xs
xsm
sm
md
lg

ปัญหาเศรษฐกิจ-ปากท้องจะน็อกรัฐบาลปู!!

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ผ่าประเด็นร้อน

“ดีแต่โม้ ดีแต่กู้ กู้มาโกง แพงทั้งแผ่นดิน” ฯลฯ

คำเหล่านี้เคยได้ยินคุ้นหูเห็นคุ้นตาสมัยที่พรรคเพื่อไทยเป็นฝ่ายค้าน และคนเสื้อแดงมวลชนของพรรคเพื่อไทยกำลังเคลื่อนไหวสร้างความปั่นป่วนรัฐบาลที่แล้ว แต่มาบัดนี้ทุกอย่างกำลังย้อนกลับมาหารัฐบาลพรรคเพื่อไทยที่มี ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี

ที่ผ่านมามีแต่ข่าวเรื่องแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาจนถึงลุ้นว่าศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยออกมาอย่างไร แต่นั่นไม่ใช่เป็นเรื่องของชาวบ้าน เป็นเรื่องของผลประโยชน์นักการเมืองล้วนๆ แต่เป็นเพราะสื่อมีการประโคมข่าวตลอดเวลาทำให้ดูเหมือนว่าสังคมสนใจไปทางนั้น แต่เมื่อเรื่องดังกล่าวผ่านไป ทุกคนก็เริ่มกลับมาตั้งสติย้อนกลับมาล้วงเงินในกระเป๋ากลับพบว่าเงินไม่ได้เพิ่มขึ้น ตรงกันข้ามกลับร่อยหรอลง จากสารพัดปัญหาที่รุมเร้าเข้ามา

สาเหตุสำคัญมาจากฝีมือการบริหารที่ไม่เอาไหนของรัฐบาล ไล่ตั้งแต่นายกรัฐมนตรีลงมา ไปจนถึงรัฐมนตรีที่รับผิดชอบในแต่ละเรื่อง และอย่าได้แปลกใจที่ล่าสุดผู้บริหารหอการค้าไทยที่ให้คะแนนผลงานรัฐบาลครบรอบ 1 ปี ได้แค่ 5 คะแนนจากคะแนนเต็ม 10 พร้อมทั้งให้ลดการปรับลดประมาณการขยายตัวทางเศรษฐกิจในปีนี้ลงเหลือร้อยละ 5.6 จากเดิมร้อยละ 5.9 ซึ่งหากพิจารณากันตามความเป็นจริงแล้วการให้คะแนนแบบนี้ถือว่า “เกรงใจ” ที่สุดแล้ว

เพราะในคำแถลงของ พรศิลป์ พัชรินทร์ตนะกุล กรรมการรองเลขาธิการหอการค้าไทยบอกว่ารัฐบาลควบทบทวนนโยบายที่ติดลบคือการอุดหนุนสินค้าเกษตร เป็นการบิดเบือนกลไกตลาด ส่งผลกระทบต่อการส่งออก ซึ่งหากกล่าวให้เห็นภาพก็คือ โครงการจำนำราคา ที่ตั้งราคาไว้สูงเกินจริง ทำให้ไทยแข่งขันไม่ได้ รวมไปถึงค่าแรงขั้นต่ำวันละ 300 บาท ที่กระทบต่อต้นทุน

ที่สำคัญนโยบายดังกล่าวไม่ได้ส่งผลดีกับเกษตรกร ตรงกันข้ามกลับเปิดช่องให้มีการทุจริตกับเจ้าหน้าที่พ่อค้า และนักการเมืองที่รวมหัวกัน และในท้ายที่สุดก็กลายเป็นหนี้สาธารณะที่เป็นภาระ

นอกจากนี้ หอการค้าไทยยังเห็นว่าโครงการฟื้นฟูเศรษฐกิจจากเหตุการณ์น้ำท่วมยังล่าช้าและมาตรการในการกระตุ้นเศรษฐกิจยังไม่ชัดเจน การเมืองที่ยังไม่นิ่งรวมทั้งภาวะปัญหาเศรษฐกิจของโลกที่ยังยืดเยื้อ ทำให้ดูแล้วบรรยากาศช่างไม่สดใสเอาเสียเลย

