ใครฆ่า ขุนค้อน-สมศักดิ์? โม้มากเลยตายเพราะปาก

คลิปเสียง สมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานสภาผู้แทนราษฏรที่ไปกล่าวในงานเครือญาติ พี่น้อง เพื่อนฝูง หัวคะแนนและแกนนำนปช.แดงขอนแก่นบางส่วนประมาณ 50 คน ในงานวันคล้ายวันเกิดที่จัดกันล่วงหน้าเมื่อ23 มิ.ย. ก่อนที่จะถึงวันเกิดจริง 27 มิ.ย. ณ รีสอร์ทแห่งหนึ่งแถวๆ อุทยานแห่งชาติน้ำหนาว จ.เพชรบูรณ์

คลิปดังกล่าวมีความยาวร่วมๆ 26 นาที แต่เนื้อหาหลักก็คือการบอกเล่าเบื้องหลังทางการเมืองที่ไม่ค่อยมีใครรู้ กับการเดินหน้า-ถอยหลังการออกพ.ร.บ.ปรองดองแห่งชาติและการที่รัฐบาลและพรรคเพื่อไทย ตัดสินใจถอยไม่ยอมโหวตแก้ไขรัฐธรรมนูญวาระ 3 เพื่อชนกับศาลรัฐธรรมนูญที่รับคำร้องคดีแก้ไขรธน.มาตรา 291 ขัดรัฐธรรมนูญมาตรา 68 มีการเปิดศาลไต่สวนคำร้องกันไปแล้วเมื่อ 5-6 ก.ค.ที่ผ่านมา

ผลจากการเปิดคลิปเสียงนี้ทำให้เก้าอี้ประธานสภาฯของสมศักดิ์กลับมาร้อนอีกครั้ง

โดยถูกตั้งคำถามถึงความเหมาะสมในการทำหน้าที่ประมุขนิติบัญญัติ ที่คลิปเสียงดังกล่าวเป็นการแก้ผ้าล่อนจ้อนประจานตัวเอง ให้สังคมได้เห็น

จริงอยู่ว่า สมศักดิ์ คือส.ส.ขอนแก่น พรรคเพื่อไทย เป็นประธานสภาฯ ที่มาจากพรรคเพื่อไทยโดย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายใหญ่หัวหน้าพรรคเพื่อไทยตัวจริงส่งให้มารับตำแหน่ง

แต่ด้วยความที่ขึ้นมาถึงประธานสภาฯแล้ว ก็ต้องมีระยะห่างจากฝ่ายการเมืองพอสมควร เพื่อดำรงไว้ซึ่งความน่าเชื่อถือและความเป็นกลาง อย่างธรรมเนียมที่ปฏิบัติกันก็เช่นการไม่เข้าร่วมกิจกรรมการเมืองของพรรคต้นสังกัดมากนัก โดยเฉพาะการเข้าประชุมส.ส.หรือประชุมพรรคเพื่อรักษาระยะห่างทางการเมือง

แต่คลิปเสียงดังกล่าว สมศักดิ์ บอกเองว่าเข้าร่วมประชุมคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทยหลายครั้ง เพื่อไปประชุมกับแกนนำพรรคที่เป็นกรรมการยุทธศาสตร์เช่น สมชาย วงศ์สวัสดิ์ -โภคิน พลกุล-จาตุรนต์ ฉายแสง-สุชน ชาลีเครือ เพื่อหารือเรื่องการโหวตร่างแก้ไขรธน.วาระ 3 หลังศาลรธน.รับคำร้อง รวมถึงบอกเองด้วยว่าในการประชุมกรรมการยุทธศาสตร์ที่จะชี้ขาดเรื่องนี้ ทักษิณ ชินวัตร สไกป์มาจากต่างประเทศมายังห้องประชุมเองด้วย จนสุดท้าย สมศักดิ์ จึงไม่ยอมให้มีการโหวตแก้ไขรธน.วาระ 3

แค่นี้ ความสง่างามของขุนค้อนในการทำหน้าที่ประธานสภาฯ ก็หมดไปแล้ว เพราะแสดงให้เห็นว่า การตัดสินใจเรื่องต่างๆ ของประมุขฝ่ายนิติบัญญัติ ซึ่งแทนที่จะต้องสง่างาม เป็นตัวของตัวเอง แต่สมศักดิ์ กลับตัดสินใจบนการสั่งการและเห็นชอบจากที่ประชุมคณะกรรมการยุทธศาสตร์ และที่สำคัญบนการเห็นชอบของตัวทักษิณ ชินวัตร

