “กิตติรัตน์” ยังจำเป็นต้องดูแลคลัง ไล่ “กรณ์” ถาม “สุขุมพันธ์” ได้เงินน้ำท่วมไม่เท่ากัน
นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีถูกกลุ่มคนเสื้อแดงเชียงใหม่ทุบและปาหินใส่รถยนต์ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ระหว่างเดินทางไปมอบฉโนดชุมชน ที่อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ ว่าถือว่าเป็นเรื่องปกติของกลุ่มมวลชนที่ยังมีอารมณ์โกรธแค้นอยู่ โดยเห็นว่า นายอภิสิทธิ์ควรขอโทษกรณีสลายการชุมนุมกลุ่มคนเสื้อแดง เพื่อลดการเคลื่อนไหวของกลุ่มมวลชน และหากมีการกระทำผิดกฎหมาย ควรใช้สิทธิ์แจ้งความเอาผิด
นายพร้อมพงศ์ ยังกล่าวถึงกรณีนายกมล บันไดเพชร สมาชิกพรรคเพื่อไทย ตรวจสอบการปลอมแปลงเอกสารของนายอภิสิทธิ์ ในการเข้าสมัครเข้ารับราชการทหารว่า ขณะนี้พรรคประชาธิปัตย์กำลังเลี่ยงข้อเท็จจริง ขอให้ประชาชนอย่าหลงประเด็นที่พรรคประชาธิปัตย์พยายามบิดเบือนให้เป็นประเด็นการเมือง ทั้งที่ความจริงเรื่องนี้มีข้อพิรุธทั้งเรื่องการไม่เข้ารับการตรวจเลือกเกณฑ์ทหาร การใช้เอกสารเท็จเข้ารับราชการที่โรงเรียนนายร้อย จปร. การใช้เอกสารเท็จ สด.9 จนได้รับการแต่งตั้งเป็นนายทหารสัญญาบัตร แต่น่าแปลกที่นายอภิสิทธิ์ไม่เคยใช้ยศนำหน้า
รวมถึงกรณีที่นายอภิสิทธิ์ไม่สามารถตอบคำถามเรื่องที่ สด.9 ของตัวเองไม่ตรงกับสด.9 ที่กระทรวงกลาโหมมีอยู่ อยากทวงถามหลักเกณฑ์ที่นายอภิสิทธิ์เคยพูดว่า ความรับผิดชอบทางการเมืองต้องมาก่อนความรับผิดชอบทางกฎหมาย จึงอยากทวงถามเรื่องนี้ว่า เมื่อความจริงปรากฎจะรับผิดชอบทางการเมืองอย่างไร ถ้าใช้เอกสารเท็จจริงต้องถูกตัดสิทธิการเมืองแน่นอน และในฐานะที่เป็นอดีตนายกฯ เป็นผู้นำฝ่ายค้านจะแสดงความรับผิดชอบทางการเมืองอย่างไร และขอให้รมว.กลาโหมตรวจสอบในเชิงลึกด้วยเพื่อให้สังคมเห็นความจริงในเรื่องนี้
นายพร้อมพงศ์ ยังปฎิเสธข่าวที่ว่า แกนนำพรรคเพื่อไทย ส.ส. และสมาชิกบ้านเลขที่ 111 เดินทางไปอวยพรวันเกิดพ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร ที่เกาะฮ่องกง พร้อมกับวิ่งเต้นหารือเรื่องการปรับครม.ว่า ไม่เป็นจริง เพราะส.ส.และบ้านเลขที่ 111 เดินทางไปอวยพรพ.ต.ท.ทักษิณตามประเพณีไทยคนรักกันชอบกันเท่านั้น ไม่มีนัยทางการเมือง หรือการวิ่งเต้นเพื่อปรับ ครม. เพราะการปรับครม.นั้นน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ยังไม่มีการส่งสัญญาณมา การปรับครม.คงมี แต่ไม่ใช่ช่วงนี้ คงเป็นหลังการเปิดประชุมสภาสมัยสามัญทั่วไปแล้ว
