ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - เคลียร์พื้นที่โดยรอบ ลีการ์เดนส์ ให้ประชาชนรับรถคืน เร่งตรวจสอบโครงสร้างโรงแรม ทน.นครหาดใหญ่เตรียมทำบุญใหญ่ เดินหน้าลุยจัดงาน “มิดไนท์สงกรานต์” ด้านผู้ว่าฯ ตั้งค่าหัว 2 ผู้ต้องสงสัย 1 ล้าน พร้อมช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบเต็มที่ เลขา ศอ.บต.ปฏิเสธ ไม่ได้คุยกับกลุ่มบีอาร์เอ็น
เหยื่อมาเลย์ปลื้ม “ราชินี” พระราชทานสิ่งของเยี่ยม
นายอุย ฟุกฉวน (Mr.Oui Fook Chuan) อายุ 33 ปี ชาวมาเลเซียหนึ่งในผู้บาดเจ็บที่ได้รับสิ่งของพระราชทานจาก สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ในวันนี้ (3 เม.ย.) กล่าวถึงความรู้สึกว่า ตนเองปลาบปลื้ม และซาบซึ้งใจเป็นอย่างมาก ที่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงห่วงใย และมอบสิ่งของพระราชทานให้ในครั้งนี้ ขอให้พระองค์ทรงพระเจริญ มีพระพลานามัยที่สมบูรณ์ แข็งแรง หลังจากนั้นเลขาธิการสภากาชาดไทยได้เดินทางไปเยี่ยมและมอบสิ่งของพระราชทานแก่ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บที่โรงพยาบาลกรุงเทพ-หาดใหญ่, โรงพยาบาลราษฎร์ยินดี, โรงพยาบาลหาดใหญ่ และโรงพยาบาลศิครินทร์
เด็ก 2 ขวบปลอดภัย
สำหรับจำนวนผู้บาดเจ็บขณะนี้เหลือที่รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลต่างๆ แค่ 54 ราย ในจำนวนนี้เป็นผู้ป่วยหนัก 19 ราย ส่วนอาการของ ด.ช.กันต์ณภัทตร์ อินทรสุวรรณ อายุ 2 ขวบ ล่าสุด พ้นขีดอันตรายแล้ว และแพทย์ได้ถอดเครื่องช่วยหายใจออก แต่ยังมีอาการปอดติดเชื้อ มีเสมหะหลอดลมบวม คาดว่าอีก 1 สัปดาห์จะออกจากโรงพยาบาลได้ แต่ต้องระวังเรื่องปอดติดเชื้อซ้ำซ้อน และผู้แทนพระองค์ยังได้นำกระเช้ามามอบให้ด้วย พร้อมกับเปิดเผยว่า สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถทรงห่วงใยผู้ได้รับบาดเจ็บทุกคน
เคลียร์พื้นที่โรงแรมให้รับรถคืน
ส่วนบรรยากาศที่หน้าโรงแรม ลี การ์เดนส์ พลาซ่า เจ้าหน้าที่เปิดพื้นถนนบริเวณรอบโรงแรมลีการ์เด้นส์ พลาซ่า กลับมาสัญจรได้ตามปกติแล้ว ขณะเดียวกัน ทางเทศบาลนครหาดใหญ่ได้ประกาศให้เจ้าของรถยนต์ และรถจักรยานยนต์ที่นำเข้าไปจอดไว้ในลานจอดรถใต้ดินชั้นบี 1-บี 5 ของโรงแรมลีการ์เดนส์ พลาซ่า อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เข้าไปตรวจสอบทรัพย์สินและนำรถออกมาได้แล้ว ภายหลังจากเจ้าหน้าที่ทหาร และหน่วยเก็บกู้วัตถุระเบิด หรืออีโอดีเคลียร์พื้นที่ลานจอดรถแล้วเสร็จ โดยมีประชาชนเจ้าของรถยนต์ และรถจักรยานยนต์มาเฝ้ารอรับรถหลายร้อยคนตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา แต่ในวันนี้ อนุญาตให้เฉพาะนำรถจักรยานยนต์ออกเท่านั้น ส่วนรถยนต์นั้น ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ยังไม่อนุญาตให้นำรถออกมาจากลานจอดรถชั้นใต้ดินได้ เนื่องจากมีหลายคันที่ได้รับความเสียหายอย่างหนัก และเพื่อความเป็นระเบียบ แต่เจ้าของรถยนต์สามารถลงไปดูสภาพรถ และตรวจสอบทรัพย์สินที่อยู่ภายในรถได้ ซึ่งจนถึงขณะนี้ได้มีเจ้าของรถยนต์ และรถจักรยานยนต์ต่างทยอยมารับรถ และตรวจสอบทรัพย์สินที่อยู่ภายในรถกันอย่างต่อเนื่อง
วิศวกรรมสถานส่งผู้เชี่ยวชาญตรวจโครงสร้างอาคาร
ขณะที่นายสุกิจ วัฒนาวงศ์ ผู้อำนวยการสำนักการช่างเทศบาลนครหาดใหญ่ เปิดเผยว่า ทางวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย จะส่งผู้เชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมโยธามาร่วมตรวจสอบโครงสร้างของโรงแรมอย่างละเอียดอีกครั้งหนึ่ง โดยเฉพาะบริเวณชั้นใต้ดินที่เกิดเหตุระเบิดว่ายังสามารถใช้งานได้หรือไม่ หรือต้องมีการปรับปรุงโครงสร้างส่วนใดบ้างเพื่อความปลอดภัย
อาจต้องทุบ บี 2 บี 3
ด้านนายไพร พัฒโน นายกเทศมนตรีเทศบาลนคร (ทน.) หาดใหญ่ เปิดเผยว่า ที่ได้เชิญวิศกรจากคณะวิศวกรรมมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (มอ.) เข้าไปตรวจสอบโครงสร้างของโรงแรม ลีการ์เดนส์ แล้ว โครงสร้างยังแข็งแรง มีเฉพาะชั้น บี 2 และบี 3 ที่ได้รับแรงระเบิดอาจจะต้องทุบทิ้ง แต่จะต้องรอวิศวกรชุดใหญ่ที่มีเครื่องมือพร้อม เข้ามาตรวจสอบอีกครั้งหนึ่งในเร็วๆ นี้ เพื่อให้เกิดความมั่นใจ
จัดงานทำบุญใหญ่ 5 เม.ย.นี้
นายไพร ยังเปิดเผยอีกว่า รัฐบาลจะส่งตำรวจชุดเฉพาะกิจจากส่วนกลาง มาวางแผนร่วมกับตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครองในท้องถิ่นเพื่อรักษาความปลอดภัย และรักษาความสงบในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ส่วนผลกระทบในระยะสั้นและ ระยะยาวเสียโอกาสในการลงทุนนั้นมีแน่นอนแต่ประมาณค่าไม่ได้ จึงต้องเร่งฟื้นฟูหาดใหญ่ให้เร็วที่สุด เรียกความเชื่อมั่นให้กลับมา ในวันที่ 5 เม.ย. นี้จะมีการทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ 99 รูป อุทิศส่วนกุศลให้แก่ผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์คาร์บอมบ์ และเดินหน้าจัดงานมิดไนท์สงกรานต์
ทราบชนิดระเบิดแล้ว
ด้าน พล.ต.อ.วรพงษ์ ชิวปรีชา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้เดินทางลงตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุ และติดตามความคืบหน้าของคดีโดยระบุว่า จากการตรวจวัตถุพยานในที่เกิดเหตุพบว่า ระเบิดที่คนร้ายใช้เป็นระเบิดแสวงเครื่อง ชนิดเอ็มโฟ ใช้สารแอมโมเนียไนเตรตผสมน้ำมันบรรจุถังแก๊สขนาด 15 กิโลกรัม 2 ถัง ส่วนการสืบสวนเกี่ยวกับคนร้ายนั้น เจ้าหน้าที่กำลังหาเบาะแสของผู้ต้องสงสัยจากภาพกล้องวงจรปิดที่สามารถจับภาพไว้ได้ โดยทั้งสองคนเป็นแนวร่วมที่มีประวัติอยู่แล้ว จากนั้นจึงเดินทางไปประชุมชุดสืบสวนสอบสวนที่ สภ.หาดใหญ่เพื่อดูความคืบหน้าของคดี