ซึ่ง “ทีมข่าวการเมืองASTVผู้จัดการ”ขอนำเนื้อหาในส่วนนี้ของคลิปดังกล่าวมาสะท้อนให้เห็นถึงตัวตนของสมศักดิ์กันช่วงหนึ่ง

“ปรากฏว่าเย็นวันนั้น นายกสมชายโทรกลับมาหาผมอีก บอกผมว่าอย่างนี้ครับ บอกว่าท่านทักษิณบอกผมว่าที่ประชุมกรรมการยุทธศาสตร์เห็นอย่างไรให้นำท่านประธานสมศักดิ์ ถ้าท่านประธานสมศักดิ์เห็นด้วย ก็เอาเลย แต่ถ้าท่านประธานสมศักดิ์ไม่เห็นด้วย ให้เอาตามท่านประธานสมศักดิ์ พรรคเพื่อไทย 111 กำลังจะโชว์พาว อยากเป็น รมต. กำลังจะโชว์พาว

ปรากฏว่านกกระจอกยังไม่ทันจะกินน้ำ โดนน็อคหมดเลยทั้งเข่ง แล้วหลังจากนั้นอีก 1-2 ชั่วโมง นายกสมชายโทรมาอีกที ท่านพรุ่งนี้ว่างมั้ย 10.30 อยากประชุมร่วมกรรมการยุทธศาสตร์ ท่านทักษิณจะสไกร์มา ไม่สบายใจอยากพูดเอง ปรากฏว่าวันรุ่งขึ้น 10.30 ในที่ประชุมบรรยากาศคนละเรื่องกับบรรยากาศเมื่อวาน

เมื่อวานผมโดนรุมกินโต๊ะ แต่วันนี้ผมไม่ได้พูดอะไรเลย ปรากฎว่าคนทางไกลพูดแทนผมหมดเลย เอาเหตุผลที่ผมล้มล้างความคิดของท่านนั้นแหละ เอาเหตุผลมาล้มล้างกรรมการยุทธศาสตร์ของพรรคทั้งหมด หลังจากนั้นหงอกันหมดเลย”

หรือแม้แต่การเปลือยตัวตนให้สังคมเห็นว่าที่เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา การที่สมศักดิ์ ออกมาเปิดประเด็นให้มีการถอนร่างพ.ร.บ.ปรองดองแห่งชาติออกไปจากการพิจารณาของสภาฯก่อนหลังมีการเปิดสภาฯวันที่ 1 สิงหาคม

ตอนนั้นหลายคนก็ตายใจนึกว่า สมศักดิ์ เป็นห่วงชาติบ้านเมือง ต้องการเห็นคนไทยเลิกเผชิญหน้ากัน ถึงขั้นเสนอให้มีการถอยกฎหมายปรองดองอันเป็นกฎหมายที่ทักษิณ นายใหญ่หรือหัวหน้าของสมศักดิ์จะได้ประโยชน์เต็มๆ จากการไม่ต้องรับผิดคดีความต่างๆ รวมถึงได้เงินคืน 4.6 หมื่นล้านบาท

คนก็พูดกันมากว่า สมศักดิ์ กินยาผิดซองอะไรหรือเปล่า ถึงกล้าหักกับทักษิณและเพื่อไทย ในการจะมาบอกให้ถอยกฎหมายปรองดองไปก่อน

แต่แล้ว คลิปเสียงดังกล่าว ก็เปิดเผยธาตุแท้ ประธานสภาฯให้สังคมแลเห็นว่า ที่แท้ ก็เป็นหมากของสมศักดิ์ ที่บอกให้ทักษิณสั่งถอยกฎหมายปรองดองเพื่อให้รัฐบาลไปจัดเวทีเสวนาปรองดองทั่วประเทศ ไปโฆษณาชวนเชื่อให้ประชาชนเห็นว่าทักษิณไม่ได้รับความเป็นธรรมแล้วเอาประชาชนมาเป็นกำแพงปกป้องหนุนหลังทักษิณและรัฐบาลในการออกกฎหมายปรองดองอย่างที่กล่าวไว้ตอนหนึ่งดังนี้

