กองทัพบกใช้ค่ายรบพิเศษฝึก 150 โจ๋จาก 33 สถานศึกษา ตามโครงการ “สุภาพบุรุษอาชีวะ” หั่นผมเกรียนเข้าค่าย 10 สัปดาห์ ใครหนีให้สถานศึกษาไล่จับคืน วอนผู้ปกครองเข้าใจ ฝึกไม่เท่าทหารเกณฑ์ หวังเป็นภูมิคุ้มกันในการดำรงชีวิตในอนาคต เผย ทบ.ทบ.กำชับเน้นเรื่องความปลอดภัย ตรวจสุขภาพให้ละเอียด หวั่นเกิดอันตราย
ที่กองบัญชาการกองทัพบก เมื่อเวลา 11.00 น.วันนี้ (3 ก.ค.) พ.ท.วันชนะ สวัสดี รองโฆษกกองทัพบก แถลงถึงความคืบหน้าโครงการ “สุภาพบุรุษอาชีวะ” ว่าจะใช้ค่ายฝึกศูนย์สงครามพิเศษ หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ จ.ลพบุรี เพียงค่ายเดียว โดยมีจำนวนนักเรียนอาชีวะที่เข้าฝึก 150 คน ซึ่ง 100 คน มาจากโรงเรียนอาชีวะภาคเอกชน 17 สถาบัน อีก 50 คนมาจากอาชีวะภาครัฐบาล 16 สถาบัน ใช้ระยะเวลาในการฝึกทั้งสิ้น 10 สัปดาห์ จะเริ่มฝึกตั้งแต่ 17 ก.ค.สิ้นสุดในสัปดาห์สุดท้ายของเดือน ก.ย. โดยผู้เข้าร่วมการอบรมคัดจากนักเรียนอาชีวะที่ศึกษาในชั้นปีที่ 2 เป็นหลัก แต่ถึงวันที่คัดเลือกอาจจะมีนักศึกษาชั้นปีอื่นร่วมด้วย ใช้อัตราส่วนของครูที่ดูแลต่อนักเรียนรวม 1 ต่อ 5 คน และจะประเมินการทำงานทุกวัน
พ.ท.วันชนะกล่าวว่า วันที่ 17 ก.ค.นี้จะเป็นการเปิดปฐมนิเทศ ซึ่งมีผู้ปกครองเข้าร่วมด้วยเพื่อให้ทราบถึงขั้นตอน และวิธีการฝึกอย่างละเอียด โดยตลอด 10 สัปดาห์ทั้งหมดจะอยู่ที่ค่ายฝึก ซึ่งกองทัพบกไม่อนุญาตให้นักเรียนกลับบ้านได้ แต่ให้ผู้ปกครองเข้าเยี่ยมได้หลังการฝึกผ่านไปแล้ว 4 สัปดาห์
“สิ่งที่อยากทำความเข้าใจกับผู้ปกครอง คือ กองทัพบกให้ความสนใจที่จะมอบสิ่งที่เป็นประโยชน์ รวมถึงเล็งเห็นศักยภาพของกลุ่มเด็กเหล่านี้ที่จะทำประโยชน์ให้สังคม ซึ่งไม่ได้เป็นการเพ่งเล็งจับผิดแต่อย่างใด และดูว่าจะนำเด็กเหล่านี้ไปทำอะไร โดยในวันแรกจะมีการตัดผมเกรียน ทรงทหาร แต่ก็กองทัพบกก็ยอมรับว่าในวันจริงอาจจะมีนักเรียนที่คัดไว้มารายงานตัวไม่ครบ เพราะไม่ได้สมัครใจมาทั้งหมด ส่วนใหญ่ถูกบังคับมา ทำให้มีโอกาสที่จะหนี แต่เราจะดูแลอย่างดี มีทหารเฝ้าเวรยาม แต่หากมีทางสถาบันต้องติดตามตัวกลับมา”
พ.ท.วันชนะกล่าวว่า ในช่วงการฝึก 4 สัปดาห์แรกจะเป็นช่วงของการละลายพฤติกรรม แต่ใน 6 สัปดาห์ที่เหลือจะเป็นการฝึกทางวิชาการ รวมทั้งมีการไปดูงานด้วย ซึ่งที่เลือก จ.ลพบุรี เพราะใกล้กับ จ.พระนครศรีอยุธยา อ่างทอง สิงห์บุรี สระบุรี มีโรงงานอุตสาหกรรมมาก กองทัพบกจะพาไปดูงานในสถานที่เหล่านั้น รวมถึงทัศนศึกษาในสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ และโครงการอันเนื่องพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เศรษฐกิจพอเพียง ทั้งในค่ายทหาร รวมทั้งสถานที่ต่างๆ ที่มีความสำคัญ ทั้งนี้ สถานศึกษากำลังพิจารณาร่วมกับกองทัพบก ในการดูเวลาของการศึกษาทางวิชาการ เพื่อดูว่าชั่วโมงเรียนจะพอหรือเทียบกับการได้วิทยฐานะทางการศึกษาหรือไม่ ถ้าไม่พอทางสถาบันก็ต้องจัดหลักสูตรเร่งรัดให้นักเรียนที่มาร่วมโครงการได้ศึกษาจนครบ
“ที่กังวลกันว่าจะนำเด็กเหล่านี้ไปฝึกหนักเหมือนกับทหารหรือไม่นั้น ผมขออธิบายว่าเราฝึกทหารใหม่เพื่อให้เขามีความรู้ความสามารถ มีกำลังกาย กำลังใจ ใช้การปฏิบัติภารกิจทางทหาร แต่เด็กกลุ่มนี้เป็นเด็กที่กำลังศึกษาเทียบเท่ามัธยมปลายอายุระหว่าง 15-17 ปี วัตถุประสงค์ในการฝึกคือเราต้องการให้เขาเห็นคุณค่าในตัวเอง นำความรู้ความสามารถไปใช้ประโยชน์ในวิชาชีพของเขา เพราะฉะนั้น การฝึกจึงไม่เหมือนกับการฝึกทหารใหม่ และที่คนอาจมองว่าเชื่อมั่นได้อย่างไรว่าเป็นเด็กที่อยู่ในเกณฑ์เสี่ยงทั้งหมด ซึ่งกองทัพบกไม่สนใจว่าเขาจะอยู่ในเกณฑ์เสี่ยงหรือไม่ หรือต้องเป็นผ้าขาวมาเลย แต่เราสนใจว่าจะให้ศักยภาพ แนวทางการดำรงชีวิต และ ทัศนคติที่ดีกับเขา สิ่งที่จะได้คือภูมิคุ้มกันในการดำรงชีวิตในอนาคต แต่เราไม่อยากให้สังคมคาดหวังว่าผู้ที่อบรมแล้วจะดีเจ๊งหมด เพราะเป็นไปไม่ได้” พ.ท.วันชนะกล่าว
พ.ท.วันชนะกล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก ยังได้กำชับเรื่องความปลอดภัยว่าต้องมีการตรวจร่างกายก่อนเข้ารับการฝึก เพราะแต่ละคนอาจมีโรคประจำตัว เป็นห่วงว่าอาจจะอันตรายได้ อีกทั้งการฝึกครั้งนี้ต้องได้รับการยินยอมจากผู้ปกครอง เพราะไม่มีกฎหมายรองรับ ไม่เหมือนการฝึกทหารเกณฑ์ ดังนั้นขอให้ผู้ปกครองคิดว่า เหมือนกับให้ลูกของท่านมาเข้าค่ายลูกเสือ เพื่อฝึกกิจกรรมร่วมกัน