“เทพชัย หย่อง” ถอนตัวจากผู้สมัคร “ผอ.ส.ส.ท.” สยบ พนง.ไทยพีบีเอสบีบ

ปิดตำนาน ผอ.ส.ส.ท.ยุคก่อตั้งไทยพีบีเอส “เทพชัย หย่อง” โพสต์เฟซบุ๊กถอนตัวผู้สมัคร ผอ.ส.ส.ท.อีกสมัย และสละสิทธิ์แสดงวิสัยทัศน์ต่อกรรมการนโยบาย พบก่อนหน้านี้พนักงานระดับล่างออกจดหมายเปิดผนึกกล่าวหาเล่นพรรคเล่นพวก ดึงคนของตัวเอง การบริหารงานล้มเหลว “ใบตองแห้ง” ยุส่งอ้างขัดแย้งกับ “สมชัย สุวรรณบรรณ” เหน็บมีแต่พวกคนดี ท้าผู้สมัครประชันออกทีวี

วันนี้ (19 ก.ค.) นายเทพชัย หย่อง ผู้อำนวยการองค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย (ส.ส.ท.) หรือไทยพีบีเอส ได้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก “Thepchai Yong” ระบุว่า “เช้าวันนี้ ผมได้ถอนใบสมัครตำแหน่งผู้อำนวยการองค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย (ไทยพีบีเอส) และสละสิทธิ์การเข้าแสดงวิสัยทัศน์ต่อกรรมการนโยบายที่กำหนดไว้ในวันที่ 26 ก.ค.นี้ ผมขอขอบคุณเพื่อนๆ และทุกๆ ท่านที่ให้กำลังใจ และสนับสนุนการทำงานของผมมาตลอด ผมมีความเชื่อมั่นว่าไทยพีบีเอสจะเดินหน้าในฐานะสื่อสาธารณะที่มีคุณภาพอย่างมั่นคงต่อไป”

ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 18 ก.ค.มีพนักงาน ส.ส.ท.กลุ่มหนึ่ง โดยใช้ชื่อว่า “พนักงาน ส.ส.ท.ที่ต้องการสงวนรักษาสื่อสาธารณะให้เป็นสมบัติของประชาชนต่อไปอย่างยั่งยืน” ได้เผยแพร่จดหมายเปิดผนึก มีเนื้อหาวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของฝ่ายบริหาร ในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา และมีนัยยะโจมตี นายเทพชัย และผู้บริหาร ส.ส.ท.ชุดที่ผ่านมา ด้วยข้อกล่าวหาเข้ามาดำรงตำแหน่งใน ส.ส.ท.ด้วยความไม่ชอบธรรม และไม่ผ่านการประเมินที่ถูกต้อง ขาดความโปร่งใส ด้วยระบบเครือข่ายดึงกันมา เพราะเป็นคนของตนเอง และอ้างว่า การบริหารจัดการใน ส.ส.ท.ช่วงที่ผ่านมาล้มเหลว ทั้งนี้ ได้เรียกร้องให้ขอให้ผู้บริหารคนดังกล่าวพิจารณาลาออกจากตำแหน่ง รวมทั้งให้ตรวจสอบผู้บริหารระดับผู้อำนวยการสำนัก ตลอดจนตำแหน่งผู้ชำนาญการ ตำแหน่งผู้จัดการที่เข้ารับตำแหน่งตั้งแต่ปี 2554 ถึงปัจจุบัน นับตั้งแต่กระบวนการสัมภาษณ์ คัดเลือก ประเมินผล เพื่อบรรจุเป็นผู้อำนวยการสำนัก และผู้จัดการ และขอให้ผู้บริหาร ส.ส.ท.ทุกตำแหน่งคุ้มครองที่ร่วมใช้สิทธิในการตั้งกระทู้ต่อคณะกรรมการตรวจสอบร้องเรียนของพนักงาน เพื่อปกป้องไม่ให้ใช้อำนาจคุกคามพนักงานที่ดำเนินการร้องเรียน