“ เปิดสภา 1 สิงหานี้ครับ ถอนพ.ร.บ.ปรองดองออกไป แล้วไปประชาเสวนาหาทางออกจริงทั่วประเทศไทยแล้วใช้สื่อของรัฐโหมประโคมความจริงวันนี้ แล้วอาศัยประชาชนเป็นกำแพงพิงเราต้องการความเป็นธรรมใช่ไหมเราเป็นฝ่ายถูกกระทำใช่ไหมเราเป็นฝ่ายไม่ได้รับความชอบธรรมใช่ไหม ก็เอาตรงนี้ไปบอกให้ประชาชนทั้งประเทศเขารู้สิ เขาจะได้เป็นผู้ที่คืนความชอบธรรมให้กับเราไง

แล้วประชาชนทั้งประเทศจะเป็นเกราะคุ้มกันให้เราได้อย่างดี สรุปแล้วครับ ทนลำบากมา 5 ปีแล้ว ลำบากต่ออีกซัก 6 เดือนจะเป็นอะไรครับ”

เมื่อมีคลิปเสียงอัปยศถูกเผบแพร่ออกมา และในภายหลังคนเพื่อไทยออกมาบอกว่าสมศักดิ์ยอมรับเป็นเสียงของตนเอง ในทางการเมืองแล้วมีผู้เสียหายหลายคน ทั้งสมศักดิ์ -ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร -พรรคเพื่อไทย แต่สำหรับทักษิณแล้ว แทบไม่มีอะไรต้องเสีย เพราะทุกวันนี้ก็เสียอยู่แล้ว และทุกคนก็รู้ว่าทักษิณกำกับการทำงานทุกอย่างของรัฐบาลเพื่อไทยทั้งงานบริหารและงานนิติบัญญัติ เพื่อผลประโยชน์ของตัวทักษิณเองคือการได้กลับมาเมืองไทยโดยไม่มีความผิดไม่ต้องติดคุก

โดยเห็นได้จากคำพูดในคลิปดังกล่าวตอนหนึ่งที่บอกว่า เรื่องความเห็นการปิดสมัยประชุมฯสภาที่ผ่านมา ปรากฏว่าทักษิณเป็นคนตัดสินใจร่วมกับยิ่งลักษณ์ หลังทักษิณเห็นว่าไม่ควรปิดให้เปิดค้างไว้รอให้ศาลรธน.วินิจฉัยคดีแก้ไขรธน.เสร็จก่อนแล้วค่อยมาโหวตวาระ 3 เลย ทว่ายิ่งลักษณ์ไม่เห็นด้วย แต่สุดท้าย ทักษิณก็เห็นด้วยให้ปิดประชุมสภาฯหลังโทรมาถามสมศักดิ์

หากจะให้ยิ่งลักษณ์โกรธสมศักดิ์ตรงไหนมากที่สุด ก็คงตรงนี้ แน่นอน เพราะแสดงให้เห็นว่า ยิ่งลักษณ์ คือนายกฯหุ่นเชิดจริงๆ

แต่หากจะให้ชี้ว่าใครเสียมากที่สุด ก็คงไม่พ้น “ค้อนปลอม สมศักดิ์” ที่เนื้อหาในคลิปเสียงไม่เป็นผลดีใดๆ เลยต่อตัวประธานสภาฯ ทั้งในเรื่องการยอมรับของสังคม แล้วยังทำให้คนในพรรคจำนวนมากไม่พอใจแน่นอน

แม้ว่าคนใกล้ชิดสมศักดิ์ในเพื่อไทยพยายามบอกว่า เป็นการแสดงให้เห็นว่าสมศักดิ์เป็นห่วงปัญหาการเมืองในประเทศจะนำไปสู่ความรุนแรงหากมีการโหวตแก้ไขรธน.วาระ 3 หรือเดินหน้ากฎหมายปรองดอง

ก็เป็นข้อแก้ตัวที่ฟังไม่ขึ้น เพราะหากดูเนื้อหาและฟังเสียงคลิปดังกล่าวทั้งหมดจะเห็นได้ว่า สิ่งที่สมศักดิ์เสนอและเคลื่อนไหวทั้งหมดทั้งการให้พรรคยุติการโหวตแก้รธน.วาระ 3 หรือให้ถอยกฎหมายปรองดอง