ส่วนที่นาย เทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ระบุว่า นาย สุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รมว.ต่างประเทศ จะมาเป็นรมว.มหาดไทย แทนนาย ยงยุทธ วิชัยดิษฐ์นั้นนายพร้อมพงศ์ กล่าวว่า เป็นแค่การจินตนาการที่เลอะเทอะ หวังเสี้ยมให้เกิดความขัดแย้งในพรรคเพื่อไทย ส่วนตัวเห็นว่า นายยงยุทธยังเหมาะสมกับตำแหน่งรมว.มหาดไทย นายยงยุทธเป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทย หากถูกปรับออกจะเอาไปไว้ไหน เป็นเรื่องยากที่จะปรับนายยงยุทธ จากรมว.มหาดไทย เพราะนายกฯมีความใกล้ชิด ไว้ใจและเชื่อมั่นนายยงยุทธมาก หากปรับออกจริง ก็จะเกิดแรงกระเพื่อมภายในพรรค เช่นเดียวกับนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง ที่มีกระแสข่าวถูกปรับออกจากรมว.คลังนั้น อาจมีการปรับทีมเศรษฐกิจบ้างเป็นเรื่องปกติ แต่คงไม่ใช่นายกิตติรัตน์เพราะยังทำหน้าที่ได้ดี
นายพร้อมพงศ์ กล่าวถึงกรณีนายกรณ์ จาติกวณิช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ยื่นหนังสือถึงนายยยงยุทธ วิชัยดิษฐ รมว.มหาดไทย ขอวงเงินเพิ่มเติม 400 ล้านบาท เพื่อนำไปจ่ายเงินเยียวยา 20,000 บาท กับผู้ประสบภัยน้ำท่วมว่า การที่นายกรณ์มายื่นหนังสือดังเพื่อของบประมาณไปจ่ายเงินเยียวยาดังกล่าว เป็นการกดดันรัฐบาล และโยนบาปให้รัฐบาลว่า รัฐบาลไม่ให้ความร่วมมือในการจ่ายเงินเยียวยา ทั้งที่ผ่านมารัฐบาลมอบเงินเยียวยาให้กทม.สูงถึง 1,000 กว่าล้านบาท รองจาก จ.ปทุมธานีที่ได้ไป 4,000 ล้านบาท แต่ปรากฏว่า เป็นความบกพร่องของ กทม.ในการจ่ายเงินเยียวยา ขณะอยู่ในซอยเดียวกัน น้ำท่วมเหมือนกัน แต่กลับได้รับเงินเยียวยาไม่เท่ากัน แสดงให้เห็นถึงความไร้ประสิทธิภาพของกทม. ทำให้ชาวบ้านหลายพื้นที่พากันมาประท้วงปิดถนน
“ทราบว่าในเขตดอนเมืองมีกลุ่มการเมืองไปปลุกระดมชาวบ้านให้ออกมาปิดถนนเพื่อเรียกร้องเงินเยียวยา จึงอยากให้นายกรณ์และส.ส.ประชาธิปัตย์ไปพบ ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกทม. แล้วพากันไปลงพื้นที่ตรวจสอบว่า แต่ละพื้นที่ที่ถูกน้ำท่วมเหมือนกัน เหตุใดได้เงินเยียวยาไม่เท่ากัน แทนที่จะมาโยนบาปให้รัฐบาล”
นายพร้อมพงศ์ กล่าวถึงกรณีเหตุการณ์คาร์บอมบ์ที่ อ.สุไหงโกลก จ.นราธิวาสว่า ขอประณามพฤติกรรมของกลุ่มก่อเหตุว่า เป็นการกระทำป่าเถื่อน โหดร้าย เพราะขณะนี้กำลังเข้าสู่เดือนรอมฎอนของชาวไทยมุสลิม เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนอกจากทำร้ายคนไทยด้วยกันแล้ว ยังป่าเถื่อนที่ทั่วโลกยอมรับไม่ได้ ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร กำลังสนธิกำลังเอาผิดกับผู้ก่อเหตุอยู่ ทั้งนี้พรรคเพื่อไทยเป็นห่วงเรื่องสถานการณ์ในพื้นที่ จึงส่งคณะทำงานลงพื้นที่ไปช่วยเก็บข้อมูลเพื่อช่วยรัฐบาลอีกทางหนึ่ง