xs
xsm
sm
md
lg

“เขมร” ต้มเปื่อยไทย! หลอกเพิ่มกำลัง - กลับคำเปิดประตูห้วยตานี

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


แหล่งข่าวสายความมั่งคง ปูดเขมรตบตาถอนกำลัง 500 นาย แต่ส่งทหารผสมตำรวจ 700 นายขึ้นไปแทน ชี้เป็นการ “ผลัดพัก” 5-7 วัน ก่อนกลับเข้าประจำการปกติในพื้นที่ใกล้เคียง แถมปลิ้นปล้อนไม่เปิดประตูห้วยตานีตามที่พูด

วันนี้ (18 ก.ค) เมื่อวเลา 18.30 น. เว็บไซต์ฟิฟทีนมูฟรายงานความเคลื่อนไหวการปรับกำลังทหารบนเขาวิหาร ว่า เสร็จสิ้นไปแล้วเมื่อช่วงเช้าสำหรับการปรับกำลังขึ้นที่ 1 ของฝ่ายเขมร ตามกำหนดของฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ตอบโต้การเดินเกมเตะถ่วงของฝ่ายไทยที่ทำให้การถอนทหารตามกำหนดในมาตรการชั่วคราวของศาลโลกล่าช้ามากว่า 1 ปี ผลจากความไม่พอใจต่อท่าทีไทยในการประชุมคณะทำงานร่วมครั้งล่าสุดที่กรุงพนมเปญ ที่พยายามนำเอาประเด็นการเก็บกู้ทุ่นระเบิดมาบังหน้าให้การถอนทหารถูกลากยาวออกไปอีก ทำให้ฝ่ายกัมพูชาโดยฮุน เซน ปรับเกมเล่นประกาศถอนทหารโดยสมัครใจแต่ฝ่ายเดียว โดยเป็นการถอนแบบขั้นแรกร่วม 500 นาย เพื่อส่งสัญญาณว่ากัมพูชามีความตั้งใจจริงที่จะปฏิบัติตามศาลโลก เคารพกฎหมายและต้องการสันติภาพ อีกทางเมื่อเดินเกมปล่อยข่าวถอนทหาร 18 กรกฎาคม ก็กวักเมือเรียก น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีไทย พร้อมด้วยผู้นำทหารไปหารือถึงบ้านที่เมื่องเสียมราฐ เสร็จสิ้นการพบปะก็ออกให้ข่าวพร้อมหน้าระบุสองฝ่ายเห็นชอบร่วมกันที่จะถอนทหารออกจากเขตปลอดทหาร

เดือดร้อนผู้นำทหารฝ่ายไทยที่ต้องหารือเร่งด่วนก่อนเดินทางพบฮุน เซน ที่เป็นเกมบังคับว่าต้องมีอะไรติดไม้ติดมือไปคุย และส่ง ตชด.เข้าพื้นที่ล่วงหน้า ที่สุดท้ายก็ออกมาว่าไทยเห็นชอบว่าตามเขมร และถอนทหารในวันเวลาเดียวกันด้วยวาทะ “ปรับกำลัง” เพื่อผ่อนหนักผ่อนเบา กลบเกลื่อนแบบไร้ทางไป เสียท่าเด็กวัดฮวยเซง

แหล่งข่าวสายความมั่งคงได้ให้ข้อมูลกับฟิฟทีนมูฟ โดยอ้างแหล่งข่าวนายทหารเขมรระดับสูงประจำการปราสาทพระวิหาร ระบุว่า กำลังฝ่ายกัมพูชาที่ขึ้นไปใหม่ประกอบด้วย 4 ส่วน คือ ตำรวจป้องกันพรมแดนหรือ ตชด.ของเขมร ตำรวจท่องเที่ยว ตำรวจมรดกโลก และกำลังเจ้าหน้าที่องค์การพระวิหาร ซึ่งเรียกกันว่าตำรวจยูเนสโก แม้ตัวเลขรายงานตามสื่อระบุว่ามีเพียงประมาณ 300 นาย แต่ตัวเลขจริงที่นายทหารเขมรคนดังกล่าวและหน่วยข่าวระบุสอดคล้องกัน คือ มีกว่า 700 นาย และทั้งหมดเป็นทหารผสมตำรวจบางส่วนจากที่อื่นซึ่งไม่คุ้นหน้า

เป็นที่สังเกตด้วยว่า กำลังหลักที่ระบุว่าถอนลงมาจำนวน 485 คน นั้น เป็นทหารหน่วยในสังกัดกองพลสนับสนุนที่ ๓ ของ พล.ท.สเร็ย ดึ๊ก และกองพลน้อยสนับสนุนที่ 7 ซึ่งอาจเรียกได้ว่าเป็นทหารประจำถิ่น มีบ้านพักและที่ดินทำกินอยู่บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ในเขต จ.พระวิหาร กระจายตั้งแต่บริเวณใกล้ปราสาทไปจนถึงพื้นที่สามเหลี่ยมมรกต ไทย-ลาว-เขมร โดยการถอนกำลังลงมาครั้งนี้ เป็นการ “ผลัดพัก” 5-7 วัน ก่อนกลับเข้าประจำการในพื้นที่โดยรอบเหมือนเดิมในฝั่งกัมพูชา

แหล่งข่าวสายความมั่นคงจึงสรุปสั้นๆ ว่าไทยแพ้ทางอย่างหนัก ขณะที่ฝ่ายเขมรหลอกเพิ่มกำลังแบบจริงจัง “หน้าด้านๆ”

มีรายงานเล็กๆ ส่งท้ายจากสายข่าวในพื้นที่ว่า การประจำการวันแรกของ ตชด.ไทย สถานการณ์ในพื้นที่ไม่สู้ดีนัก ล่าสุดเมื่อช่วงเย็นมีการขนทหารขึ้นไปยังเขาพระวิหารด้วยรถจีเอ็มซี 5 คัน ยังไม่ทราบวัตถุประสงค์ชัดเจน

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ในวันเดียวกันนี้ ซีอีเอ็นรายงานว่า นายจุจ เภือน ประธานองค์การพระวิหาร กล่าวหลังเสร็จพิธีปรับกำลังทหารขั้นที่ 1 เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ว่ารัฐบาลกัมพูชาจะไม่เปิดประตูเหล็กข้ามห้วยตานี ตรงข้ามบันไดทางขึ้นปราสาทพระวิหารอีก เพราะประตูดังกล่าวได้สร้างความขัดแย้งระหว่างสองประเทศ แต่รัฐบาลกัมพูชาและไทยได้เห็นชอบร่วมกันที่จะเปิดด่านช่องอานม้า ในพื้นที่ อ.จอมกะสานต์ เป็นด่านเศรษฐกิจอาเซียน

ก่อนหน้านี้ ภายหลังการพบกันระหว่าง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และนายฮุน เซน ที่เมืองเสียมราฐ เมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม 2555นายกรัฐมนตรีกัมพูชาเปิดเผยว่าไทยและกัมพูชาเห็นชอบร่วมกันที่จะถอนทหารออกจากเขตปลอดทหาร และจะเปิดประตูห้วยตานีให้นักท่องเที่ยวเข้าชมปราสาทฯ ตามปกติ พร้อมกับได้เรียกร้องให้นักท่องเที่ยวทั้งภายในและนอกประเทศเข้าเที่ยวชมปราสาทพระวิหาร และจังหวัดของไทย นอกจากนี้ได้เห็นชอบร่วมกันที่จะเปิดด่านช่องอานม้า อย่างเป็นทางการเพิ่มอีกแห่ง
กำลังโหลดความคิดเห็น