“ปลอดประสพ” โว “เพื่อไทย” อยู่ชั่วกัลปาวสาน ไม่มีถูกยุบ หนุนข้อเสนอ “บิ๊กจิ๋ว” ให้ศาล รธน.ชี้แนะวิธีการ ไม่ควรตัดสินคดีแก้ รธน.ล้มล้างการปกครอง อ้างมาจากต้นไม้พิษ ต้องรื้อทิ้งแล้วร่างใหม่
นายปลอดประสพ สุรัสวดี รมว.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ในฐานะรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี ระบุว่าผลการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ กรณีแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 291 เข้าข่ายล้มล้างการปกครอง จะเกิดความเสียหายต่อบ้านเมืองและทำให้เกิดความขัดแย้งรอบใหม่ที่รุนแรงขึ้นว่า ดูเหมือน พล.อ.ชวลิต จะบอกว่าศาลรัฐธรรมนูญอย่าตัดสินเลย แต่ควรให้คำแนะนำดีกว่า ซึ่งตนเคยบอกแล้วว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ไม่ได้เป็นการทำลายระบอบการปกครอง เพราะการที่พวกตนขอแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นการขอแก้ไขตามครรลองของรัฐธรรมนูญตามที่พวกตนเข้าใจโดยผ่านระบบรัฐสภา เพื่อให้รัฐธรรมนูญเป็นประชาธิปไตยมากขึ้น ประชาชนจะได้มีสิทธิ์มีเสียงเท่าเทียม รวมถึงเกิดเสรีภาพและภราดรภาพในประเทศไทยอย่างแท้จริง
ดังนั้น ในเมื่อหลักคิดเป็นแบบนี้ที่ยึดถือประชาธิปไตย ประชาชน และรัฐสภา มันจะเป็นการทำลายระบอบการปกครองได้อย่างไร แต่คนที่สร้างรัฐธรรมนูญฉบับเก่ามาจากการรัฐประหาร และถูกสร้างด้วยการปกครองแบบเผด็จการซึ่งเป็นการคิดเอง ตั้งคนขึ้นมาเอง อนุมัติเอง และบังคับให้ประชาชนรับ ขณะที่พวกตนใช้ระบบรัฐสภา มีการถกเถียงและลงมติในรัฐสภา
นอกจากนี้ ศาลรัฐธรรมนูญจะต้องบอกหรืออธิบายว่าสิ่งที่ถูกต้องตามรัฐธรรมนูญ ฉบับปี 2550 หรือฉบับปฏิวัตินั้นควรเป็นอย่างไร ซึ่งเราจะรับฟังและก็ต้องนำมาปฏิบัติ ซึ่งตนคิดว่า พล.อ.ชวลิต ก็คงพูดคล้ายๆ กับตนว่าขอให้ศาลรัฐธรรมนูญบอกมาว่าควรจะทำอย่างไร ไม่ใช่มาตัดสินว่าเป็นการทำลายล้างระบอบการปกครอง ทั้งที่เรามาสร้างสรรค์การปกครองระบอบประชาธิปไตยให้เข้มแข็งกว่าเดิม
ส่วนพรรคเพื่อไทยพร้อมรับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญในวันที่ 13 ก.ค.นี้หรือไม่นั้น รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทยกล่าวว่า ตนไม่รู้และยังไม่ถึงขั้นที่จะตอบคำถามนั้น ส่วนการนัดหารือกันในพรรคเพื่อไทย ในวันนี้ (9 ก.ค.) ก็ไม่ได้เป็นการหารือเพื่อเตรียมความพร้อมรับมืออะไร เพราะพวกตนไม่ได้คิดไกลขนาดนั้น แต่คิดถึงการทำงานในรัฐสภาตามครรลองของระบอบประชาธิปไตย ซึ่งตนคิดว่าสิ่งที่เราทำมาก็ถือว่าดีที่สุดแล้ว คือการเป็นปฏิปักษ์กับการรัฐประหารและรัฐธรรมนูญ ซึ่งมาจากการรัฐประหารที่เป็นต้นไม้พิษ ให้เป็นต้นไม้ที่ออกดอกผลของประชาธิปไตย อย่างไรก็ตาม พรรคของตนมองโลกในแง่ดีและพยายามทำให้ประเทศไทยมีความเป็นประชาธิปไตยมากขึ้นเรื่อยๆ
“คณะที่สร้างรัฐธรรมนูญฉบับเก่าปล้นประชาธิปไตยเขามา ดังนั้นอย่ามาอ้างรัฏฐาธิปัตย์ ผมไม่ยอมรับศัพท์คำนี้ คำนี้เป็นคำเสนียด เป็นภาษาเผด็จการ ข้อกล่าวหาของเขาก็เป็นข้อกล่าวหาเลอะเทอะ ถ้าอย่างนั้นใครก็เดินไปชี้หน้าคนอื่นว่าเป็นฆาตกรก็ได้ แต่ผมชี้หน้าได้นะว่าคนนี้เป็นคนปฏิวัติ พล.อ.สมเจตน์ (บุญถนอม) คุณเป็นนักปฏิวัติที่กลับตัวมาอยู่ในระบอบประชาธิปไตย แต่คนก็ยังไม่เชื่อใจคุณ ถ้าคุณมีปัญหาก็ฟ้องผมได้เลย พวกผมแก้รัฐธรรมนูญให้เป็นประชาธิปไตย คุณกลับมากล่าวหาว่าพวกผมทำลายผลผลิตของการปฏิวัติ แล้วอย่างนี้คุณเป็นนักประชาธิปไตยได้อย่างไร”
ผู้สื่อข่าวถามว่าคิดว่ามีสิทธิ์ที่พรรคเพื่อไทยจะถูกตัดสินยุบพรรคหรือไม่ นายปลอดประสพกล่าวว่า ไม่มี พรรคเพื่อไทยถูกสร้างมาเพื่อประชาชน เป็นของประชาชน และต้องอยู่กับประชาชนไปชั่วกัลปาวสาน