มะเร็ง-โรคไตคร่าชีวิต “สถาพร มณีรัตน์” ส.ส.เพื่อไทยลำพูน

ส.ส.ลำพูนเขต 2 พรรคเพื่อไทย “สถาพร มณีรัตน์” เสียชีวิตแล้วด้วยโรคมะเร็งและโรคไตเมื่อช่วงบ่ายวันนี้ หลังล้มป่วยพักรักษาตัวมานานหลายเดือน ก่อนย้ายมาที่ รพ.มหาราชนครเชียงใหม่ ญาติเตรียมทำพิธีฌาปณกิจที่บ้านเกิด กกต.เตรียมจัดการเลือกตั้งใหม่ภายใน 45 วัน “สุริยะใส” รำลึกสถาพรเคยร่วมคัดค้านแปรรูปรัฐวิสาหกิจด้วยกัน ผลักดันข้อเสนอชาวบ้านปากมูลต่อผู้บริหาร กฟผ. เผยแม้เลือกยืนคนละข้างแต่ให้เกียรติกัน ขออโหสิกรรมต่อกัน

วันนี้ (14 ก.ค.) มีรายงานว่า นายสถาพร มณีรัตน์ ส.ส.ลำพูน เขต 2 พรรคเพื่อไทย ได้เสียชีวิตแล้วด้วยโรคมะเร็งและโรคไต เมื่อเวลา 13.00 น. ที่โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ อ.เมืองฯ จ.เชียงใหม่ หลังก่อนหน้านี้ได้มีอาการเจ็บป่วยและเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลพระราม 9 มานานหลายเดือน ก่อนจะย้ายมารักษาต่อที่โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ ก่อนจะเสียชีวิตลงดังกล่าว ทั้งนี้ ศพของนายสถาพรยังอยู่ที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ มีกำหนดเคลื่อนศพในวันพรุ่งนี้ (15 ก.ค.) เวลา 08.00 น. เพื่อมาประกอบพิธีกรรมทางศาสนาที่วัดสันทราย หมู่ 5 ต.บ้านธิ อ.บ้านธิ จ.ลำพูน โดยจะมีพิธีรดน้ำศพในเวลา 15.00 น.

สำหรับนายสถาพร เกิดเมื่อวันที่ 20 เม.ย. 2505 ปัจจุบันอายุ 50 ปี สำเร็จการศึกษานิติศาสตรบัณฑิต มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช และรัฐศาสตรมหาบัณฑิต สาขารัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ สมรสกับนางลาวรรณ มณีรัตน์ มีบุตร 1 คน เริ่มเข้าสู่การเมืองโดยร่วมงานกับพรรคไทยรักไทย ลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อลำดับที่ 75 แต่ไม่ได้รับเลือกตั้งในคราวแรก จึงไรับการแต่งตั้งเป็นที่ปรึกษา พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีขณะนั้นด้านแรงงาน และที่ปรึกษานางลดาวัลลิ์ วงศ์ศรีวงศ์ รมช.แรงงานขณะนั้น

ต่อมาได้รับเลื่อนให้เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแทนตำแหน่งว่างเป็น ส.ส.สมัยแรก ต่อมา พ.ศ. 2548 ลงสมัครรับเลือกตั้งในระบบแบ่งเขต จ.ลำพูน ได้รับเลือกตั้งเป็นสมัยที่ 2 ใน พ.ศ. 2550 ลงสมัครรับเลือกตั้งในนามพรรคพลังประชาชน ได้รับการเลือกตั้งเป็นสมัยที่ 3 ใน พ.ศ. 2554 ลงเลือกตั้งในนามพรรคเพื่อไทย ได้รับการเลือกตั้งเป็นสมัยที่ 4 โดยในการรายงานตัวต่อสำนักเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรนายสถาพรได้หาบลำไยและกระเทียมเข้ามาในสภาด้วย เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลใหม่ช่วยเหลือปัญหาราคาผลผลิตทางการเกษตรตกต่ำ นอกจากนี้นายสถาพรยังเป็นแกนนำคนเสื้อแดงในจังหวัดลำพูนและในภาคเหนืออีกด้วย

ด้าน นายประพันธ์ นัยโกวิท กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวว่า หากมี ส.ส.เสียชีวิต กกต.ก็ต้องจัดการเลือกตั้งภายใน 45 วัน นับแต่วันที่เสียชีวิต

ด้าน นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานกลุ่มกรีน (Green Politics) ได้โพสต์ข้อความในทวิตเตอร์ @Suriyasai หลังทราบข่าวการเสียชีวิตของนายสถาพร ระบุว่า ตนขอแสดงความเสียใจต่อการเสียชีวิตของนายสถาพร ซึ่งเป็นอดีตประธานสหภาพแรงงาน กฟผ. ซึ่งเคยต่อสู้คัดค้านการแปรรูปรัฐวิสาหกิจมาด้วยกัน ในสมัยที่นายสถาพรเป็นประธานสหภาพฯ มีขุนพลคู่กายคือนายศิริชัย ไม้งาม ประธานสหภาพแรงงาน กฟผ.คนปัจจุบัน สร้างการนำที่เข้มแข็งมาก

ทั้งนี้ ตนเคยเป็นตัวกลางนัดพบระหว่างนายสถาพร ประธานสหภาพฯ ขณะนั้น กับ น.ส.วนิดา ตันติวิทยาพิทักษ์ ที่ปรึกษาสมัชชาคนจน เคลียร์ปัญหาช่วงชาวบ้านปากมูนชุมนุมปิดสันเขื่อน ซึ่งนายสถาพรนำข้อเสนอของชาวบ้านไปผลักดันกับผู้บริหาร กฟผ.แม้ไม่สำเร็จทุกเรื่อง แต่ก็ถือว่าทัศนคติของสหภาพฯ ในการต่อสู้ของคนรากหญ้าดีขึ้น

ต่อมาในยุคนายศิริชัยเป็นประธานสหภาพฯ การเชื่อมต่อระหว่างชาวบ้านรากหญ้ากับบรรดาสหภาพรัฐวิสาหกิจเกิดเป็นรูปธรรม โดยต่อต้านกฎหมายแปรรูปรัฐวิสาหกิจ นายสถาพรตัดสินใจเข้าสู่การเมืองในยุค พ.ต.ท.ทักษิณ พรรคไทยรักไทย และเป็นแกนนำเสื้อแดงทางแถบภาคเหนือ ในขณะที่ตนกับนายศิริชัยเลือกยืนฝั่งพันธมิตรฯ

“เพราะเดินคนละเส้นทางความคิดทำให้ผมแทบไม่ได้เจอ เจอครั้งสุดท้ายราวปี 50 สถาพรมารับผมที่สนามบินเชียงใหม่ ไปบรรยายที่แม่เมาะ ลำปาง ตกค่ำผมและสถาพร ตั้งวงกับสหายหลายท่านหลายสีคุยกันเรื่องการเมืองฉันมิตร แม้ต่างความคิดแต่ความเป็นเพื่อน เราต่างให้เกียรติกัน ขออโหสิกรรมต่อกัน ขอให้ดวงวิญญาณสถาพร มณีรัตน์ สู่สุคติ” นายสุริยะใสระบุ