ที่ผ่านมาถือว่าผลงานของรัฐบาลตั้งแต่ต้นมาจนถึงปัจจุบันที่จะครบรอบ 1 ปีเต็มในอีกไม่กี่วันข้างหน้า ทำได้ไม่สมราคาคุยประเภท “ทักษิณคิดเพื่อไทยทำ” เพราะถ้าทักษิณ และทำได้แค่นี้ถือว่า “กระจอก” มาก และคนเสื้อแดงก็ไม่สมควรจะไปเสียเวลาสละความสุขเพื่อไปต่อสู้ให้กับคนไม่เอาไหนแบบนี้ เพราะผ่านมาถึงขนาดนี้ มีสรรพกำลังอยู่ในมือพร้อมสรรพทั้งในและนอกสภา นายกรัฐมนตรีเดินทางไหนๆ ก็ไม่มีม็อบมาตะโกนไล่ให้รำคาญ

แต่ผลที่ออกมาน่าผิดหวัง เลวร้ายยิ่งกว่ารัฐบาลชุดที่แล้วเสียอีก ไม่มีอะไรโดดเด่นน่าจดจำ มีนายกรัฐมนตรี หรือรัฐมนตรีแต่ละคนเหมือนกับไม่มี ดีแต่พูดและกล่าวโทษคนอื่นอยู่ร่ำไป

น่าเป็นห่วงก็คือวิกฤตเศรษฐกิจภายนอก อย่างเช่นยูโรที่กำลังลุกลามเข้ามาจ่อคอหอยเรื่อยๆ อย่างน้อยที่ได้รับผลกระทบเห็นชัดๆก็คือการส่งออกสินค้าไปยังกลุ่มประเทศเหล่านี้ รวมทั้งนักท่องเที่ยวที่เข้ามาบ้านเราก็เริ่มเหี่ยวเฉาแล้ว หากยังหวังพึ่งพาจีน ก็ต้องเตรียมใจไว้ล่วงหน้า เพราะล่าสุดได้มีการคาดการณ์ตัวเลขการขยายตัวทางเศรษฐกิจลดต่ำลงเป็นครั้งแรกโดยกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) และยังคาดการณ์แนวโน้มทั้งปีจะลดลงอีก ซึ่งถ้าเป็นแบบนั้นจริงทั้งโลกก็จะซบเซาหนักไปอีก

อย่างไรก็ดี สำหรับประเทศไทยน่าเป็นห่วงไปกว่านั้นก็คือรัฐบาลโดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กิตติรัตน์ ณ ระนอง เตรียมออกพระราชบัญญัติกู้เงินจำนวน 2 ล้านล้านบาทเป็นการเฉพาะ อ้างว่าเพื่อนำมาลงทุนทางด้านสาธารณูปโภคพื้นฐาน ทั้งถนน ระบบราง ระบบน้ำ ท่าเรือ ฯลฯ เพื่อความเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจอาเซียน ลดต้นทุนค่าขนส่ง แต่ปัญหาก็คือตัวบุคคลที่มาดำเนินการมันไม่น่าไว้วางใจและไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอต่างหาก และหากพิจารณาตามความเป็นจริงส่วนหนึ่งก็เป็นการกู้เงินมาเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจภายในเพื่อรับมือกับวิกฤติเศรษฐกิจภายนอกที่เริ่มส่งผลชัดเจนในปีหน้า แต่ขณะเดียวกันนั่นคือหนี้สาธารณะก้อนใหญ่ที่ชาวบ้านทุกคนต้องแบกรับ

ดังนั้น หากพิจารณาจากฝีมือของรัฐบาล และปัญหาในอนาคตที่กำลังรุมเร้าเข้ามาทั้งภายในภายนอก มันย่อมส่งผลต่อปากท้อง ชาวบ้านเริ่มชักหน้าไม่ถึงหลังมากขึ้น บางครั้งหากมองในมุมบวกการที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยออกมาแบบกลางๆ ยกคำร้องเรื่องการล้มล้างการปกครองฯไม่มีผลต่อการยุบพรรคก็ดีเหมือนกัน เพราะยิ่งคนพวกนี้อยู่นานเท่าไหร่ธาตุแท้แบบกลวงๆก็จะแสดงออกมาให้เห็นเรื่อยๆ ในที่สุดก็จะทำให้การเมืองกลับเข้าสู่ความสมดุล และนานไปชาวบ้านก็จะได้เห็นเองว่า ทักษิณ ชินวัตร และเครือข่ายของเขานั่นแหละไม่ใช่เทวดา แต่เป็นพวกที่สร้างความเดือดร้อนตลอดมา

และในที่สุดปัญหาปากท้อง ความล้มเหลวในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ จะเป็นตัวทำลายรัฐบาลชุดนี้!!
กำลังโหลดความคิดเห็น