ส.ส.เมืองคอน ปชป.จี้รัฐบาลหยุดกดดัน-เคารพคำตัดสินศาล ทั้งคำพูดและพฤติกรรม ดัก “ยิ่งลักษณ์” หากวุ่นวายอย่าปัดความรับผิดชอบ ถาม “เฉลิม” มีอคติตุลาการ แต่กลับมาดูแลศาล เห็นด้วย “สมศักดิ์” ชะลอ พ.ร.บ.ปรองดอง ย้อนอย่าลืมตัวเองเป็นต้นเหตุ วอนหยุดแถคลิปหลุดเป็นเรื่องส่วนตัว ตั้งคำถามทำตัวเหมาะสมกับตำแหน่งหรือไม่
วันนี้ (11 ก.ค.) นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการสร้างกระแสเพื่อให้เกิดความขัดแย้งหากศาลไม่ตัดสินตามธงที่ตัวเองกำหนด โดยขอให้ทุกฝ่ายเคารพคำตัดสินของศาล ไม่ควรฟันธงอย่างใดอย่างหนึ่งเพื่อประโยชน์ของตัวเอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งท่าทีของผู้ใหญ่ในทางการเมือง เช่น นายบรรหาร และนายเสนาะ แม้จะมีความปรารถนาดีในฐานะนักการเมืองอาวุโสก็ตาม แต่ท่าทีเหล่านี้มีผลต่ออารมณ์ความรู้สึกและกระแสสังคม จึงอยากให้เคารพคำวินิจฉัยของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งไม่ใช่เคารพเฉพาะคำพูด แต่พฤติกรรมยังมีการให้ท้ายมวลชนเคลื่อนไหวเพราะไม่ถูกต้อง ในขณะนี้กลุ่มที่ต้องจับตามองมากที่สุด คือ มวลชนที่สนับสนุนรัฐบาล เพราะท่าทีแกนนำ คือนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.เกษตรฯ ที่ระบุว่าศาลคงมีคำวินิจฉัยไปในทางที่ดี ถ้าเป็นไปในทางลบจะประชุมแกนนำเพื่อเคลื่อนไหวมวลชนคนเสื้อแดงนั้นเป็นท่าทีเอาแต่ได้ เป็นการกดดันตุลาการศาลรัฐธรรมนูญว่าต้องมีคำตัดสินที่เป็นประโยชน์ต่อฝ่ายตัว หากเป็นลบจะกดดัน จึงอยากให้ทุกฝ่ายยอมรับกติกาคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ และเชื่อว่าหลังจากคำตัดสินหากมีความวุ่นวายเกิดขึ้น รัฐบาลก็หนีความรับผิดชอบไม่พ้น โดยเฉพาะนายกรัฐมนตรีแม้จะอยู่ในประเทศวันที่ 13 ก.ค.ก็ตาม
นายเทพไทยังกล่าวต่อว่า การที่นายกรัฐมนตรีมอบหมายให้ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ดูแลแล้วก็ตาม แต่ตนไม่มั่นใจการทำหน้าที่ของ ร.ต.อ.เฉลิม เพราะก่อนหน้านี้เคยพูดว่าจะมีความวุ่นวายเกิดขึ้นหลังการตัดสินของศาล รวมทั้งระบุว่ามีหลายองค์กรรวมตัวกันไม่ยอมรับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ เป็นท่าทีที่เป็นผลต่อการทำงานของศาล จึงไม่มั่นใจว่าคนที่มีทัศนคติเช่นนี้จะดูแลการทำงานของศาลได้หรือไม่ เนื่องจากมีอคติต่อศาลรัฐธรรมนูญอย่างชัดเจน
นายเทพไทกล่าวถึงกรณีที่นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานรัฐสภา ระบุว่าจะมีการชะลอร่าง พ.ร.บ.ปรองดองในสภาออกไปนั้น นายเทพไทกล่าวว่า สนับสนุนแนวคิดนี้และขอให้เกิดผลจริงในทางปฏิบัติ เพราะในฐานะประมุขฝ่ายนิติบัญญัติมีช่องทางพูดคุยกับผู้เสนอญัตตินอกรอบได้ เพราะเป็นคนใกล้ชิดคือเป็นคนของรัฐบาลทั้งสิ้น อย่าเลี่ยงบาลี หรือไม่รับผิดชอบต่อการกระทำของตัวเองในอดีต คือการบรรจุวาระ พ.ร.บ.ปรองดองเข้ามาเป็นเรื่องเร่งด่วนจนเกิดปัญหา และยังมีการพูดว่าอยากให้บ้านเมืองสงบก็ต้องทำให้ได้
อย่างไรก็ตาม ตนไม่เห็นด้วยที่นายสมศักดิ์อ้างว่าคลิปเสียงที่ออกมาเป็นเรื่องส่วนตัวนั้น ฟังไม่ขึ้น เชื่อว่าเรื่องนี้จะกระทบต่อการทำหน้าที่ของนายสมศักดิ์ เมื่อเปิดสมัยประชุมสภาจะมีสมาชิกทวงถามเรื่องการทำหน้าที่ ต้องเปิดโอกาสให้ ส.ส.ได้ซักฟอกนายสมศักดิ์ก่อนการทำหน้าที่ เพราะเนื้อหาในคลิปไม่ใช่เรื่องส่วนตัว แต่พูดถึงการทำงานในสภาและปัญหาที่จะเป็นความเป็นความตายในบ้านเมือง จะอ้างเป็นเรื่องส่วนตัวไม่ได้