รู้ตัวสองมือบึ้มลีการ์เดนส์ พลาซ่า
อย่างไรก็ตาม มีรายงานจากชุดสืบสวนของตำรวจภูธรภาค 9 และตำรวจภูธร จ.สงขลา ว่า ขณะนี้ เจ้าหน้าที่ทราบตัวสองคนร้ายที่ขับรถคาร์บอมบ์แล้ว จากเบาะแสของกล้องวงจรปิดโดยทั้งสองคนมีความเชี่ยวชาญในการก่อวินาศกรรม และได้รับการฝึกฝนมาเป็นอย่างดีจากประเทศที่สาม และลักษณะของคาร์บอมบ์ต้องการที่จะให้เกิดความสูญเสียมากที่สุด เนื่องจากจุดที่คนร้ายขับรถลงไปจอดบริเวณชั้น บี 3 นั้น เป็นจุดกึ่งกลางบริเวณลานจอดรถที่อยู่ชั้นใต้ดินทั้ง 5 ชั้น โดยต้องการที่จะให้แรงระเบิดกระจายในลักษณะของโดมิโนลุกลามไปติดรถยนต์คันอื่นๆ ที่มีน้ำมันเบนซิน หรือติดแก๊สซึ่งจะทำให้ไฟไหม้รุนแรงมากขึ้น
เก๋งคาร์บอมบ์ประกอบจากรือเสาะ
สำหรับรถเก๋งที่ใช้ก่อเหตุนั้นเจ้าหน้าที่เผยว่า ประกอบระเบิดคาร์บอมบ์ในพื้นที่ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส พร้อมๆ กับรถยนต์กระบะอีกคันที่เตรียมนำไปก่อเหตุที่ว่าการอำเภอแว้ง จ.นราธิวาส แต่เกิดประสบอุบัติเหตุระหว่างทาง เนื่องจากลักษณะการประกอบระเบิดใกล้เคียงกัน สำหรับกลุ่มผู้ก่อเหตุระเบิดคาร์บอมบ์ ที่ อ.หาดใหญ่ นั้นมีอย่างน้อย 5 คน โดยในจำนวนนี้มีที่เจ้าหน้าที่ทราบชื่อแล้วคือ นายสบาเฮ นายิง ชาว อ.สะบ้าย้อย และนายเจะมะ หรือไคโร หรือมาค่อม ยานิ ชาว อ.จะนะ ซึ่งมีหมายจับคดีลอบยิง นายสุนันท์ แก้วละเอียด นายช่างชลประทานลางา ในพื้นที่ ต.สะพานไม้แก่น อ.จะนะ จ.สงขลา
ผู้ว่าฯ สงขลา ตั้งค่าหัวคนร้าย 1 ล้าน
ด้าน นายกฤษฎา บุญราช ผู้ว่าราชการ จ.สงขลา เปิดเผยว่า ได้ตั้งรางวัลนำจับสำหรับผู้ที่สามารถแจ้งเบาะแสคนร้ายที่ก่อเหตุทั้งสองคน คนคนละ 5 แสนบาท ขณะเดียวกัน ได้เรียกประชุมหน่วยงานทั้งภาครัฐ และเอกชนในพื้นที่ จ.สงขลา เพื่อเดินหน้าฟื้นฟูเมืองหาดใหญ่และหามาตรการรักษาความปลอดภัย โดยได้ขอให้ห้างร้านต่างๆ ปรับปรุงทางเข้าออกให้เหลือน้อยที่สุด ซึ่งง่ายต่อการควบคุม และจัดเจ้าหน้าที่มาอบรม รปภ.เกี่ยวกับการตรวจสอบยานพาหนะ และกิจกรรมต่างๆ ที่จะจัดขึ้นในเร็วๆ นี้ เช่น เทศกาลสงกรานต์ก็ยังคงมีเหมือนเดิม
ช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบเต็มที่