สมศักดิ์คิดและทำบนหลักที่ว่าเพื่อให้ยิ่งลักษณ์ปลอดภัยทางการเมือง พยายามเซฟตัวรัฐบาลและพรรคเพื่อไทย ขณะเดียวกันก็จะทำให้ตัวเองเป็นประธานสภาฯได้นานๆ ตามไปด้วย สมศักดิ์หาได้คิดถึงประโยชน์ส่วนร่วมอะไรเลย

“ทันทีที่ลงวาระ3 ปธ.รัฐสภาต้องส่งเรื่อง รธน. ให้นายกนำขึ้นทูลเกล้าภายใน 20 วัน แล้วจะเกิดอะไรขึ้นรู้มั้ยครับ นายกก็จะอยู่ในสภาพที่ผมเป็นอยู่ในตอนนี้ เดินหน้าก็ผิด ถอยหลังก็ผิด อยู่เฉยๆ ก็ผิด

แล้วมันจะอ้างตรงที่ละเมิดคำสั่งศาล รธน. ลงวาระ 3 ถือว่าเป็นโมฆะ รธน.เป็นโมฆะ นายกต้องถอนเรื่อง รธน.ออกไป ถ้านำขึ้นทูลเกล้า ถือว่าเป็นเรื่องรบกวนพระยุคคลบาท หาว่าไม่จงรักภักดี เจออย่างนี้จะทำอย่างไร”

ยังไม่รู้ว่าชะตากรรมของสมศักดิ์จะเป็นอย่างไรต่อไป แต่สิ่งหนึ่งที่น่าคิดก็คือ เป็นไปได้หรือไม่ว่านี้จะเป็น

แผนฆ่าสมศักดิ์ของทักษิณและเพื่อไทยเอง

และวิธีที่เนียนที่สุดก็คือใช้เครื่องมือฝ่ายตรงข้ามอย่างทีวีบลูสกาย ของประชาธิปัตย์ เพราะเมื่อคนปชป.นำคลิปเสียงนี้มาเปิด ในรายการของบลูสกาย คนทั่วไปก็คงคิดว่ามีคนในงานเลี้ยงดังกล่าวที่เพชรบูรณ์เป็นพวกปชป.ไปร่วมงานแล้วนำมาเปิด

ทั้งที่สามารถมองได้อีกมุมหนึ่งว่า ถ้าฟังจากเนื้อหาทั้งหมด จะพบว่า สมศักดิ์ ชักทำตัวเหนือการคอนโทรลของทักษิณแล้ว และทำงานไม่ตอบสนองความต้องการของทักษิณเท่าที่ควรโดยเฉพาะเรื่องการให้ถอยกฎหมายปรองดอง โดยบอกให้รอไปครึ่งปี ซึ่งไม่มีหลักประกันว่าถึงเวลานั้น กฎหมายปรองดองจะเดินหน้าต่อไปหรือไม่

ซึ่งทักษิณดันสมศักดิ์เป็นประธานสภาฯ ไม่ใช่คนอื่นอย่าง พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย หรือวิทยา บุรณศิริ ก็เพราะทักษิณเชื่อว่าสมศักดิ์ ทำงานตอบสนองได้ดีกว่า แต่วันนี้ชักคอนโทรลยาก และไม่ตอบสนองแล้ว จึงเป็นไปได้หรือไม่ ที่คนในเพื่อไทยที่รับรู้ความรู้สึกนี้ของทักษิณก็เลยต้องจัดการสอยสมศักดิ์ ด้วยวิธีการเนียนๆ

โดยการนำคลิปดังกล่าวที่คนไปร่วมงานได้ต้องไม่ธรรมดาแน่นอนมาทำลายสมศักดิ์ให้อยู่ในตำแหน่งต่อไปไม่ได้ จะได้เอาคนอื่นในเพื่อไทยที่พร้อมจะทำงานสนองทักษิณมากกว่ามาเป็นประธานสภาฯแทน เพราะการเมืองในเพื่อไทยใครๆ ก็รู้ว่าแรงสุดขั้ว ทุกคนพร้อมจะแทงข้างหลังพวกเดียวกันเองอยู่แล้ว

แต่ไม่ว่าจะอย่างไร สมศักดิ์ ตกอยู่ในสภาพ กลืนไม่เข้า คายไม่ออกแน่นอน จากเหตุ โม้เกินไปหน่อย นี้แหละที่เขาเรียก ตายเพราะปาก