รมช.เกษตรฯ เผยสั่งตรวจสอบปริมาณยางพาราจากเอกชนเพื่อนำเข้าโครงการราคายางพารา และเตรียมเรียกผู้ว่าฯ 47 จังหวัดทำความเข้าใจ พร้อมตั้งดูแลงบ 1.5 หมื่นล้าน ยันจัดการหากพบการตรึงราคา
วันนี้ (18 ก.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวถึงกรณีความคืบหน้าเรื่องโครงการราคายางพาราว่า ขณะนี้ตนได้มอบหมายให้กรมวิชาการเกษตรไปดำเนินการตรวจสอบสต๊อกยางจากเอกชนที่ส่งออก หาปริมาณผลผลิตในตลาดกลางและสต๊อกส่งออก ในการหาปริมาณการดึงผลผลิตเข้ามาเก็บของโครงการสวนยางว่าตอนนี้ตัวเลขควรจะเป็นเท่าไร เพื่อประเมินอนาคตของโครงการได้
นอกจากนี้จะเชิญผู้ว่าราชการจังหวัดใน 47 จังหวัดที่มีพื้นที่ปลูกยางพารามาประชุมร่วมกันเพื่อทำความเข้าใจถึงแนวทางปฏิบัติโครงการ อีกทั้งยังจะมีการขอกำลังผู้ว่าฯ ในแต่ละจังหวัดให้มาเป็นแม่งานในฐานะที่เป็นประธานอนุกรรมการบริหารจังหวัดในโครงการ 1.5 หมื่นล้านบาทอยู่แล้ว เสมือนการปรับมาตรการการยกระดับราคา แล้วก็มีหลักเกณฑ์ต่างๆ ของโครงการที่ปรับเปลี่ยนไป ทั้งนี้ตนอยากให้ผู้ว่าฯ เกิดความเข้าใจตรงกันเพื่อการขับเคลื่อนโครงการจะได้ไม่เป็นปัญหา
นายณัฐวุฒิกล่าวต่อว่า ในส่วนกรมวิชาการเกษตรที่จะทำการเข้าไปตรวจสอบสต๊อกยางพารา ที่เอกชนส่งออกนั้น เรื่องนี้ได้มีการสั่งการไปแล้วในวันนี้ ส่วนผู้ว่าฯ ในจังหวัดต่างๆ ก็จะทำหนังสือเรียนเชิญ ซึ่งคาดว่าภายในสัปดาห์หน้าก็น่าจะพร้อมในการหารือและเข้าร่วมประชุมได้ทั้งหมด
ส่วนกรณีที่มีนายทุนเข้าไปซื้อยางตามจังหวัดต่างๆ เพื่อนำมาตรึงราคาไว้นั้น นายณัฐวุฒิกล่าวว่า ตนได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปดูแลแล้ว ไม่ว่าจะเป็นองค์กรสวนยาง กองทุนสงเคราะห์การทำสวนยาง หรือกรมวิชาการเกษตร โดยได้เร่งรัดให้มีการประชาสัมพันธ์ขึ้นในระดับพื้นที่ โดยสั่งการให้มีการจัดประชุมเกษตรกรและกลุ่มผู้ทำสวนยางในพื้นที่ต่างๆ เพื่อสร้างความเข้าใจร่วมกันในหลายๆ จุด
“ผมเชื่อว่าผ่านไปวันสองวันข่าวนี้ก็จะครอบคลุมทั่วพื้นที่ ในขณะเดียวกันการทำความเข้าใจกับผู้ว่าฯ ก็จะเป็นเครื่องยืนยันอีกทางหนึ่งว่า การดำเนินงานในรายการนี้ได้สื่อสารกับผู้รับผิดชอบในระดับพื้นที่ และการกระะจายข้อมูลไปถึงเกษตรกรได้จริงๆ ส่วนเอกชนและผู้ค้ารายย่อยต่างๆ ที่จ้องจะเอารัดเอาเปรียบเกษตรกรจากโครงการนี้นั้น ถ้าผมตรวจพบก็จะดำเนินการตามกฎหมายอย่างเด็ดขาดทันที เ พราะโครงการดังกล่าวนี้รัฐบาลตั้งใจว่าจะเป็นโครงการที่ช่วยลดผลกระทบ และดูแลคุณภาพชีวิตให้กับพี่น้องเกษตรกร ดังนั้นผมจึงอยากขอความกรุณาว่า อย่าหาเศษหาเลยหรือหาประโยชน์อันมิควรกับโครงการดังกล่าวนี้เลย” นายณัฐวุฒิ กล่าว