ผู้ว่าราชการ จ.สงขลา กล่าวว่า สำหรับการช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ หรือผู้เสียชีวิตนั้น จะใช้หลักเกณฑ์เดียวกับในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ตามมติของ ครม.เมื่อปี 48 โดยผู้เสียชีวิตหรือเป็นข้าราชการรายละ 5 แสนบาท ส่วนประชาชนรายละ 1 แสนบาท ผู้บาดเจ็บสาหัสรักษาตัวเกิน 20 วันจ่าย 50,000 บาท หากน้อยกว่า 20 วัน จะลดหลั่นกันไป โดยในเบื้องต้นทางจังหวัดได้ช่วยเหลือให้แก่ผู้บาดเจ็บที่รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลทั้ง 337 คนไปแล้ว รายละ 14,000 บาท ส่วนกรณีของนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียก็จะใช้หลักเกณฑ์เดียวกัน ส่วนทรัพย์สินของประชาชนที่เสียหายนั้นจะจ่ายให้ตามความเป็นจริง โดยสามารถแจ้งได้ที่กองอำนวยการหน้าห้างลีการ์เดนส์ พลาซ่า หรือหากเกิน 7 วันให้ไปแจ้งที่อำเภอ
เผาศพนักท่องเที่ยวมาเลเซีย
และในช่วงบ่ายของวันเดียวกันนี้ ที่วัดศรีสว่างวงศ์ หรือวัดเกาะเสือ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา นายสุรพล พนัสอำพล รองผู้ว่าราชการ จ.สงขลา เป็นประธานในพิธีฌาปรกิจศพ นายโลเกียงโฮ ชาวมาเลเซียที่เสียชีวิตจากเหตุลอบวางระเบิดที่โรงแรมลีการ์เดนส์ พลาซ่า ซึ่งเสียชีวิตพร้อมกับ นางยุพิน พุทธิมา ภรรยาชาวไทย ซึ่งได้นำศพไปตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดหลักเขต เขตเทศบาลตำบลสำนักขาม อ.สะเดา โดยในพิธีฌาปกิจได้มีพี่ชาย และญาติเดินทางมาจากประเทศมาเลเซีย โดยประสงค์ที่จะให้มีการฌาปณกิจที่ อ.หาดใหญ่ และนำอัฐิกลับไปบำเพ็ญกุศลต่อที่บ้านเกิดในรัฐเคดาห์ ประเทศมาเลเซีย ขณะเดียวกัน ตัวแทนของทางโรงแรม ลี การ์เดนส์ พลาซ่าได้มอบเงินจำนวน 1.5 แสนบาท ช่วยเหลือครอบครัวของนายโลเกียงโฮด้วย สำหรับ นายโลเกียงโฮ นั้นทำธุรกิจส่วนตัวรับเหมาก่อสร้าง
เลขา ศอ.บต.ปัด ไม่ได้คุยกับแกนนำบีอาร์เอ็น
พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการ ศอ.บต. เปิดเผยถึงเรื่องที่มีการเสนอข่าวว่าตนเองไปเจรจากับแกนนำบีอาร์เอ็น ว่า เรื่องที่มีการนำเสนอข่าวเป็นเรื่องที่ไม่มีความเป็นจริง ที่ผ่านมาตนเดินทางไปพบกลุ่มคนหลายฝ่าย ทั้งในประเทศ และในประเทศมาเลเซีย แต่ไม่ใช่แกนนำของบีอาร์เอ็นฯ อย่างที่เป็นข่าว ที่มาเลเซีย ตนไปพบกลุ่ม “ต้มยำกุ้ง” ซึ่งเป็นคนใน 3 จังหวัด ที่ไปประกอบอาชีพเปิดร้านอาหารในมาเลเซีย เพื่อช่วยเหลือให้ทำงานได้อย่างถูกกฎหมาย เพราะมีจำนวนมากที่เข้าไปอยู่ไม่ถูกต้อง ส่วนในพื้นที่ มีการพบปะพูดคุยกับผู้นำกลุ่มต่างๆ เพื่อทราบปัญหาที่จะต้องแก้ไข แต่ไม่มีการพูดคุยกับแกนนำของบีอาร์เอ็นฯ และที่มีข่าวว่า มีการตั้งนายนัจมุดดีน อูมา อดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทยเป็นที่ปรึกษา ก็ไม่เป็นความจริง ตั้งแต่มารับตำแหน่งเลขาธิการ ศอ.บต. ยังไม่มีการแต่งตั้งใครเป็นที่ปรึกษาแม้แต่คนเดียว ส่วนการพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นยอมรับว่ามี เพราะถือว่าทุกคนมีส่วนในการร่วมแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น