นายกรัฐมนตรีลงพื้นที่ปากน้ำ ตรวจความคืบหน้าขุดลอกสันดอนเจ้าพระยา เชื่อปีนี้สถานการณ์น้ำดีกว่าปีที่ผ่านมา รับอาจมีพื้นที่ท่วมขังบ้าง แต่ไม่นาน หลังวางแผนรับมือจากต้นน้ำ กลางน้ำ ถึงปลายน้ำ ห่วงปลายน้ำยังมีปัญหาด้านเทคนิคต้องเร่งแก้ปัญหา
วันนี้ (12 ก.ค.) เมื่อเวลา 15.00 น.นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และคณะ ตรวจเยี่ยมความก้าวหน้าโครงการขุดลอดสันดอนปากแม่น้ำเจ้าพระยา ที่จังหวัดสมุทรปราการ และศูนย์พัฒนาการประมงแห่งเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ (ซีฟเดค) โดยเรือตรวจการณ์เจ้าท่า 1302 และเรือติดตามเรือตรวจการณ์เจ้าท่า 802 พร้อมรับฟังการรายงาน และนำเสนอการดำเนินงานตามโครงการขุดลอกสันดอนปากแม่น้ำเจ้าพระยา เพื่อช่วยระบายน้ำ โดยโครงการดังกล่าว เมื่อดำเนินการแล้วเสร็จ จะทำให้บริเวณปากแม่น้ำเจ้าพระยาสามารถระบายน้ำจากตอนเหนือออกสู่ทะเลของอ่าวไทยได้เพิ่มจากเดิมอีก 350 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที หรือ 9.50 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน ขณะที่น้ำทะเลต่ำลง จะเป็นการช่วยบรรเทาและแก้ไขปัญหาอุทกภัยในพื้นที่ลุ่มน้ำภาคกลาง และด้านเหนือปากแม่น้ำเจ้าพระยาได้อีกทางหนึ่ง อีกทั้งยังช่วยในการเดินเรือในยามที่ร่องน้ำทางเข้าท่าเรือกรุงเทพ
จากนั้น นางสาวยิ่งลักษณ์ กล่าวถึงความคืบหน้าโครงการขุดลอกร่องน้ำเจ้าพระยา แถบจังหวัดสมุทรปราการ ว่า โครงการนี้สืบเนื่องจากที่ได้มอบหมายให้กรมเจ้าท่า ร่วมกับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สำรวจการระบายน้ำของคูคลองตั้งแต่ต้นน้ำ ว่า แต่ละลุ่มน้ำเชื่อมโยงกันอย่างไร ซึ่งพบว่าบางส่วนตื่นเขินและมีสันดอน ทางรัฐมนตรีกระทรวงคมนาคมได้สั่งการให้กรมเจ้าท่าดำเนินการขุดลอกตรงปากแม่น้ำเจ้าพระยา ความยาว 7 กิโลเมตร หน้ากว้างประมาณ 240 เมตร และลึกจากระดับน้ำทะเลต่ำสุด 3 เมตร ซึ่งจะทำให้เพิ่มประสิทธิภาพในการระบายน้ำได้อีก 500 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวินาที และโครงการนี้จะทำในส่วนของแม่น้ำท่าจีนด้วย อย่างไรก็ตาม โครงการนี้จะแล้วเสร็จในเดือนกันยายนนี้
สำหรับพื้นที่อื่นๆ ของแม่น้ำเจ้าพระยาที่อาจมีจุดตื้นเขินอีกนั้น ได้ให้กรมเจ้าท่าสำรวจด้วยเช่นกัน แต่วันนี้ต้องเอาจุดใหญ่ก่อน เพราะมีข้อจำกัดเรื่องของเวลา และอุปกรณ์ที่ไม่สามารถทำได้เรียบร้อยทั้งหมด แต่จะเลือกจุดสำคัญๆ ทั้งนี้ ขุดแล้วเรือต้องนำดินตะกอนไปทิ้งจุดที่ตั้งอีก 10-20 กิโลเมตร ซึ่งต้องใช้เวลา สำหรับปริมาณน้ำฝนคงไม่มากกว่าปีที่แล้ว แต่หากปริมาณน้ำฝนในวันนี้ตกลงมามาก อาจทำให้การระบายน้ำอาจลงมาฉับพลัน แต่ระบบการระบายน้ำของ กทม.ได้ทำอย่างเต็มที่ ซึ่งได้หารือกันแล้ว พร้อมกันนี้ ได้สั่งการให้แต่ละหน่วยงานลงไปสำรวจหน้างานจริง เพราะบางพื้นที่อาจมีน้ำท่วมขัง อย่างไรก็ตาม น้ำคงไม่ขังนาน ดังนั้นปัญหาที่เกิดขึ้นจะไม่ใช่ภาวะอุทกภัยต่างๆ แค่ปริมาณน้ำฝนที่ตกลงมามาก
อย่างไรก็ตาม การรับมือกับสถานการณ์ในปีนี้คงต้องดีกว่าปีที่ผ่านมา แต่ยากที่จะบอก ขึ้นอยู่กับปริมาณน้ำฝน แต่ ณ วันนี้ ปริมาณน้ำฝนไม่ได้มากกว่าปีที่ผ่านมา แต่การเตรียมการของเราประเมินปริมาณน้ำฝนเท่าปีที่ผ่านมา ถ้าน้อยลงยิ่งมีโอกาสเกิดเหตุต่างๆ น้อยลง ประกอบกับสิ่งที่เตรียมการป้องกันในการสร้างความแข็งแรงของผนังกั้นน้ำและเสริมคันเลียบแม่น้ำรวมถึงการขุดลอกคูคลอง เชื่อว่า หลายๆ องค์ประกอบเหล่านี้น่าจะทำให้ดีขึ้น สิ่งที่ห่วงตอนนี้ คือปลายน้ำ ส่วนต้นน้ำเรื่องฝายชะลอน้ำจะเสร็จกลางเดือนกรกฏาคม ส่วนพื้นที่กลางน้ำเรื่องการก่อสร้างเท่าที่ติดตามน่าจะเสร็จทัน รวมทั้งการติดตั้งเครื่องซีซีทีวี หรือมาตรวัดน้ำเพื่อติดสถานการณ์ลุ่มน้ำในจุดสำคัญๆ จะติดตั้งให้เสร็จก่อน คงเหลือพื้นที่ปลายน้ำที่มีปัญหาด้านเทคนิคอาจต้องติดตามการแก้ปัญหาต่อไป