นอกจากนี้ยังขอให้พิจารณาตรวจสอบฐานเงินเดือนตามความสามารถและประสบการณ์ของพนักงานนั้นๆ อย่างถูกต้องเป็นธรรม เพื่อนำไปสู่การพิจารณาทบทวนรื้อฐานปรับปรุงเงินเดือนใหม่ และการปรับโครงสร้างค่างานใหม่ทั้งหมด ตามความสามารถและประสบการณ์ของพนักงานอย่างถูกต้องเป็นธรรม รวมทั้งขอให้ทบทวนปรับปรุงสวัสดิการรักษาพยาบาลต่างๆ ตลอดจนอัตราค่าเบี้ยเลี้ยงการปฏิบัติหน้าที่ในประเทศ และต่างประเทศ เพื่อให้สอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจ รวมทั้งค่าเบี้ยเสี่ยงภัย ค่าปฏิบัติงานล่วงเวลา รวมทั้งอ้างว่า พนักงานที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมในเรื่องต่างๆ ที่ถูกละเลยจากการปฏิบัติหน้าที่ในการตรวจสอบ ขอให้นำกลับมาพิจารณาอย่างเร่งด่วน ส่วนผู้บริหารที่กระทำการข่มขู่พนักงาน ทั้งด้วยวาจา หรือการกระทำใดๆ ที่เป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคลและขวัญกำลังใจพนักงานขอให้พิจารณาลาออกจากตำแหน่ง และขอให้กำหนดกลไกใหม่ในการประเมินผลระดับผู้อำนวยการทุกๆ 2 ปี

ขณะที่ นายอธึกกิต แสวงสุข เจ้าของนามปากกา “ใบตองแห้ง” ในเว็บไซต์ประชาไท และผู้ดำเนินรายการ “ใบตองแห้งออนแอร์” ทางสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมวอยซ์ทีวีของนายพานทองแท้ ชินวัตร ได้เขียนบทความเรื่อง “ศึกสายเลือดคนดีเขย่า TPBS” เผยแพร่ในเว็บไซต์มีเดีย อินไซด์ เอ้าท์ เมื่อวันที่ 13 ก.ค.สรุปได้ว่า ในวันที่ 9 ต.ค.นายเทพชัย จะครบวาระ โดย นพ.พลเดช ปิ่นประทีป ประธานกรรมการนโยบาย ได้ออกประกาศรับสมัครบุคคลเพื่อเข้ารับการสรรหาเป็นผู้อำนวยการใหม่ ตั้งแต่วันที่ 5 มิ.ย.ถึงวันที่ 4 ก.ค.ทราบมาว่า มีผู้สมัคร 4 คน คือ นายเทพชัย, นายสมชัย สุวรรณบรรณ ลาออกจากกรรมการนโยบายมาสมัคร, นายวสันต์ ภัยหลีกลี้ รองผู้อำนวยการด้านปฏิบัติการ, ผศ.นลินี สีตะสุวรรณ ภาควิชาศิลปะการละคร คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

นายอธึกกิต อ้างว่า ขณะนี้ได้เกิดความขัดแย้งระหว่าง นายสมชัย และ นายเทพชัย ซึ่งเป็นผู้สมัครในตำแหน่ง ผอ.ส.ส.ท. และตั้งคำถามว่า ทำไมกรรมการนโยบายจะต้องเร่งรีบคัดเลือกผู้อำนวยการใหม่ และทำไมจึงมีคนสมัครแค่คนใน 4 คนเท่านั้น รวมทั้งยังเปิดเผยว่า หลังจากที่พิธีเปิดที่ทำการ ส.ส.ท.อย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 17 ก.ค.ไปแล้ว พนักงานระดับล่างของ ส.ส.ท.จะออกมาเคลื่อนไหว อย่างไรก็ตาม ที่ต้องระบุว่า สงครามคนดี เพราะเรื่องนี้ไม่มีนักการเมือง และกลุ่มคนเสื้อแดงเข้าไปเกี่ยวข้อง โดยอ้างว่า มีการล็อกสเปกกรรมการสรรหากรรมการนโยบายไว้แล้วว่าต้องมาจากองค์กรสื่อ และองค์กรในเครือข่าย นพ.ประเวศ วะสี ราษฎรอาวุโส รวมทั้งมีปลัดกระทรวง 4 กระทรวง ซึ่งโจมตีว่าเป็นตัวแทนประชาชนทั้งประเทศจริงหรือไม่ พร้อมเสนอให้ผู้สมัครทุกคนแสดงวิสัยทัศน์ประชันกันทางรายการในสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส โดยท้ายข้อเขียนได้เสนอให้ไทยพีบีเอส สรุปปัญหา ทิศทางแนวทาง นโยบายการบริหาร ฯลฯ โดยให้พนักงานระดับล่างมีส่วนร่วม ให้โอกาสเสนอปัญหาระบายความอึดอัดใจอย่างเต็มที่