รองนายกรัฐมนตรีชี้ข่าวถูกเด้งไปนั่ง มท.1 แค่ลือหวังให้แคลงใจ “ยงยุทธ” โอ่รักกันดี ยันยังสนุกงานปราบยาเสพติดอยู่ โยนนายกฯ ตัดสินใจ รับถ้าให้ไปก็ไม่เหมาะ แต่ชู “เพรียวพันธ์” ก็เหมาะถ้านั่งแทน ยัน “ป้าหมิ่น” ยังไม่ออกนอกไทย ปัดตำรวจช่วย ลั่นไม่มีแทรกแซงคดี โบ้ยหมอดูวิกลจริตหรือไม่ ไม่พูดแก้รัฐธรรมนูญ ย้ำต้องรายมาตรา เผยสั่งเลื่อนถก ก.ตร.โยกย้ายตำรวจแล้ว
วันนี้ (19 ก.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 10.40 น. ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกระแสข่าวที่อาจมีการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ให้ ร.ต.อ.เฉลิมไปเป็น รมว.มหาดไทย ว่าเป็นเพียงข่าวลือที่สร้างความสับสน และต้องการให้ตนคลางแคลงใจกับนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกฯ และ รมว.มหาดไทยคนปัจจุบัน ซึ่งเป็นไปไม่ได้ เพราะตนกับนายยงยุทธคบกันตั้งแต่สมัยที่ตนเป็น รมว.มหาดไทย และนายยงยุทธเป็นที่ปรึกษา นอกจากนี้ยังรู้จักกันมายาวนาน คนตัดสินใจคือนายกรัฐมนตรี หากไม่แล้วอะไรก็เกิดขึ้นไม่ได้ ที่สำคัญตนยังสนุกกับงานที่ทำอยู่ โดยเฉพาะงานปราบปรามยาเสพติด
“ให้ผมทำงานตรงนี้ถูกที่ถูกทางแล้ว อย่าไปเชื่อเรื่องที่ไม่เป็นจริง นายกฯ ยังไม่คิดอะไรเลยก็ไปออกข่าวปล่อยข่าวกัน ตำแหน่ง รมว.มหาดไทยเหมาะกับท่านยงยุทธอยู่แล้ว ไม่เหมาะกับผม ไม่อยากให้พูดถึง เพราะเป็นไปไม่ได้” ร.ต.อ.เฉลิมกล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า ที่ผ่านมาผลงานของกระทรวงมหาดไทยในความดูแลของนางยงยุทธไม่โดดเด่นเท่าที่ควร รองนายกฯ กล่าวเพียงว่า “มาถามผมแบบนี้ได้อย่างไร เดี๋ยวหัวหน้าพรรคดุเอา” และเมื่อถามว่าในอดีต ร.ต.อ.เฉลิมเคยพูดไว้เองว่าตัวเองเหมาะสมกับงานในกระทรวงมหาดไทย ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า เคยเป็นมาแล้ว ตอนนี้ไม่สนใจแล้ว
ส่วนกระแสข่าวการที่ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ผบ.ตร.อาจจะเข้ามาเป็นรองนายกฯ ดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) และการปราบปรามยาเสพติด ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า ถือว่าเหมาะสม พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ถนัดงานนี้มากกว่าตนเองเสียอีก เพราะปรามยาเสพติดมาทั้งชีวิต มีความชำนาญ เป็นคนดีมีความรู้ซื่อสัตย์ และเป็นนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ที่ข้าราชการให้ความเคารพนับถือ
ผู้สื่อข่าวยังได้ถามถึงความคืบหน้าการดำเนินคดีต่อนางฐิตินันท์ แก้วจันทรานนท์ ซึ่งเป็นผู้ที่กระทำการมิบังควรต่อพระบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า ได้ตรวจสอบแล้วไม่มีการเดินทางออกนอกประเทศ ทั้งนี้เวลาที่สื่อมวลชนนำเสนอข่าวบางอย่างทำให้ตำรวจเสียหายและกระทบมาถึงรัฐบาล เพราะถูกมองว่าไปสั่งให้ตำรวจช่วยเหลือ แต่ยืนยันว่าไม่มีใครทำอย่างนั้น สำหรับการดำเนินคดีก็ให้เป็นไปตามกระบวนการทางกฎหมาย ผิดต้องว่าไปตามผิด ไม่มีการแทรกแซงอย่างแน่นอน ส่วนที่มีการพูดกันว่านางฐิตินันท์เป็นคนวิกลจริตนั้นก็ขึ้นอยู่กับการวินิจฉัยของแพทย์ ตำรวจไม่สามารถอ้างได้ว่าใครวิกลจริตหรือไม่
ส่วนความเคลื่อนไหวในการแก้รัฐธรรมนูญที่ล่าสุดนายอุกฤษ มงคลนาวิน ประธานกรรมการอิสระว่าด้วยการส่งเสริมหลักนิติธรรมแห่งชาติ (คอ.นธ.) เสนอให้นำรัฐธรรมนูญฉบับปี 2517 มาปรับปรุงแก้ไขนั้น ร.ต.อ.เฉลิมปฏิเสธที่จะตอบคำถาม โดยกล่าวว่าเรื่องนี้ซ้ำซาก ไม่ขอพูดอีก เพราะพูดมาบ่อยครั้งแล้ว รอให้พรรคมีมติแล้วค่อยว่ากันต่อไป เพราะคนคนเดียวตัดสินใจไม่ได้
เช่นเดียวกับข้อถามถึงข้อเสนอของนายโภคิน พลกุล อดีตประธานรัฐสภาผู้แทนราษฏร ที่เสนอให้รัฐบาลแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นรายมาตรา โดยเฉพาะมาตรา 309 นั้น ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวเพียงว่าไม่มีความเห็น แต่ยืนยันว่าควรแก้ไขเป็นรายมาตรา
ผู้สื่อข่าวยังได้ถามถึงกำหนดการประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ในวันพรุ่งนี้ (20 ก.ค.) ซึ่งอาจมีวาระเกี่ยวกับการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจ รองนายกฯ กล่าวว่า ได้สั่งเลื่อนการประชุมออกไปก่อน โดยในการประชุมครั้งก่อนนายกฯ ได้มีบัญชาว่าการแต่งตั้งโยกย้ายต้องเป็นไปตามกรอบเวลาของกฎหมาย เนื่องจากปีที่แล้วแต่งตั้งล่าช้ามาก ซึ่งขณะนี้ยังถือว่าทันตามกรอบเวลาอยู่ โดยตนให้มีการตรวจสอบคุณสมบัติความอาวุโส และตำแหน่งงานในระดับใดที่ว่าง ซึ่งจะยึดหลักความอาวุโส และหลักการแต่งตั้งของ ก.ตร.ที่มีอยู่ เชื่อว่าจะเรียบร้อยดี คงไม่มีปัญหาหรือการวิ่งเต้นอะไร ทั้งนี้จะมีการประชุมในเร็วๆ นี้
